แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ แป้งพัฟ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ แป้งพัฟ แสดงบทความทั้งหมด

วันจันทร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2563

รีวิว แป้งเซลฟี่ ราบุ RABU สวยทั้งในจอและนอกจอ แบบไม่ง้อ แอพฯ | MG-Review



 RABU RABU

Photo Light Compact Powder


สวัสดีค่าทุกคนมารีวิวแป้งอีกแล้ว ฮ่าๆ ช่วงนี้จะได้ลองแป้งบ่อยๆเลยจะมาพูดถึงแป้งที่ถ่ายรูปแล้วสวยได้ทุกแสง แบบไม่ต้องง้อแอพแต่งรูปเลยค่ะ หลายคนก็มักจะมองหาแป้งที่ปกปิด ติดทนคุมมัน แต่ยุคสมัยนี้ ต้องถ่ายรูปแล้วดูสวยด้วย ถ่ายกล้องไหน ชัดแค่ไหนก็ยังต้องสวย ผิวสวยดูเล่นแสงอยู่เสมอค่ะ แป้งตัวนี้ก็คือ 

RABU RABU Photo light compact powder นั่นเองค่า รายละเอียดจะเป็นอย่างไร มิ้วใช้แล้วสวยแค่ไหนนั้น ไปดูรายละเอียดกันได้เลยค่า



แป้ง RABU RABU Photo light compact powder เป็น แป้งพัฟสะท้อนแสง แป้งแป้งโฟโต้ไล้ท์  แป้งเซลฟี่ ที่มีส่วนผสมหลักเป็น อนุภาคเล็กของ Silk Mica ช่วยให้แป้งเล่นแสงและกระจายตัวได้ดี เนื้อแป้งนุ่มลื่น บางเบา สบายผิว เกลี่ยง่าย ติดทนนาน เหมือนเราติดฟิลเตอร์ออร่าไว้ที่ผิวเลยค่ะ นอกจากนี้ยังมีสารป้องกกันแสงแดด และมบภาวะด้วย สวยจบครบในตัวเลยทีเดียว





ตัวกล่องมาแบบกระดาษ สีดำด้าน โลโก้คือดูแล้สรู้เลยว่าเป็นแป้งที่ช่วยเล่นแสงค่ะ บอกวัน เดือน ปี ที่ผลิต สีและปริมาณมาอย่างชัดเจน 


สีที่มิ้วได้มาจะเป็นเบอร์ 03 เข้มสุดเลยค่ะเหมาะกับสาวผิวสีน้ำผึ้ง มาในปริมาณ 10 กรัม
01 สำหรับผิวขาว
02 สำหรับผิวสองสี





ตัวตลับมาในสีดำเงา สะท้อนแสง ขนาดพอดีมือค่ะ แต่ก็อาจจะเปื้อนรอยนิ้วมือง่ายหน่อย แต่เช็ดออกก็หายแล้วค่ะ


พอเปิดตลับแป้งออกมาก็จะเจอชั้นพัฟก่อนค่ะ สีขาวน่ารัก 


เนื้อของพัฟก็จะ มีความ นุ่มเนียนละเอียดไม่บาดหน้า และมีความยืดหยุ่นด้วยค่ะ


มิ้วลองปาดสีแป้งลงบนข้อมือด้วนการใช้นิ้วมือปาดค่ะ ผลออกมาก็จะเป็นอย่างที่เห็น ว่าสีจะมีความใกล้เคียงกับแขนมาก ซึ่งเป็นผลดีกับสาวผิวสีน้ำผึ้งแบบมิ้วมากๆเลยค่ะ ส่วนรูปที่ปาดที่หลังมือก็ยิ่งเห็นได้ชัดว่าสีใกล้เคียงกันมากเลย แต่ตอนนั้นหลังมือมิ้วแห้งมาก (เพิ่งล้างจานมา) ถ้าซูมใกล้ๆจะเห็นว่าเป็นขุยนิดๆค่ะ






