แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ติดทน แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ติดทน แสดงบทความทั้งหมด

วันศุกร์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2566

รีวิว Mistine Blend me พาเลทนี้แต่งได้ทั้งหน้า !!!??? | MG_Review

 Mistine 

Blend me Eyeshadow Palette

No.02 Sweet Peach



สวัสดีค่ะทุกคน ห่างหายกันไปนานมากสำหรับการเขียนรีวิว ตอนนี้มิ้วจะกลับมาเขียนเรื่อยๆนะคะ เริ่มกันที่พาเลทถูกและดีจาก มิสทีนตัวนี้เลย มิ้วบอกเลยว่าไม่ใช่แค่เอามาแต่งตาได้อย่างเดียวเท่านั้น แต่จะเอามาทำอะไรได้บ้าง ไปชมกันเลยค่ะ


มิสทีน Blend me Eyeshadow Palatte เป็นงานตารุ่นใหม่ เนื้อเนียนละเอียด มาพร้อมสีให้ได้เล่นกันถึง 9 เฉดสี มิ้วได้เป็นเบอร์ 02 มีทั้งโทนส้ม ชมพู น้ำตาล และชิมเมอร์ ให้ในพาเลทเดียว สีสวยและชัด เกลี่ยง่าย แถมติดทนยาวนานด้วยค่ะ 




ด้านหน้า เป็นพลาสติกใสสามารถเป็นสีอายชาโดวได้ชัดเจน
ด้านหลัง เป็นคำอธิบายและรายละเอียดของผลิตภัณฑ์ค่ะ
เวลาเปิด ก็แค่งัดขึ้นสบายๆค่ะ น้ำหนักเบาขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็กไป พกพาไปแต่งหน้าได้ทุกที่




สีมีตั้งแต่ชมเมอร์สีส้มประกายเงิน โทนชมพู ไปจนถึงเนื้อแมทต์ สีส้ม จนถึงสีน้ำตาลอมม่วงชมพูค่ะ เป็นสีที่ค่อนข้างครอบคลุมทุกโทน แต่งได้ทุกสีผิว ตั้งแต่ผิวขาวยันผิวแทนกว่ามิ้วก็แต่งได้ค่ะ 


ซึ่งตอนมิ้วทาลงบนแขน เนื้อสีค่อนข้างละเอียดมาก เกลี่ยง่าย สีค่อนข้างชัดตั้งแต่ปาดแรก ยิ่งทาเพิ่มก็ยิ่งชัดขึ้นไปอีกค่ะ โดยแทบไม่มีเศษอายชาโดวร่วงให้กวนใจเลยค่ะ เขาอัดมาดีมาก


ซึ่งทุกสีสามารถเอามาทาเปลือกตาได้เลยค่ะ แต่มิ้วแนะนำสีที่เอามาทาบริเวณอื่นได้อีกเช่น
เลข 1 สามารถทาที่หัวตา สันจมูก หน้าแก้ม แทนไฮไลท์ได้
เลข 8+9 เอามาแตะรวมกันแล้วทาที่ขาจมูก กรอบหน้า ทำเป็นคอนทัวร์ หรือเงาที่ใบหน้าได้ค่ะ 
หมายเลข 7, 8, 9 เอามาทาทับที่ปากหลังจากเราทาลิปได้ค่ะ จะได้ลิปสีที่เข้มขึ้น และเนื้อแมตท์ขึ้นด้วยค่ะ
หมายเลข 5+7+8 ปัดรวมๆกัน สามารถเอามาทำเป็นสีปัดแก้มได้ค่ะ


สีสวยมาก แต่งได้หลายลุค สามารถทาได้ทุกวันเลยค่ะ


ซึ่งวันนี้มิ้วมาแต่งหน้าในคอนเสป "THIS IS ME I’m Perfectly ME"

มาดูกันเลยค่ะ


มิ้วใช้สีที่ 1 ชมพูมีประกายทาให้ทั่วเปลือกตาแล้วเกลี่ยให้ขอบดูฟุ้งๆ
จากนั้นใช้เบอร์ 2 ส้มนู้ดมีประกาย ทาที่กึ่งกลางทา แล้วเกลี่ยให้กระจายๆอกด้านข้าง

จากนั้นเติมหางตาด้วยเบอร์ 3 ทาเป็นแนว > และ < ตามรูปตาเลยค่ะ ไปจนถึงปลายขอบตาล่างจะได้หางตาที่ดูมีมิติ สีน้ำตาลอมชมพูสวยเด่นไม่แพ้ใคร



