แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Powder แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Powder แสดงบทความทั้งหมด

วันพุธที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

รีวิว แป้งผสมรองพื้น เนื้อดีที่สุดจาก MAYBELLINE เบอร์ 228 Fitme Matte & Poreless SPF44 PA++++ | MG_Review

 MAYBELLINE 

 Fit me Matte & Poreless 

SPF44 PA++++



สวัสดีค่ะทุกคน รีวิวนี้มิ้วจะพาทุกคนไปดูกันว่า แป้ง จาก MAYBELLINE Fitme เบอร์ 228 นี้ สีผิวน้ำผึ้งแบบมิ้วใช้แล้วเป็นอย่างไรกันบ้าง ซึ่งตัวนี้เขาว่ากันว่าเป็นแป้งเนื้อที่ดีที่สุดอีกด้วย 
เครมแรงขนาดนี้ ไปดูรายละเอียดกันเลยดีกว่าค่ะ



MAYBELLINE Fit me Matte & Poreless Powder Foundation  24H Oil Control SPF44 PA++++ (9 กรัม)
เป็นแป้งผสมรองพื้นตัวใหม่ล่าสุด มีคุณสมบัติ ปกปิด คุมมัน แต่ให้ความรู้สึกบางเบา เนื้อแมท ปกป้องผิวจากแสงแดด ให้ผิวสวยดูเป็นธรรมชาติ มีอยู่ด้วยกันถึง 6 สี แต่มิ้วเลือกสีที่เข้มสุดมานั่นก็คือเบอร์ 228 เพราะมิ้วเคยใช้รองพื้นเบอร์นี้แล้วรู้สึกว่าเข้ากับสีผิวมิ้วมากที่สุดค่ะ 


ตัวกล่อง และตลับ


ตัวกล่อง มาในสีโทน ดำ ฟ้า เนื้อแมทค่ะ สังเกตง่าย ที่กรอบสีแดง จะมีคำว่า Matte+Poreless  กับ SPF44 PA++++ เพราะ แบรนด์นี้มีแป้ง Fit me หลายรุ่น แถมตัวสีกล่องก็คล้ายๆกันอีก เพราะงั้น สังเกต ดีๆนะคะ ระวังหยิบหรือกดสั่งซื้อผิด มิ้วเคยเกือบสั่งผิดมาแล้วเพราะเห็นว่า ราคามันถูกกว่านั่นเอง


ตัวตลับ เป็นพลาสติก เงา สีดำ ฟ้าเมทาลิค สวยงามขนาดเท่าฝ่ามือมิ้วเองค่ะ เปิดมาจะมีสติ๊กเกอร์แปะกระจกไว้ แล้วก็ตัวแป้ง และช่องใส่พัฟ ซึ่งพัฟ เป็นสีดำ สามารถจิกแป้งได้ดี นุ่มนิ่ม ขนาดอาจจะเล็กไปนิดนึงสำหรับมิ้ว แต่ด้วยราคาประมาณนี้ก็รับได้ไม่เป็นไรค่ะ

ด้านบนจะเป็นแถบสีฟ้าเมทาลิค เขียนว่า Fit me และด้านล่างจะเป็นสีฟ้าเมทาลิค และมีรูระบายอากาศให้พัฟด้วยค่ะ

เนื้อ สี ของแป้ง


เมื่อลองเนื้อแป้งลงบนหลังมือ กับที่ข้อมือก็พบว่า เนื้อแป้งมีสีค่อนข้างเข้มดีเลยทีเดียวค่ะ สีดูกลืนไปกับหลังมือมิ้ว (เมื่อเกลี่ย) และสีเข้มกว่าที่ข้อมือมิ้วด้วยค่ะ เนื้อค่อนข้างเนียนละเอียด ถูกอัดมาแน่นพอประมาณ เพราะตอนปาดเนื้อแอบมีเศษแป้งร่วงลงมาด้วยนิดหน่อยค่ะ


เมื่อเปรียบเทียบกับสีแป้งผสมรองพื้นแบรนด์อื่นๆ ก็พบว่า ตัว Fit me สีเข้มกว่า แบรนด์อื่น เนื้อเนียนไปกับผิว ไม่เป็นคราบ หรือเป็นขุย แถมค่อนข้างเล่นแสง แบบธรรมชาติเลยค่ะ 


วิธีใช้


หลังจากทาสกินแคร์และครีมกันแดดแล้ว ก็ใช้แป้งนี้ กดซับที่ใต้ตาแล้วเกลี่ยไล่ไปที่กรอบหน้า  หน้าผาก แก้ม ซอกจมูก จากนั้นก็กดให้ทั่วผิวหน้าค่ะ ไม่ใช้เป็นการปาด เพราะแป้งอาจจะเป็นคราบบนหน้าได้

