วันพฤหัสบดีที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2561

MOODS LOVE IS SO CUTE EYEBROW CREAM SET : MG-Review



สวัสดีค่าทุกคน สงกรานต์นี้มีที่เขียนคิ้วกันน้ำแบบเจ๋งๆกันแล้วรึยัง ถ้ากำลังมองหากันอยู่ มิ้วมี REVIEW ดีๆ มาแนะนำจร้า นั่นก็คือ เจลคิ้ว BELOV MOODS Love is SO CUTE EYEBROW CREAM SET ที่มาพร้อมกับแปรงในตัว ช่วยให้เราเขียนคิ้วได้ง่ายขึ้น ขนแปรงนิ่ม เนื้อครีมนุ่ม ทั้งกันน้ำ และติดทน 100% เลยจ้ะ จะเป็นยังไงบ้างนั้น ไปชมกันเลยจร้าาาาาาาาาาา



แพคเกจจิ้ง สีส้ม สดใส น่ารัก รูปภาพชัดเจน

ด้านล่าง มีบอกว่า กันน้ำ ติดทน 24 ชั่วโมง และลบได้ด้วยที่ลบเครื่องสำอาง

ด้านบน จะบอกเบอร์และสีของที่เขียนคิ้วเอาไว้

ด้านหลัง จะบอกชื่อ ยี่ห้อ วิธีใช้ รูปก่อนและหลังเขียนคิ้ว
ส่วนประกอบสำคัญ นำเข้าและจัดจำหน่าย ผู้ผลิต เลขที่ใบรับแจ้ง
มีปริมาณสุทธิ 2 กรัม


ที่มิ้วได้มามีทั้งหมด 3 สี จ้า

ด้านสีที่ยาวกว่า จะเป็นแปรง เวลาเปิดให้ดึงขึ้นมา
ด้านสีที่สั้น จะเป็นเนื้อครีม เวลาใช้ต้องหมุนออกมา

แปรงมีลักษณะ แบน หัวตัด ขนนุ่ม เขียนง่ายไม่เจ็บคิ้ว


01- Caffè latte สีน้ำตาลอ่อน เหมาะกับผมโทนสว่าง
02- Mocaccino สีน้ำตาลแดง เหมาะกับผมสีกลางๆ 
03- Espresso สีน้ำตาลเข้ม เหมาะกับผมสีเข้ม 


จะเห็นว่ามีเนื้อครีมอยู่ข้างใน เยอะเลยทีเดียว เรียกว่า ใช้กันคุ้มเลยค่ะ

สีดำน่าจะเป็นยาง เพื่อกันไม่ให้อากาศเข้า เนื้อครีมจะได้ไม่แห้งค่ะ


พอทาสีลงบนแขนแล้วจะได้ประมาณนี้ค่ะ



วิธีใช้

สภาพคิ้วก่อนเขียนคิ้ว ก็พอมีขนคิ้วอยู่บ้าง แต่บางๆค่ะ


1. ใช้หัวแปรง แตะเนื้อครีมเล็กน้อย วาดโครงคิ้วจากหัวคิ้ว ถึงปลายคิ้ว ทั้งด้านบนและด้านล่าง 
2. ค่อยแตะเนื้อครีมเพิ่ม และเบลนด์สีให้หัวคิ้วจางหางคิ้วเข้ม 
****เมื่อเจลแห้งเซ็ตไปกับผิวจะมีประสิทธิภาพในการทนน้ำ ทนเหงื่อมากยิ่งขึ้น*** 
3. สามารถจับคู่สีเบอร์อ่อนและเบอร์เข้ม เน้นสีอ่อนที่หัวคิ้วและลงสีเข้มที่ส่วนกลางและหางคิ้วเพื่อความเป็นธรรมชาติ 
4. เก็บขอบทรงคิ้วด้วยคอตตอนบัดหรือคอนซีลเลอร์ / ล้างออกทุกครั้งด้วยเมคอัพรีมูฟเวอร์ 