ส่วนหัวตา มิ้วใช้เบอร์ 4 ทา สีส้มมีประกายเงินๆทำให้ตาดูสว่างน่ามองค่ะ

ขอบตาล่าง มิ้วใช้สีเบอร์ 5 ที่กลางตาค่ะ 




บริเวณปาก มิ้วทาลิปสีนู้ดๆก่อนค่ะ จากนั้นก็ทาด้วย สีส้มอิฐให้ทั่วปาก และตามด้วยสีเข้มสุดด้านในปาก จะได้ปากที่มีมิติมากขึ้น และแมตท์ขึ้น สีปากจะติดทนขึ้นกว่าการทาด้วยลิปธรรมดาค่ะ



ซึ่งอย่างที่มิ้วบอก เราสามารถเอาสีในพาเลทมาทาที่ให้หน้าได้เลยค่ะ 

มิ้วใช้ เลข 1 มาทาที่สันจมูกเพื่อเพิ่มความสว่างให้จมูกดูโดดเด่นขึ้น

ใช้เลข 2+3+4 ปัดรวมๆกัน มาทาที่หน้าแก้ม ทำเป็นสีปัดแก้มได้เลย

ใช้เลข 3+5 ปัดรวมๆกัน แล้วมาทาที่กรอบหน้า กับข้างจมูกเพื่อเพิ่มเงาให้ใหหน้าได้เลยค่ะ


ส่วนลุคนี้มิ้วก็แต่งด้วยอายชาโดวของ Mistine เช่นกันค่ะ บอกแล้วว่าแต่งได้อีกหลายลุคเลย



แล้วก็ใช้อายชาโดวมาประยุกต์ทาที่ส่วนอื่นอีกเช่นกันค่ะ


ก่อนแต่งกับหลังแต่งจะแตกต่างกันชัดเจนเลยค่ะ ว่าหน้าดูมีสีสันมากขึ้นดเลยทีเดียว


เหมาะกับใคร 

เหมาะกับนักเรียน นักศึกษา คนวัยทำงาน คนที่แต่งหน้าบ่อยๆ คนที่แต่งหน้าไปทำงาน เพราะสามารถเล่นสีได้หลากหลาย ทั้งโทนชมพู โทนส้ม น้ำตาล และทุกสีสามารถผสมกันได้หมดเลยค่ะ ครีเอทลุคใหม่ๆตลอดเลยด้วยอายชาโดวพาเลทเดียว


บอกเลยนะคะว่า เป็นพาเลทที่ทุกคนควรมีมากๆ ทั้งสีสวยแต่งได้ทุกวันเนื้อก็ดีเกลี่ยก็งาย แถมหาซื้อได้ง่ายมากๆด้วยค่ะ

สามารถหาซื้อได้ที่ เค้าเตอร์ ของ Mistine, วัตสัน ช้อปออนไลน์ต่างๆได้เลยค่ะ

Shopee: https://shope.ee/1L7TReIg8P
Lazada: https://s.lazada.co.th/l.1oNH




หวังว่าทุกคนจะชอบกับรีวิวนี้นะคะ ใครที่เป็นมือใหม่อยากหาพาเลทแต่งตาแบบง่ายๆไม่ต้องคิดเยอะมิ้วก็แนะนำตัวนี้เลยค่ะ ไว้เจอกันใหม่รีวิวหน้า เดี๋ยวมิ้วจะมาเขียนบ่อยๆนะคะ สวัสดีค่ะ




วันจันทร์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564

รีวิว คุชชั่น JOVINA เบอร์ 06 Golden Honey สีเข้มแค่ไหน ติดทนนานไหม จากในสาวผิวสีน้ำผึ้ง ผิวผสมค่อนมัน | MG_

JOVINA 
Everyday Perfecting Cushion Long Wear SPF25 PA+++
No. 06 Golden Honey


วัสดีค่ะทุกคน รีวิวนี้ใครที่อยากรู้ว่าสีคุชชั่นเบอร์เข้มสุดของ JOVINA นั้นเป็นอย่างไร เข้มแค่ไหน มิ้วมีเปรียบเทียบกับตัวอื่นด้วยค่ะ แถมมาบอกด้วยว่าผิวอย่างมิ้วนั้นใช้แล้วเป็นอย่างไร รายละเอียดจะเป็นอย่างไรบ้างนั้น ไปชมกันเลยจ้า