ตอนที่มิ้วใช้ ก็จะทำหน้าให้มีควมชุ่มชื่น หรือทาผลิตภัณฑ์ที่เป็นเนื้อครีม เช่น คอลซิลเลอร์ หรือครีมบลัชลงไปก่อนค่ะ จากนั้นก็ กดแป้งลงบนผิวหน้า ใช้การกดนะคะ จะช่วยให้แป้งติดผิวมากขึ้น โดยเริ่มจากใต้ตาก่อนแล้วเกลี่ยออกไปด้านข้าง จากนั้นทาที่กราม หน้าผาก จมูก แล้วทาที่คอ (ทาที่คอใช้การปาดได้ค่ะ ไม่ซีเรียสเท่าผิวหน้า)


ลักษณะผิว: มันบริเวณ T zone มีรอยคล้ำใต้ตา กระ จุดด่างดำ รูขุมขนกว้างบริเวณหน้าแก้ม
ความรู้สึกตอนทา: รู้สึกว่าแป้งเกลี่ยง่ายมาก ติดผิวดีมากค่ะ ปกปิดได้ดีและเนียนมากเลยค่ะ กลิ่นของแป้งจะมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ไม่ฉุนค่ะ


หลังจากที่มิ้วทาแป้งไปด้านหนึ่งก็เห็นได้ชัดเจนเลยค่ะว่าด้านที่ทาแป้งผิวบริเวณหน้าแก้มดูเนียนกว่าด้านที่ไม่ได้ทา ผิวดูสม่ำเสมอ ไม่เป็นคราบด้วยค่ะ


แล้วที่สำคัญเลยคือ เล่นแสงสวยมากกกกกกกก มาก แบบมากค่ะ ภาพนี้มิ้วถ่ายตอนกลางวันในภายในห้องค่ะ แป้งเล่นแสงได้ดีมากจริงๆ


ลองถ่ายรูปภายใต้แสงต่างๆกันค่ะแล้วก็ทดสอบความติดทนไปด้วย


ให้ภาพเล่าเรื่องนะคะว่าสวยแค่ไหน >\\\< ยิ่งโดนแสงแดด ก็ยิ่งสวยค่ะ 


ลองถ่ายกับไฟวงกลมที่เอาไว้แต่งหน้า ก็ยังสวย และเล่นแสงได้ดีค่ะสีหน้าตรงกับคอ ไม่วอกไม่ลอยเลย


สรุปเลยแล้วกันค่ะ ว่าสวยทุกแสงสมคำเครมจริงๆค่ะ ปลื้มมมมมม



มาพูดถึงความติดทนกันบ้างบอกเลยว่าทำได้ดีเลยทีเดียวค่ะ


มิ้วทดลองแต่งหน้าไปหลายวันเพื่อเอามาเปรียบเทียบกันค่ะ


ส่วนสาวเสื้อแดงนี้ มิ้วทาแป้งตั้งแต่ ตอนเที่ยงแล้วเดินทางจาก กทม. กลับบ้านที่ลพบุรีค่ะ ขุ่นพระ หน้ายังสวยอยู่ แค่ปากหลุดไปเท่านั้นเองค่ะ


รูปนี้มิ้วก็แต่งหน้าเสร็จตอนเที่ยงแล้วไปข้างนอกทำกิจกรรมตลอดทั้งวันอีกเช่นกันค่ะ หน้ายังสวยขนาดนี้ก็ถือว่าไม่ธรรมดาเลย 


สิ่งที่ชอบในแป้ง Rabu Rabu
- เป็นแป้งที่เล่นแสงได้สวยทุกแสงจริงๆค่ะ 
- หลังทาเสร็จผิวดูเนียนจริง รูขุมขนเบลอจริง
- แป้งไม่เป็นคราบ
- ติดทนได้จริงค่ะ (ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิและกิจกรรมของวันนั้นๆด้วย)
- สีแป้งเข้ากับหน้าได้ โดยไม่ต้อง คอนทัวร์ที่กรอบหน้าเลยค่ะ




แป้ง Rabu Rabu เหมาะกับใคร
- เหมาะกับคนที่ชอบถ่ายรูปเซลฟี่ ถ่ายรูปตัวเองบ่อยๆ 
- คนที่ต้องแต่งหน้าทุกวัน ไปเจอฝุ่นควันและมลภาวะ
- คนที่มีรูขุมขนกว้าง สีผิวไม่สม่ำเสมอ
- คนที่มีผิวผสม ไปถึงผิวมัน