เมื่อมิ้วลองเขียนกับคิ้วดู จะได้ประมาณนี้ค่ะ

สีที่หนึ่ง นี้ดูเหมาะกับมิ้ว ไม่เข้มไป ไม่อ่อนไป เพราะสีผมมิ้วค่อนข้างอ่อนค่ะ

สีที่สอง จะเห็นว่า ก็ยังไปกับสีผมของมิ้วได้อยู่เพราะผมมิ้วก็มีความติ่งแดงๆอยู่นิดๆ

สีที่สาม จะเห็นได้ชัดว่า เข้มไปสำหรับผมมิ้ว เลยอาจจะทำให้หน้าดูดุไปสักหน่อย


มิ้วจึงเหมาะกัน สีที่ 1 และ 2 มากกว่าค่ะ ส่วนสีที่ 3 น่าจะเหมาะกับคนที่มีสีผมเข้มๆ เช่นสีดำ หรือ สีน้ำตาลเข้มอะไรยังงี้ แล้วเบลนหัวคิ้วให้ดูจางๆหน่อยจะแจ่มมากๆ

ความกันน้ำ


ในส่วนของการกันน้ำนั้น ถือว่าดีเยี่ยมเลยค่ะ มิ้วลองฉีดน้ำไปที่คิ้วแรงๆเอย เอาน้ำผ่านคิ้วเลย เอาน้ำสบู่มาถูเอย ยังไงก็ไม่หลุดค่ะ สงกรานต์นี้ก็คือใจชื้นละ มั่นใจ คิ้วเป๊ะปัง ไม่หลุด เพราะมีที่เขียนคิ้ว

MOODS LOVE IS SO CUTE EYEBROW CREAM ไว้เขียนไปเล่นสงกรานต์แล้ว ฮ่าๆๆ





ใครที่สนใจแล้วก็อยากได้ ที่เขียนคิ้วไปลองก็ตามไปได้เลยจร้า 

ช่องทางการติดตามข้อมูลข่าวสาร และช่องทางการจัดจำหน่าย
Line : @belov มี@ด้วย

ราคา 199 บาท


เพิ่มเติม
นอกจากจะเอามาเขียนคิ้วได้แล้ว ยังเอามาไล้จมูก และและคอนทัวร์ สร้างมิติให้ใบหน้าได้ด้วย แถมเอามาเขียนเป็นอายไลนเนอร์ก็ได้ด้วย ถือว่า เป็นที่เขียนคิ้วที่มีประโยชน์หลายหลายเลยจริงๆเด้อ :)

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาดูนะคะหวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆที่กำลังหาที่เขียนคิ้วไปเล่นสงกรานต์นี้เด้อ

ติดตามเพิ่มเติมได้ที่นี่เลยนะคะ 
#milkmerrygirl







วันเสาร์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2561

พาเที่ยวตัวเมืองลพบุรี กินของหวาน เดินเล่นวังนารายณ์ ถ่ายรูปด้วย Huji Cam | MG-review


24-03-18

วันนี้ไม่ได้จะมารีวิวเรื่องสำอางหรือมาแต่งหน้าอะไร แต่จะมาพาทุกคนไปเที่ยวลพบุรีกัน
เที่ยวในตัวเมืองเล็กๆของลพบุรี ไปเที่ยวรอบในตัวเมือง แต่อาจจะยังไม่ทั่วนะคะ เป็นแค่ทริปสั้นๆที่มิ้วไปเที่ยวกับเพื่อนเท่านั้น เลยเก็บภาพบรรยากาศมาฝาก เผื่อใครอยากมาเที่ยวลพบุรีจะได้ดูรูปไว้เป็นตัวอย่างค่ะ


ร้านก๋วยเตี๋ยว "ไก่โต้ง"
เป็นร้านแรกที่มิ้วถ่ายรูปด้วยแอพ กล้องฟิล์ม เป็นร้านติดแอร์ที่อยู่มานานมากแล้ว ตั้งแต่ตอนเราเรียนมัธยม จนตอนนี้เรียนจน มหาวิทยาลัยจบมาสองสามปีละ

