วันจันทร์ที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2563

รีวิว Mooi ผมสวยแข็งแรงด้วย KERASILK และ KERATIN SERIES


Mooi

 KERASILK and  KERATIN  HAIR TREATMENT

สวัสดีค่ะทุกคนรีวิวนี้ใครที่มีผมชี้ฟู ไม่มีน้ำหนัก หรือผมขาดร่วง จะบอกว่ารีวิวนี้เหมาะมากๆ เพราะมิ้วจะมาเล่าถึง Mooi KERASILK HAIR TREATMENT ที่ช่วยให้ผมของเราสวยและแข็งแรงได้อย่างมั่นใจ ซึ่งมาด้วยกันถึง 3 อย่าง รายละเอียดจะเป็นอย่างไรบ้างนั้นไปชมกันเลยจ้า



โดย เซ็ตบำรุงผม Mooi นี้เป็น เซทที่มีส่วนผสมทั้ง เคราติน เคราซิลค์ ซึ่งมีส่วนช่วยในการบำรุงผมไม่ให้ชี้ฟู ช่วยให้ผมแข็งแรง นุ่มลื่นสลวยค่ะ มาด้วยกันถึง 3 อย่าง 3 ขั้นตอน ก็คือ 
1. Keratin Plus++ Shampoo & Conditioner ปริมาณ 500 ml.
แชมพูที่มากับครีมบุรึงผม ในขวดเดียว ได้ทั้งสระผมและบำรุงผมไปพร้อมกันค่ะ


2. Kerasilk Hair Treatment ปริมาณ 300 ml.
ทรีทเมนท์ที่ช่วยฟื้นบำรุงผมให้แข็งแรงมากขึ้นไปอีก


3. Intensive Hair Esssence Oil ปริมาณ 50 ml.
น้ำมันใส่ผมที่ช่วยให้ผมแข็งแรง หอมแบบสวยๆ แต่ไม่ทำให้ผมเหนียวค่ะ

เรามาดูดันดีว่าค่ะว่าแต่ละตัวนั้นเป็นอย่างไรกันบ้าง




Keratin Plus++ Shampoo & Conditioner



เป็นแชมพูที่มาพร้อมครีมบำรุงผมในขวดเดียว ช่วยให้ผมของเราไม่หลุดร่วงง่าย ผมไม่หยาบ ให้ผมชุ่มชื้นด้วยเคราติน ยิ่งสระก็ยิ่งช่วยให้ผมแข็งแรงค่ะ 
ตัวขวดมาในหัวปั๊มขนาด 500 ml ถือว่าใช้กันได้คุ้มๆเลยค่ะ สีดำทองสวยหรูดูแพงมากๆ 


เนื้อของแชมพูจะเป็นสีครีมนิดๆ กลิ่นหอมมาก หอมแบบผู้ดีคนสวยๆใช้กันค่ะ ฮ่าๆ
 

ตอนที่มิ้วใช้ มิ้วก็จะทำผมของมิ้วให้เปียกก่อน แล้วกดแชมพูออกมา 2 ปั๊ม เอามาผสมน้ำนิดหน่อยแล้วถูมือให้เกิดฟอง แล้วเอามาชโลมที่หนังศีศระ (มิ้วก้มหัวสระผมค่ะ เพราะคิดว่ามันสระได้ทั่วถึงและง่ายกว่าเงยหน้าสระค่ะ) แล้วใช้ปลายนิ้วนวดๆให้ทั่วหนังศีษระ แล้วค่อยไล่ไปที่ปลายผม เมื่อนวดทั่วทั้งหัวแล้วก็ล้างน้ำออกจนกว่าฟองจะหมดค่ะ

มิ้วจะสระ 2 ครั้งเพื่อให้ผมสะอาดมากขึ้น เพราะการสระครั้งแรกแค่เอามลภาวะ ฝุ่น ให้ออกไปก่อน สระครั้งที่ 2 มิ้วจะกดมา 1 ปั๊มค่ะ แล้วสระเหมือนเดิม ครั้งนี้จะใช้ปริมาณแชมพูน้อยลงเพราะผมเราสะอาดขึ้นแล้วนั่นเอง แถมตัวนี้ก็ยังบำรุงไปในตัวด้วย 