ความรู้สึกตอนใช้


ก่อทาแป้ง ผิวมัน จากการทาสกินแคร์ สภาพผิว ผสมค่อนไปทางมัน บริเวณ หน้าผาก จมูก คาง ไม่ค่อยเป็นสิว มีจุดด่างดำ รูขุมขนกว้างบริเวณหน้าแก้ม
ขณะทา     รู้สึกว่าพอกดแป้งลงไปแล้วทำให้ผิวดูแมทไปเลยค่ะ แป้งดูติดผิว เกลี่ยง่าย ไม่เป็นคราบ แต่ด้วยความที่พัฟเขาเล็ก เลยต้องจิกแป้งมากดค่อนข้างบ่อย 
หลังทา      รู้สึกว่าหน้าดูแมท แต่ไม่แห้ง ผิวดูเล่นแสงเงาๆดูป็นธรรมชาติ ปกปิดค่อนข้างดี หน้าไม่เป็นขุย ไม่เป็นคราบ




การปิดสิว


จากภาพจะเห็นว่า แป้งตัวนี้สามารถปกปิดสิวที่เป็นสีเข้มได้สบายเลยค่ะ โดยการที่มิ้วใช้มุมของพัฟ จิกเนื้อแป้งออกมาแล้วกดไปที่ตัวสิวย้ำๆสัก 2-3 รอบ ก็สามารถปกปิดความเข้มของสิวได้เลย แต่รอยนูนๆของสิวปกปิดไม่ได้นะคะ


หลังทาเสร็จทั่วทั้งหน้ารู้สึกว่า เหมือนได้ผิวเกิดใหม่เลย ฮ่าๆ หน้าเนียนมากเหมือนใช้รองพื้นเลย แต่ความจริงคือใช้แค่แป้งอย่างเดียว ไม่ใช้คอนซิลเลอร์ใดๆด้วย รูขุมขนที่หน้าแก้มและริ้วรอยก็ดูลดลง ผิวดูเล่นแสงนิดๆอย่างเป็นธรรมชาติ จดด่างดำ และรอยสิว ก็หายไปเกือบทั้งหมด หน้าไม่เป็นคราบและไม่เป็นขุยด้วยค่ะ เริ่ด



หลังจากแต่งหน้าเสร็จก็จะได้ผิวออกมาเป็นประมาณนี้เลยค่า หน้าดูเต็ม เนียนกริบ แบบออกงานได้เลย





ความติดทน คุมมัน


ความติดทน ขึ้นอยู่กับอากาศในแต่ละวันนะคะว่าร้อน หรือ ชื้นแค่ไหน อย่างในรูปมิ้วถ่ายไว้ตอนอากาศค่อนข้างร้อนจัด ความมันเลยก่อตัวขึ้นมาเร็ว แค่ 2 ชั่วโมงออกไปเจอโลกภายนอกมาผิวก็เริ่มมันแล้ว แต่ไม่มันเยิ้มนะคะ ก็คือ เหงื่อออก แต่พอซับหน้าด้วยกระดาษทิชชู่ ความมันก็หายไป ส่วนแป้งก็ยังติดผิวอยู่ค่ะ


ในส่วนของความติดทน ถืองว่าทำได้ดีมาก มิ้วชอบเลยค่ะ (ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคนด้วย) แต่อาจจะมีช่วงสันจมูก กับคางที่โดนแมสบ่อยๆ พอมีความมันขึ้นมาก็ลบเลือนไปบ้าง แต่ส่วนใหญ่ แป้งจะยังติดผิวอยู่แม้เวลาผ่านไปนานหลายชั่วโมง ที่เขาเคลมว่า ติดทน 24 ชั่วโมง อาจจะเป็นเรื่องจริงก็ได้ค่ะ ไม่ธรรมดาเลย



สรุป คำแนะนำ เหมาะกับใคร


สรุปโดยรวมแล้วคือ มิ้วชอบเลยค่ะ กับแป้งผสมรองพื้น Fitme Matte & Poreless เบอร์ 228 ตลับนี้ เพระ
- สีเข้ม ถูกใจ กับสาวไทย สีเข้ากับหน้ามิ้วมาก ไม่ต้องทาแป้งที่คอให้สีมันเท่ากันด้วยค่ะ
- มีแป้งให้เลือกเยอะ มีหลายโทน ตั้งแต่ ขาว อมเหลือง ไปจนถึงผิวสี
- เนื้อเนียนละเอียดเกลี่ยง่าย
- ปกปิดดีเริ่ด ทั้งรอยสิว จุดด่างดำ รูขุมขน
- ไม่เป็นคราบ ผิวดูเล่นแสง
- ราคาดี แค่หลักร้อยต้นๆ