คำแนะนำ
- ควรทำผิวหน้าให้ชุ่มชื้นก่อนการลงแป้งค่ะ
- เวลาลงแป้งให้ใช้การกดลงบนผิวแทนการปาดค่ะ แป้งจะได้ติดผิวและไม่เป็นคราบ
- แป้งตัวนี้สามารถทาซ้ำระหว่างวันได้ไม่ทำให้เป็นคราบค่ะ


มิ้วสรุปง่ายๆเลยนะคะว่า แป้ง RABU RABU Photo light compact powder เป็นแป้งที่ทุกคนควรมี ฮ่าๆๆ
แต่คนที่มีผิวแพ้ง่าย ลองสดสอบการแพ้ก่อนนะคะ จได้มันใจว่าเราใช้ได้จริงๆค่ะ



และสำหรับใครที่สนใจอยากมีไว้ในครอบครอง ก็ลองไปส่อง ข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

SHOPEE: พิกัด   https://invol.co/cl299fr

และสามารถสั่งซื้อออนไลน์ได้ที่นี่เลยจ้า 
เขาลดอยู่น้า ราคา 169บาท จาก ปกติ 390 บาทเลยค่ะ รีบนะเดี๋ยวหมดโปร




เป็นอน่างไรบ้างคะ สำหรับการ  รีวิว แป้งพัฟ Rabu Rabu ในวันนี้หวังว่าจะชอบนะคะ อย่าลืมไปลองกันล่ะ สวยทุกแสง ทุกกล้อง ทั้งในจอ และนอกจอเลยค่ะรับรอบ <3





วันศุกร์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

รีวิวแป้งสีเข้มสุดทั้งหมดที่มี ผิวแทน ผิวสี ผิวมัน ต้องดู!!!

รีวิวแป้ง สีเบอร์เข้มสุด ทั้งหมดที่มี


สวัสดีค่าทุกคน รีวิวนี้มิ้วเอาใจสาวผิวสีเข้มเลยค่ะ ด้วยความที่มิ้วเป็นอีกคนนึงที่มีแป้งสีเข้ม เบอร์เข้มสุดอยู่หลายตัวมาก วันนี้เลยรวบรวมเอามาเม้ามอยให้ฟัง แต่ละตัวจะเป็นอย่างไร มิ้วใช้แล้วรู้สึกอย่างไรบ้างนั้น ไปชมกันเลยจร้า






โดยมิ้วจะไล่ราคาจาก น้อยไปหามากนะคะ เอาแบบสั้นๆง่ายๆได้ใจความก็แล้วกัน จะได้ดูไม่ยืดเยื้อค่ะ

1. Butae Super oil control powder
No.3 Golden Brown
ราคา 25- 75 บาท


เป็นแป้งตัวแรกๆที่มิ้วใช้เลยก็ว่าได้ และเป็นสีเข้มมากสุดที่มิ้วมี ข้อเสียจะเป็นที่พัฟมันดูใช้ยากสักหน่อย เวลาใช้จริงอาจจะซื้อพัฟแยกก็ได้ค่ะ


ตอนทาก็ค่อนข้างทาง่ายอยู่ค่ะ แต่ก็จะมีเศษฝุ่นผงแป้งร่วงลงมาบ้าง ก็ตามราคานะคะ
หลังทาเสร็จ สีเข้มเท่าแขนเลยทีเดียว แล้วหน้าก็แมทสนิทค่ะ แต่ก็ไม่ได้คุมมันมากนักอย่างว่านะคะ ราคาไม่ได้สูงมาก แต่ถือว่าดีเลยค่ะในระดับราคาเท่านี้

คำแนะนำ ถ้ารู้สึกว่าซื้อมาแล้วสีเข้มกว่าหน้ามากเกินไป ก็ใช้เป็นเฉดดิ้ง เอามาปัดที่กรอบหน้าได้ก็ช่วยให้หน้าเราดูมีมิติมากขึ้นค่ะ