สภาพผมของมิ้ว เส้นเล็ก ตรง ผมไม่แตกปลาย
ปัญหาของผม ขาดหลุดร่วงง่าย ไม่มีน้ำหนัก
 


หลังสระก็รู้สึกว่าผมนุ่มลื่นขึ้นตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ค่ะ แถมผมยังหอมด้วย




Kerasilk Hair Treatment


ต่อมาเป็นทรีทเม้นที่มีส่วนผสมของ เคราซิลค์ และเคราติน ซึ่งเคราซิลค์นั้น มีขนาดเล็กกว่า เคราตินถึง 3 เท่า ทำให้เข้าไปช่วยบำรุงผมได้ลึกถึงแกนกลาง และยังมี เม็ดคาเวียร์ และซิลค์ โปรตีน โดยรวมแล้วก็จะลดการชี้ฟูของเส้นผม และยังให้ผมแข็งแรงตั้งแต่โคนผมถึงปลายผมเลยค่ะ


ตัวกระปุกมาในสีดำทองขนาดใหญ่สะใจ 300 ml. เมื่อหมุนฝาออกมาจะเป็นเนื้อทรีทเม้นท์สีเหลืองขุ่นๆ กลิ่นหอมมาก(กลิ่นเดียวกับแชมพู) และมีเม็ดบีดส์เล็กๆสีส้มอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเป็นครั้งแรกเลยที่มิ้วเห็นว่ามีเม็ดบีดส์ในทรีทเม้นท์บำรุงผมค่ะ



เวลาใช้ หลังจากที่สระผมเสร็จแล้วก็หยิบทรีทต์เม้นมาปริมาณก็แล้วแต่ความหนา และความยาวของเส้นผมเราค่ะ มิ้วเอามาวอร์มๆที่ผ่ามือก่อน จากนั้นก็มาชโลมที่ช่วงกลางผมก่อนแล้วไล่ไปที่ปลายผมค่ะ เน้นย้ำๆที่ปลายผมเพราะเป็นช่วงที่แห้งที่สุดนั่นเองค่ะ จะไม่เน้นที่โคนผมมากนักเพราะจะทำให้หัวเรามันมากไปนั่นเอง จากนั้นก็ใช้ปลายนิ้วนวดๆไปให้ทั่วหนังศีษระอีกครั้งหนึ่ง เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ทิ้งไว้ 5-10 นาที เราจะไปอบไปไอน้ำก็ได้ แต่ของมิ้วนั้นก็หนีไปแปรงฟันเพื่อรอเวลาล้างผมค่ะ  จากนั้นก็ล้างน้ำจนกว่าน้ำจะหายเป็นฟองค่ะ





หลังล้างทรีทต์เม้นออกไปก็รู้สึกว่าผมนั้นนุ่มลื่นเข้าไปอีกและมีกลิ่นหอมอ่อนๆค่ะ ผมไม่หยาบไม่เหนียวด้วย (ยิ่งถ้าใช้ความร้อนอย่างเช่นการอบไอน้ำแล้วอบด้วยทรีทเม้นท์ตัวนี้แล้วล่ะก็ สารบำรุงก็จะเข้าไปบำรุงผมได้ถึงแกนกลางมากยิ่งขึ้นค่ะ)



Intensive Hair Esssence Oil


ตัวสุดท้ายจะเป็นน้ำมันใส่ผมโดยไม่ต้องล้างออกค่ะ มีเนื้อใสๆเหลวๆ ช่วยในเรื่องของการกันความร้อนจากแสงแดด ไม่ให้ผมพันกัน ลดผมแตกปลาย และช่วยให้ผมตรงยาวนานค่ะ


ตัวกล่องก็มาในสีดำทองค่ะ บอกสรรพคุณ วิธีการใช้ที่ด้านหลัง และมาในปริมาณ 50 ml. 