ร้านจะขาย ก๋วยเตี๋ยวไก่ ชามน้อยๆ ราคาไม่แพงมาก มีไข่กะทะ สเต็ก และคาเฟ่กาแฟ เล็กๆในร้าน
ใครร้อนๆก็ไปสั่งน้ำสั่งอาหารทานได้


รูปนี้ถ่ายที่หน้าห้างภิญญา

     ระหว่างเดินไปวังนารายณ์ ก็ถ่ายรูปไปเรื่อย เจออะไรก็ถ่าย เพราะบ้าแอพกล้องฟิล์มมากช่วงนั้น ฮ่าๆๆ
ในตัวเมืองก็จะเป็นเมืองเล็กๆ มีลิงประปราย เดินๆอยู่ก็ระวังข้าวของด้วยล่ะ มันฉกได้ฉกเลยนะ เดี๋ยวจะหาว่าเราไม่เตือน 


ทางเข้าวังนารายณ์

เดินมาถึงวังนารายณ์ก็แวะเดินเที่ยวถ่ายรูปสักหน่อย ตอนนั้นไปวันเสาร์คนจะเยอะหน่อย วันธรรมดาคนประปราย (วังนารายณ์เปิดวัน พุธ - อาทิตย์ / ปิดวันจันทร์ อังคาร) มีเช่าชุดไทยไว้ถ่ายรูปด้วยเด้อถามน้องๆเขามาว่ายังไม่มีกำหนดว่าหมดเขตเช่าวันไหน มาเช่าได้ตลอดจ้ะ (เช่าชุดไทยมาแล้วก็อย่าลืมบริจาคเป็นค่าซักชุดด้วยนะค้า)


ลืมบอกไปว่า ค่าเข้าชมวัง 30 บาทจ้ะ ถือว่าเป็นค่าอาหารตา ค่าถ่ายรูปสวยๅ และบำรุงสถานที่ไปเด้อ



 เข้ามาถึงก็เดินตรงไปที่ข้างในเลย 

บรรยากาศตอนกลางวันก็จะร้อนๆหน่อย แต่ถ่ายรูปกล้องฟิล์มสวย ที่ถ่ายรูปสวยๆมีเยอะมากแต่คือลืมถ่าย เพราะไม่คิดว่าจะเอามาลง Blog ฮ่าๆๆ 


เจออ่างบัวนางก็ถ่ายเอาสิ

ตอนนี้คือเดินเข้ามาข้างในเพื่อจะมาเข้าชม พิพิธภัณฑ์แล้วแดดดีเจออะไรก็ถ่ายไปเรื่อยค่ะอย่างที่บอก เห่อแอพกล้องฟิล์ม ฮ่าๆๆๆ



แวะให้เพื่อนถ่ายรูปสักหน่อย ดอกบัวสวยกว่าจะได้เข้าไปในพิพิธภัณฑ์หน้าเกือบไหม้ ฮ่าาๆ


หอยมือเสือ

พอเข้ามาในพิพิธภัณฑ์ก็จะเย็นขึ้น เพราะมีแอร์ ฮ่าๆๆ ข้างในก็แสดงเกี่ยวกับ โบราณวัตถุที่ค้นพบได้ตามอำเภอต่างๆในจังหวัดลพบุรี ทั้งอาวุธ เครื่องประดับ พระพุทธรูปต่างๆ ไม่ได้ถ่ายรูปไว้ค่ะ ถ้าอยากเห็นต้องลองมาเที่ยวเองน้า :)


ก่อนจะออกก็ถ่ายรูปอีกแล้วฮ่าๆ มุมนี้วินเทจมากๆ 



พอออกมาจากพิพิธภัณฑ์ ก็มาที่พระที่นั่งดุสิตสวรรค์ ธัญญมหาปราสาท มาสักการะรูปหล่อของสมเด็จพระนารายณ์ เพื่อความศิริมงคล