คำแนะนำ เวลาเลือกซื้อก็อย่างที่บอกค่ะ ว่าดูจุดสังเกตให้ดีๆ และตอนใช้ก็ใช้วิธีการกดซับไปกัยผิว แทนการปาดค่ะ

เหมาะกับ คนที่มีรอยสิว รูขุมขนกว้าง จุดด่างดำต่างๆ
- คนที่รีบแต่งหน้า เพราะไม่ต้องทารองพื้นหรือคอนซิลเลอร์ให้เสียเวลา
- คนแต่งหน้ามือใหม่ เพราะราคาไม่แพงมาก แถมใช้ง่าย ขอแค่เลือกสีแป้งให้เข้ากับหน้าค่ะ
- เบอร์ 228 เข้ากับสาวผิวสีน้ำผึ้ง ผิวอมเหลืองต่างๆ ไปจนถึงผิวแทนค่ะ (คนผิวเข้มกว่ามิ้วก็ใช้ได้ อาจจะสว่างกว่าหน้าไปนิดนถึง แต่ไม่เทาแน่นอน)


เป็นอย่างไรกันบ้างคะทุกคน หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับใครที่กำลังจะซื้อแป้งตัวนี้อยู่นะคะ ส่วนตัวนะมิ้วแนะนำเลย เพราะใช้ง่าย และสวยจริงค่ะ เลือกสีดีๆให้เข้ากับเรา รับรองเริ่ด!

และสำหรับใครที่ อยากได้แป้งตัวนี้ไปลองใช้ ก็เข้าไปที่ลิ้งนี้ได้เลยค่า มิ้วปักหมุดไว้ให้แล้ว ของแท้แน่นอนค่ะ

Shopee: https://invol.co/cl4udzc 
Lazada: https://invol.co/cl4ue2s

ราคา 279 บาท ขนาด 9 กรัม 


ไว้เจอกันใหม่รีวิวหน้านะคะ สวัสดีค่ะ


ติดตามเพิ่มเติมได้ที่






วันจันทร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2561

แป้งน้ำหอม ทาผิว+หน้า Twelve Plus 2 สูตร ต่างกันยังไง??? | MG-Review


Twelve Plus Perfume Fresh Powder


สวัสดีจร้าทุกคน อากาศประเทศไทยเนี่ยนะ มีแค่ร้อนกับร้อนมากเท่านั้นแหละ เราก็จะสรรหาวิธีคลายร้อนกันมากมาย แต่วิธีที่ง่ายและถูกที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้นการทาแป้ง แล้ววันนี้มิ้วก็จะมารีวิวแป้งเย็นที่หอมที่สุดเท่าที่มิ้วเคยใช้มาเลยก็ว่าได้ ทั้งเย็นทั้งหอมในประป๋องเดียว แถมคุ้มค่ากับราคามากๆ รายละเอียดจะเป็นยังไงนั้นไปชมกันเลยจร้า





แป้งที่มิ้วพูดถึงนั่นก็คือ Twelve Plus Perfume Fresh Powder เป็นแป้งเย็น แป้งน้ำหอม และแป้งสี จากแบรนด์ ทเวลฟ์ พลัส มีส่วนผสมของ essence จาก ดอกไม้ 12 ชนิดและวิตามิน ซี พร้อมบำรุงให้ผิวดูเนียนนุ่ม จึงสามารถทาได้ทั้งตัวและใบหน้า เพราะแป้งมีเนื้อสีที่เข้ากับผิวหน้าของทุกคน ทั้งโทนผิวขาว และโทนสีเหลือง แถมยังมีกลิ่นดอกไม้หอมสดชื่นมากๆ มาด้วยกัน ถึง 2 สูตรคือ


Twelve Plus CC Pink Aura Perfume Fresh Powder 
แป้งน้ำหอมทเวลฟ์ พลัส ซีซี พิงค์ ออร่า
-เนื้อแป้งสีขมพู เนื้อเนียนละเอียด มีกลิ่นหอมของดอก พีโอนี




 Twelve Plus BB Perfect Smooth Perfume Fresh Powder 
 แป้งน้ำหอมทเวลฟ์ พลัส บีบี เพอร์เฟค สมูธ
-เนื้อแป้งสีเนื้อ เนียนละเอียด มีกลิ่นหอมของดอกเดซี่