เหมาะกับ คนงบน้อย คนที่เพิ่งเริ่มหัดแต่งหน้า นักศึกษา คนผิวหน้ามัน



2. Eglips Blur powder pact
เบอร์ 23 ราคา 2xx บาท


ตัวนี้แอบไม่ใช่สีเข้มสุดในตอนนี้นะคะ เพราะมันมีเบอร์ 25 ออกมาแล้ว ส่วนตัวแล้วชอบพัฟอันนี้มากเวลาใช้ดูเข้ากับเนื้อแป้งสุดๆ (เนื้อพัฟดูเป็นกำมหยี่นุ่มๆ)


ตอนทาก็รู้สึกว่าแป้งไม่เป็นฝุ่นผงออกมามากนัก ทาเดี่ยวแล้วหน้าก็ไม่ลอยมากค่ะ แต่ถ้าคนสีผิวเข้มกว่ามิ้วอาจจะเห็นชัดกว่า แต่ที่ชอบก็คือ รูขุมขนดูเบลอจริงๆค่ะ คุมมันก็ดีเลยทีเดียว ไม่เป็นคราบด้วย

คะแนะนำ เวลาทามิ้วจะใช้คู่กับรองพื้นที่สีเข้มๆค่ะ ก็คือหลังจากที่เราทารองพื้นสีเข้มแล้ว ก็เซทด้วย ตัวนี้ ก็คือชอบมากๆ

เหมาะกับ คนที่มีรูขุมขนกว้างมากๆ ผิวมัน นักเรียน นักศึกษา


3. Chao Nang Perfest bright UV 2 Way powder Foundation SPF20 PA+++
No.03 ราคา 2xx - 3xx บาท


แป้งตัวนี้เป็นอีกตัวนึงที่มิ้วชอบมากค่ะ ทั้ง ตัวตลับ สีแป้ง เนื้อแป้ง ทำได้ดีเลยทีเดียว พกใส่กระเป๋าอยู่ช่วงนึงเลยทีเดียวค่ะ บิวตี้บล็อคเกอร์ หลายๆคนก็การันตีมาด้วยว่างานดีมาก แต่พัฟเขาอาจจะแข็งไปในช่วงแรกๆเมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่น แต่ใช้ไปสักพักมันจะนุ่มขึ้นค่ะ กลิ่นแป้งมีกลิ่นหอมอ่อนๆ


ตอนทาก็รู้สึกว่าทาง่ายใช้ง่าย เพราะพัฟค่อนข้างใหญ่ ไม่มีฝุ่นร่วงลงมาให้กวนใจ
หลังทาก็รู้สึกว่าหน้าเนียนมาก ไม่เป็นคราบ ปกปิดดีเลยค่ะ ใช้แค่แป้งเดี่ยวๆก็ยังรอด คุมมัน ติดทนดีเลยค่ะ

คะแนะนำ สามารถใช้ได้ทั้งแบบเปียก(เอาพัฟมาชุบน้ำแล้วไปแตะที่แป้ง) และแบบแห้ง โดยที่แบบเปียกจะกันน้ำได้มากว่า ติดผิวมากกว่า และดูธรรมชาติมากกว่าค่ะ แต่ถ้าเอาว่าเร็วและความถนัดก็ ใช้แบบแห้งจะสะดวกกว่า

เหมาะกับ คนผิวมัน นักศึกษา คนที่มีเวลาแต่งหน้าน้อย ทำกิจกรรมเยอะ จริงๆเหมาะกับทุกคนค่ะ


4. Mr. Wat 1-minite whitening cake powder founfation SPF18 pa++
เบอร์ C2 ราคา 2xx - 3xx บาท


เป็นแป้งที่ออกมานานแล้วค่ะ ตัวนี้ก็ช่วยเบลอรูขุมขนได้ดีเลยทีเดียว แถมปกปิดก็อยู่ในระดับทีดีค่ะ แต่เสียดาย สียังขาวไปเล็กน้อยถ้าเอามาทาเดี่ยวๆ เนื้อแป้งมี กลิตเตอร์ผสมอยู่นิดๆค่ะ พัฟก็นุ่มกำลังดี


ตอนทาก็ทาง่าย ไม่มีฝุ่นผงร่วงลงมา หลังทาก็ไม่เป็นคราบแต่อย่างใดค่ะ สีก็ไม่ค่อยลอยมาก แต่เบลอผิวได้ดีจริงๆค่ะ