เดินลงบันได้พระที่นั่งมา แล้วเดินตรงออกจากประตูใหญ่มาก็เจอกับตึกสิบสองท้องพระคลัง





 แวะถ่ายรูปอีกสักนิด :) 
(ปล. งดปีนโบราณสถานด้วยนะตอนถ่ายรูป ให้เกียรติสถานที่ด้วยเด้อ)




ในวังคงถ่ายมาได้ประมาณนี้จร้า ขอโทษด้วยที่อาจจะพาเที่ยวไม่รอบ ยังไงก็ต้องมาลองชมกันดูน้า 



ถนนหน้าประตูวังก็ยังคงความคลาสสิคอยู่ ถึงจะมีร้านใหม่เปิดมากมายแล้วก็ตาม




กินของหวานกัน

เดินร้อนๆเหนื่อยๆก็มาพักทานของหวานกันที่ ร้าน "The mellow" 
เป็นร้านเล็กอยู่แถวๆสวนราชา ซอยที่ออกมาจะเจอร้านไก่โต้งนั่นแหละ เพื่อนเคยมากินแล้วบอกว่าร้านดี เลยพาพวกมิ้วมาอีกครั้ง บรรยากาศดี คนแน่นร้านตลอด แสดงว่าของเขาต้องดีจริง 

แล้วพอเราได้ลอง โทสชาเขียว ในรูปนี่แหละ รอสักพักเหมือนกันเพราะเขาทำสดๆแถมคิวก็เยอะพอตัว ระหว่างนั้นก็ถ่ายรูปวนไปก่อน ฮ่าๆๆๆ



อ้ะคือดีมาก กินกับเพื่อนอีกสามคน ห้านาทีคือหมด
(รึหิววะเรา ฮ่า หลอกๆ อร่อยจิงๆ) หอมขนมปังมาก ทั้งน้ำผึ้ง ชาเขียว ไอติม วิปครีมคือเข้ากันหมด ไว้วันหน้าจะมาลองเมนูอื่น ใครมาลพบุรีก็แนะนำให้มาจร้า (ปล.เขาไม่ได้จ่ายแต่อยากบอก ฮ่าๆ) เจ้าของร้านน่ารัก ใจดีทั้งคู่เลย วัยรู่นแบบชิคนี่แหละ


หน้าร้านเป็นสีออกฟ้าๆดูวินเทจ ลองมาดูเด้อ

คนแน่นจริงดูจากข้างหลัง




     ลากันไปด้วยภาพบรรยากาศในร้านค่ะ สำหรับใครที่มาเที่ยวลพบุรีก็มาลองดูได้นะ มิ้วอาจจะไม่ได้ถ่ายทุกอย่างมากนักต้องขอโทษด้วยจร้า อยากแชร์ในมุมของมิ้ว มุมของเด็กลพบุรีให้ทุกคนได้ดูกัน ของจริงยังไงก็ดีกว่าในรูปภ่ายอยู่แล้ว แวะมากันได้นะ 

ติดตามเพิ่มเติมได้ที่















วันอังคารที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2561

ทาตัวด้วยแป้งเมเยอร์ (เบอร์ 3) ให้นวลเนียนแบบสาวผิวสี | MG-Review






        สวัสดีค่าทุกคน วันนี้มิ้วมีตัวช่วยให้สาวผิวสีอย่างเรานั้นดูขาวในเวลาเร่งด่วนในงบ หลักสิบ มาฝาก นั่นก็คือ แป้งเมเยอร์นั่นเอง คาดว่าหลายๆคนน่าจะคุ้นเคยกับแป้งเมเยอร์มาบ้างแล้ว 
        แต่สำหรับคนที่ไม่เคยรู้ มันก็คือแป้งที่ใช้ทาตัวนางงาม 
เจ้าสาว ในงานสำคัญต่างๆนั่นเองจร้า วันนี้มิ้วเลยมีวิธีทาตัวมาฝาก จะเป็นยังไงบ้างนั้น ไปชมกันเลยจร้


อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม
1 แก้วสำหรับผสม
2 แป้งเมเยอร์ (เราใช้เบอร์ 3 )
3 น้ำสำหรับผสมกับแป้ง


วิธีทำ
1 ใช้ขอบฝาตลับแป้ง ขูดแป้งเมเยอร์ลงมาใส่ในแก้วที่จะผสมกะเอาพอให้ทาทั่วตัวก็พอค่ะ (เพราะเหลือแล้วมันเสียดาย ฮ่า)



2 เทน้ำผสมลงในแก้วที่มีแป้ง แล้วคนให้เข้ากัน (แต่จริงมันจะไม่เป็นเนื้อเดียวกันมากเพราะแป้งค่อนข้างจะแยกกับน้ำค่ะ เอาให้มันดูเข้ากันไม่แยกชั้นกันมากก็พอ)


ดูให้เข้ากันประมาณนี้ค่ะ จริงๆใช้มือก็ได้ เพราะเราต้องใช้มือทาตัวอยู่แล้ว


3 นำมาทาที่ตัว (แขนมิ้วไม่ได้ทาครีมมาก่อนเด้อ เป็นแขนที่สะอาดๆเลย) โดยทาเป็นวงกลมค่ะ ไม่ทาเป็นเส้นตรงนะ มันจะเนียนกว่าทาแบบตรงๆ แล้วก็ไม่ติดขนแขนด้วย แล้วก็ทาวนให้ทั่วตัวเลยค่ะ จากนั้นก็รอให้แห้ง แค่นี้ก็เป็นอันเสร็จ ง่ายมากๆ


ทารอบที่ 1
เห็นได้ชัดเลยว่าผิวขาวมากขึ้น แต่มาในโทนชมพูนิดๆ แต่เซอร์ไพส์ตรงที่ ผิวไม่ลอกไม่เป็นคราบ ไม่ติดขน แต่พอมองใกล้ๆมันจะดูออกว่าทาแป้งค่ะ แบบออกแนวขาวขุ่นๆ แต่ถ้าไม่สังเกตคือจะเนียนไปกับผิวมาก

ทารอบที่ 2 
มิ้วรอให้ รอบที่1 แห้งสนิทก่อน แล้วค่อยททารอบ 2 
ก็จะขาวมากขึ้นกว่าเดิม แต่ดูไม่หนาเลย แล้วก็เนียนเหมือนเดิม ไม่เป็นคราบ


ทารอบที่ 3 
พอมิ้วลองทารอบที่ 3 คือตกใจแขนตัวเงอมาก ทำไมมันซีดขนาดนั้น ฮ่าๆๆ (เพราะปกติไม่ได้อยากผิวขาวอยู่แล้ว มันซีดจนดูน่ากลัว) แต่ก็ยังเนียนเหมือนเดิม ดูไม่หนาอีกด้วย มันขาวจริงๆ ฮ่าๆๆ 

ความกันน้ำ
ถือว่ากันได้ในระดับดีเลย มิ้วลอง เอาน้ำเทใส่แขน ก็ไม่หลุด ถ้าจะหลุดคือต้องขยี้ แรงๆเลยค่ะ แป้งถึงจะค่อยๆหลุดออกจากตัว



ถ่ายกับไฟส้ม
อาจจะไม่ค่อยเห็นความต่างมากนักเพราะแสงส้มมันค่อนข้างเนียนเลย แล้วมิ้วก็ดันเอาน้ำมาลูบๆแขนที่ทาแป้งก่อนหน้านี้แล้ว



ถ่ายกับแสงขาว
เมื่อเทียบกับขาก็จะเห็นได้ชัดเลยว่าขาวขึ้นมากๆ ซีดเชียว ฮ่าๆๆๆๆๆ

คำแนะนำ
ความขาวก็ขึ้นอยู่กับพื้นฐานสีผิวของแต่ละคน ถ้าจะเอาไปทาออกงานจริงๆอยากให้ลองใช้ก่อนจะได้ไม่โป๊ะวันงานนะคะ