   








ลักษณะ เนื้อ สี กลิ่นของแป้ง




ลักษณะเนื้อ เป็นแป้งที่มีเนื้อเนียนละเอียดมากๆๆๆๆๆๆๆแก อนุมันเล็กมาก มันเนียนนุ่มไปกับผิวเลยตอนถูๆไปบนตัวอ้ะ 
สี จะสังเกตได้ว่า สีของแป้งนั้นแตกต่างกันอย่างชัดเจน โดยสีจะเป็นไปตามกระป๋องแป้งเลยก็คือ สูตร CC จะเป็นสีชมพู สูตร BB จะเป็นสีเนื้ออ่อนๆ
ซึ่งสีชมพูนี้ จะช่วยให้ผิวดูสว่างใสขึ้น ดูมีออร่า 
ส่วนสีเนื้อ จะทำให้ผิวดูเนียนและเบลอจุดด่างดำต่างๆ
กลิ่น ทั้งสองสูตรก็มีความแตกต่างกัน โดยที่สูตร CC จะเป็นกลิ่นดอกพีโอนี่ หอมหวานๆ ส่วนสูตร BB จะเป็น กลิ่นดอกเดซี่ ดูหอมสดชื่น
เรามากันต่อค่ะว่าพอลองเอามาทาแล้วจะแต่กต่างกันขนาดไหน????


เมื่อลองทาที่ผิว


มิ้วลองทา สูตร BB ที่แขนด้านขวา แล้วเปรียบเทียบกับก่อนทาจะเห็นว่าแขนดูเนียนขึ้นกระจ่างใสขึ้นมานิดหน่อย ไม่ได้ขาวโดดลอยโอเวอร์ แถมเนื้อแป้งก็ทาง่าย เกลี่ยง่ายด้วย ที่ชอบก็คือมีความเย็นนิดๆและความหอมอ่อนๆ สดชื่นมากๆ


พอทาสูตร CC ที่แขนซ้าย แล้วเอามาลองเปียบเทียบกัน จะเห็นว่า ด้านที่ทาด้วย สูตร CC มีความขาวกว่าด้าน BB แต่เมื่อเปรียบเทียบกับความรู้สึกมิ้วแล้ว มิ้วชอบด้าน BB มากกว่าค่ะ เพราะดูเป็นผิวมิ้วมากกว่า (มิ้วไม่ชอบความขาวอ้ะ) ดูเนียนกว่าด้าน CC ผิวโทนดหลืองแบบมิ้วดูเหมาะกับเนื้อแป้งสูตร BB มากกว่า


เมื่อทาลงบนหน้า

โดยอุปกรณ์ที่มิ้วใช้ก็จะมี 2 อย่างก็คือ แปรงกับ พัฟ ที่เพิ่มพัฟเข้ามาก็เพราะมิ้วอยากดูว่าถ้าใช้พัฟแล้วเนื้อแป้งจะเป็นอย่างไรตอนอยู่บนหน้าของเราค่ะ เผื่อวันไหนลืมเอาแปรงแต่งหน้ามาจะได้แทนกันได้

สูตร BB

มิ้วเทแป้งลงบนฝ่ามือแล้วจุ่มๆแปรงลงที่แป้ง แล้วเอาแตะลงที่ หน้าผาก แก้ม คาง และคอ จากนั้นเกลี่ยให้ทั่วๆค่ะ ความรู้สึกตอนที่แป้งโดนหน้าคือ มีความเย็นแบบเบาๆ ไม่ได้เย็นวาบเหมือนแป้งยี่ห้ออื่น แล้วกลิ่นหอมก็ติดจมูกมากๆด้วย เกลี่ยง่ายอีกต่างหาก ไม่เป็นคราบหลังทาเสร็จค่ะ แล้วหน้าก็มีความแมทขึ้นซึ่งก่อนทาจะเห็นว่าหน้ามิ้วนั้นมันเงาสะท้อนแสงมาเลย

สูตร CC

หลังทา สูตร CC เสร็จ มิ้วสังเกตว่า สีหน้าฝั่ง CC จะดูขาวกว่าเล็กน้อย แต่ถ้ามองผ่านๆก็แทบไม่ต่างกันเลยค่ะ สรุปว่าถ้าใช้แปรงลงแป้งสีหน้าแบบมิ้วก็ใช้ สูตรใดก็ได้แล้วแต่ความชอบเลย