คำแนะนำ ถ้าใช้ทาเดี่ยวๆแล้วหน้ายังขาวไป ลองใช้เฉดดิ้งทาที่กรอบหน้าดูค่ะ หรือไม่ก็ใช้คู่กับรองพื้นที่มีสีเข้ม เซทหลังทารองพื้นเสร็จ จะช่วยให้สีหน้าดูพอดีกับแขนมากขึ้นค่ะ

เหมาะกับ คนที่มีรูขมขนกว้าง สีผิวขาวเหลือง ผิวมัน คนที่ใบหน้าหมองคล้ำ(ทาบริเวณหน้าผาก สันจมูก คาง และหน้าแก้ม)


5. Rebecca Keep a srcret Flawless Dream Powder SPF 25 pa+++
No.03 ราคา  3xx - 4xx บาท


เป็นแป้งอีกตัวที่ให้ความเนียนกับผิวมากๆ ตลับก็สวย สีแป้งก็ดีเข้ากับผิวมิ้วมากๆค่ะ ทุกวันนี้พกไว้ในกระเป๋า เอาไว้เติมระหว่างวัน หน้าก็ไม่เป็นคราบ หน้าไม่ดูแห้งจนเกินไปค่ะ ชอบอีกอย่างคือพัฟค่ะ มีความนุ่มมากๆ


ตอนทาก็คือทาง่าย ไม่มีฝุ่นร่วงลงมาอีกเช่นกันหน้าดูเนียนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด หน้าก็ไม่แห้งจนเกินไป ที่สำคัญ ไม่เป็นคราบด้วยค่ะ

คำแนะนำ พอใช้แป้งไปสักพัก ต้องระวังตอนเปิดด้วยค่ะ ตัวที่กดมันอาจจะดูหลวมๆไปสักหน่อย เลยทำให้แป้งเปิดตอนที่เราไม่ได้ใช้ค่ะ จะพกไปก็ระวังตลับแป้งเปิดด้วยนะคะ

เหมาะกับ คนที่พอมีงบหน่อย สาวๆวัยทำงาน คนผิวมัน มีเวลาแต่งหน้าน้อย


6. Beneficial Ultimate coverage foundation powder
เบอร์ 06 Honey ราคา 575 บาท


เป็นแป้งที่ราคาแพงสุดที่มิ้วมีค่ะ ตัวตลับสวยเก๋ แตกต่าง ชั้นใส่พัฟจะอยู่ด้านบนของตลับแป้ง ตอนเปิดไม่ต้องกลัวตลับจะเปิดเอง เพราะมีแม่เหล็กด้วยทำให้ตัวตลับปิดสนิทแน่นอนค่ะ


ตอนทาแอบมีฝุ่นแป้งร่วงลงมานิดๆ หน้าจะดูแมทขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด แต่สีอาจจะดูขาวกว่าแขนไปสักหน่อย แต่เรื่องความปกปิดถือว่าทำดีเลยค่ะ

คำแนะนำ ตัวนี้สามารถทาเดี่ยวๆ ทาออกงานได้เลย เวลาเรารีบๆค่ะ(ยิ่งใช้คอนซิลเลอร์มาปกปิดก่อนก็จะเริ่ดกว่าค่ะ) แต่ก็ต้องใช้เฉดดิ้งปัดที่กรอบหน้าด้วย หน้าจะได้ดูไม่ลอยนั่นเอง

เหมาะกับ คนที่พอมีงบหน่อย สาวๆออฟฟิต คนที่มีเวลาแต่งหน้าน้อย


7. Beneficial All day sun protection foundation powder SPF 50 PA++++
สี Honey ราคา 575 บาท


ตัวนี้ก็เป็นอีกตัวนึงที่มิ้วชอบค่ะ เวลารีบๆตัวนี้ตัวเดียวก็เอาอยู่ จุดเด่นของตัวนี้คือ มีความเล่นแสงมากแบบสวยทุกแสงอย่างที่เขาบอกจริงๆค่ะ เพราะเขามีตัวที่ช่วยกระจายแสงอยู่ในแป้ง พัฟนุ่มกำลังดี

ตัวนี้จะแตกต่างจากรุ่นที่แล้ว ก็คือ หลังทาหน้าจะดูเป็นผิวมากกว่า คุมมันมากกว่าค่ะ