มีแบบคลิปให้ดูด้วยนะคะ


JOVINA Everyday Perfecting Cushion Long Wear SPF25 PA+++
No. 06 Golden Honey 
ปริมาณ 15 กรัม ราคา(ปกติ) 690  บาท 
เป็นคุชชั่นกึ่งเนื้อแมท ที่มีคุณสมบัติ ช่วยให้ผิวเรียบเนียน ด้วยเทคโนโลยี Blurring effect ช่วยรักษาสมดุลของน้ำมันด้วย Astragalus membranaceus และใบบัวบกที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ลดการระคายเคืองผิว ผิวดูเล่นแสง ไม่เป็นคราบ แถมมีกันแดด และผิวแพ้ง่าย สามารถใช้ได้ด้วยค่ะ 



ซึ่งรุ่นนี้มีด้วยกันทั้งหมด 6 สีค่ะ
No.01 Creme                  สีขาว อมเหลืองอ่อนๆ
No.02 Light Beige          สีขาว อมเหลืองขึ้นมานิดนึง
No.03 Warm Ivory          สีเนื้ออ่อนๆ
No.04 Natural                 สีเนื้ออ่อนๆ ใกล้เคียงกับ 03 แต่เข้มกว่านิดนึงค่ะ
No.05 Sand                     สีเนื้อเข้มขึ้นมาอีกนิดออกโทนชมพู
No.06 Golden Honey      สีเนื้ออมส้ม อมเหลือง (จะเข้มที่สุดในนี้ค่ะ)


ตลับมีความสวยงามตั้งแต่ด้านบน โลโก้มีความเล่นแสงสวยมากๆ ขอบสีทองอ่อนๆทำให้ดูหรูหราดูแพง กระจกใหญ่พอดี ตลับจะแบนกว่าคุชชั่นทั่วไปค่ะ ด้านล่างตลับเป็นชื่อสีบอกชัดเจน



พอเปิดตัวตลับขึ้นมา (ใช้วิธีการงัดนะคะ ไม่มีตัวให้กดเปิดฝา) ก็จะเจอกับพัฟและกระจก ซึ่งกระจกนี้มันจะมัวๆก่อนตอนแรก เราต้องลอกพลาสติกออกก่อนใช้นะคะ จะได้ชัดเจนขึ้น


ในส่วนของตัวพัฟจะมีความนุ่มฟู เนื้อเป็นออกกำมะหยี่ผสมฟองน้ำนิดๆ (จากความรู้สึกของมิ้วนะคะ) ไม่หนามาก ใช้กับหน้าแล้วไม่บาดผิวค่ะ  แต่ถ้าคนมือใหญ่ๆอาจจะรู้สึกว่ามันเล็กไปนิดนึง แต่สำหรับมิ้วกำลังพอดีค่ะ


พอเปิดฝาคุชชั่นอีกชั้นนึงก็จะเจอแผ่นพลาสติกกั้นไว้ เป็นข้อความและพลังดีๆจากทางแบรนด์ที่หวังจะให้คุชชั่นตัวนี้เป็นไอเท็มที่ทุกคนชอบ :) มีความดีเทลไปอีก 
พอแกะพลาสติกออกก็จะเจอกับตัวฟองน้ำที่เก็บคุชชั่นไว้ มิ้วลองใช้นิ้วจิ้มๆดูคือมันเนื้อนุ่มมาก ยืดหยุ่นๆเหมือนถุงน่อง หรือมัชเมลโล่เลย ฮ่าๆ(เท่าที่มิ้วรู้สึกนะคะ) ต่างจากฟองน้ำคุชชั่นทั่วๆไป รู้สึกว่าตัวนี้จะเก็บเนื้อคุชชั่นได้เยอะกว่าค่ะ 


มาดูที่สีกันบ้างค่ะ จากที่มิ้วลองป้ายกับที่หลังมือดู พบว่าสีเข้ากับหลังมือมิ้วมาก น่าจะเข้ากับสีผิวมิ้วค่ะ พอมาปาดที่ข้อมือซึ่งขาวกว่า ก็จะเห็นว่าเนื้อคุชชั่นค่อนข้างเข้มเลย 
ทีนี้มิ้วมีรองพื้นสีเข้มสุดของ JOVINA พอดี (สี 04) เลยเอามาเปรียบเทียบสักหน่อย ซึ่งพบว่าสีก็ใกล้เคียงกันอยู่ค่ะ แต่ คุชชั่นสีดูอมส้มมากกว่า สีรองพื้นจะดูเหลืองกว่าค่ะ