เมื่อใช้พัฟ


มิ้วเทแป้งลงบนมือแล้วใช้พัฟจุ่มไปที่แป้ง แล้วลงไปบริวเณ ใต้ตาก่อน จากนั้นค่อยแตะไปที่แก้ม หน้าผากและคอ มิ้วเกลี่ยโดยการกดพัฟให้ทั่วๆใบหน้า  แต่ลำคอมิ้วใช้การลากค่ะเพราะพื้นที่มันมากกว่าส่วนอื่นๆ 
หลังจากทาเสร็จก็พบว่า มันดูขาวขึ้นกว่าตอนลงด้วยแปรงนิดนึงค่ะ อันนี้มิ้วสังเกตจากความรู้สึกหลังทาเสร็จจริงๆ ในภาพอาจจะเห็นไม่ค่อยชัด และก็ยังไม่เป็นคราบเหมือนเดิม


หลังจากทาสูตร CC เสร็จ เมื่อเปรียบเทียบกับฝั่ง BB จะเห็นว่า ด้านที่ทาด้วยสูตร CC จะดูขาวกว่า BB เพราะสีแป้งที่เป็น สีชมพูนั่นเองค่ะ

ความปกปิด บางเบา พอเซทหน้าไม่ให้มันมากกว่าค่ะ ทำหน้าทีเหมือนแป้งฝุ่นที่เราเอาไว้เซทรองพื้นนั่นเอง 

ความุมมัน หลังเซทแแป้งเสร็จผิวหน้าเราจะดูแมททันทีเลย แต่ผ่านไปสัก 1-2 ชั่วโมง ก็จะเริ่มมีความมันขึ้นมาแล้ว (จริงๆแล้วแต่สภาพอากาศด้วยค่ะ มิ้วทดสอบในที่ๆอาหาศไม่ร้อนมากและอู่ในร่มเกือบทั้งวัน ออกแดดบ้างนิดหน่อย)


เปรียบเทียบก่อนและหลังทาแป้งเห็นกันชัดๆเลยว่า หน้าดูแมทขึ้นมาก และดูสว่างขึ้น ประมาณ 2 เฉดเลยค่ะ 


ภาพนี้เปรียบเทียบก่อนทาแป้งกับหลังทาแป้งและแต่งหน้าแบบเบาๆโดยการใช้แป้งผสมรองพื้นปกปิดที่ใต้ตา เขียนคิ้ว ปัดแก้ม ทาตา ทาปาก โทนสีชมพูอมส้มใสๆค่ะ ลุคนี้แต่งง่ายๆ สำหรับมือใหม่ เป็น everyday look ได้เลย


รูปนี้มื่อเทียบกันทั้งหน้าและตัว สีผิวดูสม่ำเสมอแถมนวลเนียนอีกด้วย แต่ถ้าใครที่มีหน้าขาวกว่าแขนแบบมิ้ว ก็อาจจะต้องเพิ่มเฉดดิ้งที่ ร่องแก้มด้วยเพื่อให้สีหน้าดูไม่โดดลอยเกินกว่าแขนค่ะ


สรุป
เนื้อแป้งมีความเกลี่ยง่าย ปกปิดบางเบา ไม่เป็นคราบหลังทาเสร็จ กลิ่นหอมมากๆ มิ้วชอบแป้งเนื้อ สูตร BB มากกว่าค่ะ อันนี้โดยส่วนตัวนะ เพราะด้วยเนื้อแป้งเป็นสีเนื้อออกโทนเหลืองด้วยแหละ แต่ชอบกลิ่นของทั้งสองสูตรเลย ทาหน้าได้ไม่แสบหน้าค่ะ ออกแนวเย็นนิดๆพอสดชื่น ส่วนสูตร CC จะเหมาะกับ คนที่มีผิวโทนชมพู ผิวขาว อะไรแบบนั้นมากกว่า แต่เมื่อเอามาทาที่หน้าแบบใช้แปรงแล้วก็สามารถใช้ได้ทั้ง 2 สูตรค่ะ สีไม่ต่างกันมากนัก

ใครที่สนใจอยากได้แป้งน้ำหอมไปลองใช้ดูบ้างก็ หาซื้อได้ง่ายๆเลยที่
7-11 และร้านค้าชั้นนำทั่วไป มาเป็นกระป๋องเล็ก ที่มิ้วถืออยู่นี่ ปริมาณ 50 กรัม ราคา 20 บาท
ห้างสรรพสินค้า เช่น โลตัส บิ๊กซี วัตสัน กูร์เม่ ท็อปส์ จะเป็นกระป๋องใหญ่ ปริมาณ 280 กรัม ราคา 59 บาท

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่
https://www.facebook.com/TwelvePlusOfficial/