ตัวนี้ตอนทาก็มีฝุ่นผงร่วงลงมาอีกเช่นกัน ทาง่าย เกลี่ยง่าย ด้วยความที่พัฟเขาเป็นวงรีจึงซอกซอนเข้าไปที่แคบๆได้ดีกว่าพัฟลักษณะกลมค่ะ หลังทาเสร็จหน้าดูสวยฉ่ำเล่นแสง แต่หน้าไม่มันเยิ้ม ดูแมทกำลังดีค่ะ ไม่เป็นคราบแต่อย่างใด

คำแนะนำ ควรใช้คู่กับคอลซิลเลอร์จะสวยปังกว่า แล้วปัดด้วยเฉดดิ้ง แค่นี้ก็สวยได้โดยไม่ง้อรองพื้นแล้วค่ะ หรือใช้คู่กับแปรง เพื่อเซทรองพื้นก็ดูสวยเล่นแสงดีค่ะ

เหมาะกับ คนผิวมันที่อยากให้หน้าดูฉ่ำสวย คนที่พอมีงบหน่อย อยากได้ใบหน้าที่ดูเล่นแสง สวยแบบเป็นผิวสุขภาพดีค่ะ


เปรียบเทียบแป้งแต่ละตัวให้ดูกันค่ะ




เรียงลำดับความปกปิดจาก มากไปหาน้อยได้ดังนี้
6>7>5>3>4>2>1


เมื่อปาดสีลงบนแขน


เมื่อเปรียบเทียบสีกันจะเห็นได้ว่า เบอร์ 1 สีเข้มสุดจริงๆค่ะ สีสว่างที่สุดจะเป็นเบอร์ 2 และ 4 นั่นเอง



การกันน้ำ



เมื่อลองเอาน้ำมาผ่านๆดูก็เห็นว่ามันก็ยังคงติดที่ผิวเกือบทุกเบอร์นะคะ ยกเว้น เบอร์ 4 ที่จะจางกว่าเพื่อน

การกันน้ำได้จากที่มิ้วเห็น เรียงลำดับจากมากไปน้อยก็คือ
5>7>6>3>1>2>4


หลังผ่านน้ำแล้วเอากระดาษทิชชู่มาซับดูก็พบว่าแป้งยังพอหลงเหลือสีอยู่บ้างค่ะ แต่ถ้าเอามือมาถูอีกรอบนึงแป้งก็เริ่มจางหายไปเกือบทุกแบรนด์ค่ะ




ก็ต้องบอกก่อนว่า แต่ละตัวอาจจะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป แต่ถ้าถามว่ามิ้วชอบตัวไหนมากที่สุดก็จะเรียงลำดับจากชอบมากที่สุดไปน้อยที่สุด ได้ดังนี้ค่ะ (เป็นความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้นนะคะ) ตัดสินจากภาพรวมความคุ้มค่า สีที่พอดีกับผิว และคุณสมบัติการปกปิดติดทนค่ะ

3>5>7>6>2>1>4

แต่จะบอกว่าแป้งทุกตัวมิ้วก็สลับกันใช้ไปในแต่ละวันนะคะ เพราะคุณสมบัติบางอย่างไม่เหมือนกัน

ถ้าอยากได้ความเบลอผิว
ก็จะใช้แป้ง 2,4 แต่ต้องใช้รองพื้นที่มีสีเข้มทาก่อน จะได้พอดีกับผิวค่ะ

ถ้าอยากได้ความเนียนไปกับผิว ก็แนะนำเป็น
3,5,6,7 ค่ะ เพราะเป็นแป้งที่ทาแล้วไม่เป็นคราบ ทาเดี่ยว โดยไม่ต้องลงรองพื้นก็ได้ค่ะ

ถ้าอยากได้สีพอดีกับผิวตัว หรือ ทาเป็นสีเฉดดิ้งแบบธรรมชาติ ก็แนะนำเป็น
1 นั่นเองค่ะ


หวังว่าจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือก ในการตัดสินใจในการซื้อแป้ง สำหรับสาวผิวสีนะคะ เลือกที่เหมาะกับสีผิว และสภาพผิวของเราให้มากที่สุดค่ะ