ต่อมาเปรียบเทียบกับสีรองพื้นสีเข้มที่มิ้วมีอยู่บ้าง สามารถไปดูรีวิวแยกได้นะคะ

รองพื้น JOVINA 04: https://www.youtube.com/watch?v=jcBvltbZ44o&t=239s
รองพื้น ศรีจันทร์ 130: https://www.youtube.com/watch?v=sH9Zn5p_JPA&t=1s
Calella Cream Foundation 03: https://www.youtube.com/watch?v=tq8bMHxKBG4

สังเกตได้ชัดเจนเลยค่ะว่า รองพื้นของ JOVINA 04 เป็นสีที่เข้มสุด รองมาก็คือคุชชั่ช 06 นั่นเอง
ทำให้เห็นว่า JOVINA เป็นอีกแบรนด์ที่กล้าทำงานผิวสีเข้มออกมาเพื่อผิวคนไทย ให้คนไทยได้ใช้กันทั่วถึงไม่ว่าเราจะสีผิวเข้มก็ตามค่ะ เริ่ดมากๆ




สี เนื้อ ตอนทา




สภาพผิวก่อนทา สีน้ำผึ้ง มีรอยคล้ำใต้ตา มีจุดด่างดำ มีผิวผสม ค่อนมัน
ตอนทา เนื้อคุชชั่นมีความเกลี่ยง่าย ไม่เป็นคราบ การปกปิดปานกลาง แต่ใต้ตายังไม่ค่อยจางหายไปเท่าไหร่ ต้องทาคอนซิลเลอร์หรือ รองพื้นสว่างๆเพิ่มเข้าไปอีกชั้นนึงค่ะ
หลังทา ผิวดูสีสม่ำเสมอขึ้น สีอาจจจะเข้มกว่าหน้านิดนึง แต่เข้ากับสีตัวมากค่ะ ผิวดูฉ่ำ แต่ไม่มันเยิ้ม เล่นแสงพอดี ผิวดูเนียนกว่าก่อนทา แต่คนผิวผสม ผิวมันต้องเซทด้วยแป้งเพิ่มค่ะ หน้าจะได้ไม่มันเพิ่ม



ทางมิ้วเลยเพิ่มเนื้อคุชชั่นที่ใต้ตาโดยการใช้นิ้วนางเกลี่ยลงไป เพราะพัฟมันเข้าไม่ค่อยถึงใต้รอบดวงตาเท่าไหร่



ผลที่ได้ก็จะเป็นประมาณนี้ค่ะ สีดูเสม่ำเสมอ เรียบเนียน แต่ดูเข้มกว่าหน้า ผิวดูเล่นแสง ดูไม่แมท ดูชุ่มชื้น ไม่เป็นคราบ


ส่วนรูปนี้จะเป็นอีกวันที่มิ้วใช้คุชชั่นทาทั้งหน้าค่ะ หลังแต่งหน้าเสร็จแล้วลองถ่ายรูปในแสงต่างๆ ทั้งกล้องหน้าและหล้องหลัง (ความเนียนของหน้าจะขึ้นอยู่กับกล้องที่ถ่ายด้วยค่ะ)

โดยรวมแล้วผิวดูสม่ำเสมอ ไม่เป็นคราบ หน้าไม่ลอยไม่วอก สีดูพอดีกับหน้าค่ะ่ หลังแต่งหน้าเสร็จ แต่กล้องหลังจะให้แสงที่จริงมากกว่ากล้องหน้าค่ะ (สีจะดูเข้มจริงค่ะ) แต่หน้าจริงไม่ได้เนียนขนาดนี้นะคะ ยังเห็นรูขุมขนอยู่ แต่ก็ดีกว่าก่อนทาคุชชั่นมากค่ะ 



ส่วนรูปนี้จะเป็นการเปรียบเทียบ ระหว่าง คุชชั่นตัวใหม่ 06 กับรองพื้น 04 ของ Jovina สีเข้มสุดทั้งคู่ค่ะ
ผลที่ได้คือออกมาสีใกล้เคียงกันเลย แต่ ผิวด้านคุชชั่นจะดูฉ่ำกว่า ส่วนด้านรองพื้นจะแมทไม่เงาเท่าค่ะ ส่วนความปกปิด รองพื้นทำได้ดีกว่า นิดนึงค่ะ แต่หลังเซทแป้งและแต่งหน้าเพิ่ม ก็ดูไม่ต่างกันเลย แยกไม่ออกเลยค่ะว่าด้านไหนใช้อะไร