สถานที่ซื้อ
มิ้วซื้อมาจากร้านขายเครื่องสำอางแถวบ้าน ที่มันรวมกันหลายๆแบรนด์ ส่วนใหญ่เป็นของราคาน่ารักๆ เช่น odbo, sivanna colors อะไรทำนองนี้ หรือซื้อทางออนไลน์ก็ได้ค่ะ มิ้วเคยค้นหาดูมีหลายร้านเลย

ราคา 
มิ้วซื้อมา ราคา 25 บาท ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละร้านว่าจะขายเท่าไหร่ค่ะ

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาชมนะคะ ก็เป็นรีวิวที่เกิดจากความเห็นส่วนตัวของมิ้วเท่านั้นค่ะ เห็นอะไรดีและคุ้มค่าก็อยากแชร์ มีอะไรก็ติชมกันมาได้ค่ะ เพิ่งจะเริ่มเขียนได้ไม่นาน ^______^

ติดตามมิ้วช่องทางอื่นได้ค่ะ









วันอังคารที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2561

Namu Life Snailwhite Sunscreen CC Cream SPF50 PA+++ 50 ml | MG-review





สวัสดีจ้าทุกคนหน้าร้อนนี้ใครกำลังมองหา ครีมกันแดด อยู่บ้าง วันนี้มิ้วมีมาแนะนำนั่นก็คือ NAMU LIFE SNAILWHITE SUNSCREEN CC CREAM SPF50+/PA+++ ซึ่งเป็น ครีมกันแดด SNAILWHITE สูตร CC เนื้อครีมบางเบาไม่เหนียวเหนอะหนะ คุมมัน ปกป้องแสงแดดและรังสี UVA/UVB สูงถึง 50 เท่า
ซึ่งสูตร CC นี้ช่วยอำพรางรอยดำ รอยแดง บนใบหน้าอีกด้วย แถมผิวหน้ายังกระจ่างใส เนียนเด้งตลอดวัน ถ้าใครอยากรู้ว่า มิ้วใช้แล้วเป็นอย่างไรก็ไปชมกันเลยจ้า
  


รูปร่างกล่อง และขวดด้านหน้า
    ก็จะประมาณนี้จร้า พอแกะพลาสติกที่หุ้มกล่องออกแล้ว พบว่าผิวกล่องเป็นสีขาวเนื้อด้าน (ซึ่งชอบมาก ) ตัวขวดมาแบบหัวปั๊ม (ซึ่งเป็นผิวด้านอีกเช่นกัน) มีฝาปิดด้วย ใช้สะดวกมากๆ ส่วนที่กล่องจะมีสติ๊กเกอร์อยู่มุมขวาบนด้วยเพื่อให้รู้ว่ากล่องนี้คือของจริงนั่นเอง



ด้านหลังกล่องและข้างกล่อง 
      ก็จะมีสรรพคุณและส่วนประกอบให้ดูด้วย หลักๆก็จะมี เมือกหอยทากสูตรเฉพาะของสเนลไวท์ และสารสกัดของดอกเอเดลไวส์จากเทือกเขาแอลป์ ช่วยฟื้นบำรุงผิวและลดเลือนจุดด่างดำ พร้อมคงความอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ



ด้านหน้าขวด
ก็จะมีชื่อแบรนด์ ชื่อรุ่น ที่เป็นสูตร CC และสีเนื้อครีมให้ดู

ด้านหลังขวด
ก็จะบอกถึงสรรพคุณ ส่วนประกอบ และวิธีใช้ แต่เป็นภาษาอังกฤษจร้า ส่วนภาษาไทยจะมีอยู่บนซองพลาสติกชั้นแรกก่อนแกะกล่องเด้อ