ความติดทน



ความติดทนตคุชชั่นก็ทำได้ดีมากค่ะ ส่วนตัวมิ้วเป็นคนผิวมันปานกลาง จากภาพวันนั้นร้อนมาก เหงื่อออกเยอะ อากาศร้อน หน้ามันนิดหน่อย แต่คุชชั่นก็เอาอยู่ค่ะ 7 ชั่วโมงผ่านไปก็ยังติดอยู่ แต่ส่วนที่เริ่มหลุดไปคือ สันจมูก จากการที่เราใส่หน้ากากค่ะ


ส่วนภาพนี้เป็นอีกวันนึงค่ะ มิ้วทดสอบไปถึง 10 ชั่วโมง แต่วันนั้นอากาศแห้ง เย็นๆ แต่แดดร้อนค่ะ ระหว่างวันไม่เป็นคราบเลย คุชชั่นเข้ากับสีผิวดีมาก เหงื่อ ออกไม่มาก หน้าเลยไม่ค่อยมันเท่าไหร่ มิ้วเลยทดสอบไปถึงชั่วโมงที่ 10 ก่อนจะลบหน้า พบว่า ช่วงสันจมูก และหน้าผาก มีคุชชั่นที่หลุดออกไปจนเห็นได้ชัด แต่ในรูปดูไม่ค่อยออกเพราะสีคุชชั่นใกล้เคียงกับผิวค่ะ ความมันอยู่ที่ปานกลางค่ะสำหรับมิ้ว






ติดหน้ากากไหม


จากภาพเห็นว่ามีคุชชั่นติดออกมาช่วงสันจมูกที่เราต้องถูกับหน้ากากบ่อยๆ ส่วนอื่นไม่ค่อยมีคุชชั่นติดออกมาค่ะ






สิ่งที่ชอบ ในตัวคุชชุ่น
สีเข้มสะใจมากค่ะ
ทาง่ายเกลี่ยงายมาก
หลังทาผิวเล่นแสง ไม่เป็นคราบจริง
พกพาสะดวกจริงประหยัดพื้นที่ไม่ต้องพกรองพื้นขวดแก้วใหญ่ๆหนักไปเลยค่ะ
สำหรับมิ้วใช้แล้วไม่แพ้ค่ะ






คำแนะนำ
มิ้วว่าใครใต้ตาคล้ำแบบมิ้ว ต้องเพิ่มคอนซิลเลอร์ที่ใต้ตาหน่อยค่ะถึงจะเริ่ด
ผิวมันหลังทาคุชชั่น ควรเซทด้วยแป้งฝุ่นหน้าจะได้ไม่มันเกินค่ะ
ใครที่สีผิวแทน หรือเข้มกว่ามิ้ว หลังใช้คุชชั่นตัวนี้ อาจจะต้องคอนทัวร์เพิ่มที่กรอบหน้า หน้าจะได้ดูมีมิติมากขึ้นค่ะ
ก่อนซื้อใครที่ยังไม่มั่นใจว่าเราควรใช้สีไหน ก็ลองสอบถามแอดมินได้ค่ะ จะได้คุชชั่นตรงสีกับเรามากที่สุด





คุชชั่น JOVINA เหมาะกับใคร
คนที่มีผิวแพ้ง่าย
คนที่มีสีผิวเข้ม
ใช้ได้ทั้งผิวมัน และผิวแห้ง
คนที่อยู่ในวัยทำงาน หรือพอมีงบ และต้องการความรวดเร็วในการแต่งหน้า





คนที่ใช้ของถูกและดีควรมีไหม
มิ้วคิดว่าเป็นอะไรที่น่าลองค่ะ คนที่เป็นนักเรียน นักศึกษา หรือสาวงบน้อย เราอาจจะเก็บตังดูแล้วสั่งมาลองก่อนได้ค่ะ มิ้วคิดว่าเป็นคุชชั่นอีกตัวที่น่าใช้น่าลอง และคุ้มค่ากับผลที่ได้มากค่ะ 


และใครที่สนใจ อยากลองคุชชั่น JOVINA ก็สามารถไปสั่งซื้อได้เลยค่ะที่

พิกัด สั่งซื้อ

หรือถ้าอยากจะสอบถามแอดมินเรื่องสี หรือสั่งซื้อสินค้าตัวอื่น ก็สามารถเข้าไปดูได้ที่
IG:                   https://www.instagram.com/jovina.cosmetics/
LINE@:           https://lin.ee/mnxvVNE


สุดท้ายนี้ก็หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์ และชอบกันนะคะ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันค่า ไว้เจอกันรีวิวหน้านะคะ สวัสดีค่ะ