ขนาดขวด 
เล็ก กระทัดรัด พกพาสะดวกอยู่นะคะ สูงเท่าฝ่ามือมิ้วเอง มาในปริมาณ 50 ml เรียกว่า ใช้กันคุ้มเลยค่ะ



ใช้ครั้งแรก
       มิ้วกดมาทั้งหมด 20 ครั้งถึงจะมีเนื้อครีมออกมา เนื้อครีมมีสีครีมอ่อนๆคล้าย สีเนื้อ CC ทั่วไป แต่เนื้อไม่หนักเลย กลิ่นก็หอม หอมแบบสูตรเฉพาะของ ครีมสเนลไวท์ นั่นเอง 
      เมื่อเอามาลองทาที่หลังมือแล้วเกลี่ยง่ายมาก ครีมก็ซึมไปกับหน้าเลย ไม่เหนียวเหนอะหนะด้วยค่ะ



ลองทาบนหน้า
    (ก่อนหน้านี้มิ้วจะทาครีมบำรุงมาก่อนแล้วค่ะ) มิ้วจะแต้ม 5 จุด แล้วเกลี่ยให้ทั่ว ซึ่งก็เกลี่ยง่ายมากเหมือนกับที่ลองบนหลังมือเลย ตอนแรกเห็นเนื้อครีมสีมันดูขาวกว่าหน้ามิ้ว คิดว่ามันต้องลอยแน่ๆ แต่เมื่อทาเสร็จครึ่งหน้าก็จะสังเกตว่า หน้าดูกระจ่างใสขึ้นมานิดนึง ไม่วอก ไม่ลอย สำหรับสาวผิวสีเข้มสบายใจได้ค่ะ อันนี้เซอไพรส์จริงๆ 



ก่อนทาและหลังทา
    จะเห็นได้ว่า ใบหน้าหลังทาดูกระจ่างใสขึ้นมานิดนึง ไม่วอก ไม่ลอยเลยค่ะ หน้าดูฉ่ำนิดๆ แต่ไม่มัน ส่วนรอยดำรอยแดง ยังถือว่า ปกปิดได้น้อยอยู่ไม่ได้ปกปิด เนียนกริบขนาด รองพื้นค่ะ 
โดยรวมแล้ว มิ้วให้คะแนน 8/10 ไปเลย



Finish Look!!!

  

          เมื่อแต่งหน้าต่อหลังทาครีมกันแดด ก็จะออกมาประมาณนี้จร้า แต่งหน้าได้ง่ายขึ้น เกลี่ยรองพื้นง่ายกว่าที่เคย สำหรับสาวผิวสีใช้รองพื้นให้เหมาะกับสีผิวเรา หน้าจะได้ไม่ลอย รู้สึกว่าเครื่องสำอางติดผิวหน้าดีมาก มันเริ่ด!!! 




         เอาเป็นว่ายังไงก็ต้องไปลองนะคะ จะได้รู้ว่ามันเริ่ดแค่ไหน ที่มิ้วมารีวิวก็เป็นแค่ความคิดเห็นส่วนตัวของมิ้วเท่านั้น ยังไงก็ดูหลายๆรีวิวเพื่อไปประกอบการตัดสินใจในการซื้อนะคะ แต่มิ้วว่า คุณภาพ และปริมาณคุ้มกับราคาแน่นอน

ราคาเต็ม 690 บาท 
โปรโมชั่นพิเศษเฉพาะที่ LAZADA เพียง 499 ถึงวันที่ 31 มีนาคม นี้เท่านั้น

ช่องทางติดตามข่าวสาร 
Facebook : https://www.facebook.com/namulifesnailwhite/





มีคลิปที่มิ้วลองกันแดด SNAILWHITE ครั้งแรกด้วยค่ะ 
ลองเข้าไปชมกันได้ 




สมารถติดตามมิ้วทางช่องทางอื่นได้เลยจร้า
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ หวังว่าจะเป็นประโยชน์นะคะ
#milkmerrygirl