ตัวขวด มาในขวดแก้วสีดำ(ต้องระวังอย่าให้ตกนะคะอาจจะแตกได้) หัวปั๊มสีทองและมีฝาปิดใสๆ สวยหรู ดูแพง งามมากๆ ขนาดพอดีมือค่ะ 
ลักษณะของน้ำมันจะเป็นเนื้อมีใส เหลวๆแต่ไม่เหนียวเหนอะหนะ แถมที่ชอบก็คือมีกลิ่นหอมมากๆค่ะ




หลังจากที่มิ้วสระผมเสร็จก็เช็ดผมให้หมาดๆ จากนั้นก็กดน้ำมันออกมาประมาณ 1 ปั๊ม แล้วเอามาวอร์มที่ฝ่ามือ จากนั้นก็เอามาลูปที่ปลายผมค่ะ เพราะเป็นส่วนที่แห้งที่สุดนั่นเอง แล้วก็กดอีก 1 ปั๊ม วอร์มที่ฝ่ามือและทาที่ผมให้ทั่วๆค่ะ ครั้งนี้คือเป็นการลูบผมเพื่อป้องกันผมจากควมร้อนของแสงแดดนั่นเองค่ะ



สรุปก่อนสระผมและหลังสระผม


ก่อนสระผม 
สภาพผมของมิ้วก่อนสระจะมีความมันที่โคนผม(หน้าก็มันด้วยค่ะ เขินจุง)
ผมพันกันแบบยุ่งๆ
มีความแห้งที่ปลายผม
(อันนี้คือสภาพผมที่ไม่ได้สระมา 2 วันค่ะ)



หลังสระผม
ก็คือแต่กต่างอย่างเห็นได้ชัดค่ะ ฮ่าๆ ผมมีความเรียบลื่น ไม่ชี้ฟู ดูมีน้ำหนัก และแข็งแรง หนังศีษระไม่มัน แถมมีกลิ่นหอมด้วยค่ะ ชอบมากๆๆๆๆๆๆๆๆ





เรามาสรุปกันนะคะว่าสิ่งที่มิ้วชอบหลังจากใช้ Mooi KERASILK HAIR TREATMENT นั่นก็คือ
- ชอบที่แชมพูเป็นได้ทั้งทำความสะอาดผม และบำรุงผมไปในตัว ทำให้ไม่ต้องใช้ครีมนวดผมลดเวลาในกระสระผมไปได้
- ชอบที่ทรีทเม้นท์ที่มีเม็ดบีดส์ด้วย แถมเนื้อทรีทเม้นท์ก็เข้มข้นมากๆค่ะ
- ชอบที่ขนาดของผลิตภัณฑ์มาในประมาณที่คุ้มค่ามากๆ
- ชอบความรู้สึกเวลาสระผมแล้วเหมือนเป็นการทำสปาผม เพราะกลิ่นมีความผ่อนคลาย หอมละมุนแบบผู้ดีมากๆค่ะ
- ชอบที่น้ำมันใส่ผม ไม่ทำให้ผมหรือหนังศรีษะเหนียวเหนอะหนะเลย มีกลิ่นหอมอีกด้วยค่ะ


มิ้วเลยคิดว่า คนที่เหมาะกับการใช้ Mooi KERASILK HAIR TREATMENT ก็คือ
- คนที่มีผมเสียต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการดัด ทำสี หรือม้วนผม ผ่านความร้อนบ่อยๆ
- คนที่ผมขาดร่วงง่าย ผมไม่แข็งแรง ผมขาดง่าย
- คนที่มีผมชี้ฟู
- คนที่มีผมไม่มีน้ำหนัก
- คนที่อยากบำรุงผมและฟื้นฟูผม อยากมีสปาผมทำเองที่บ้านค่ะ ต้องลองเลย

ในเรื่องของการขาดหลุดร่วงนั้น หลังจากที่มิ้วใช้ไปเพียง 2 ครั้ง (มิ้วสระผม วันเว้นวันค่ะ) ก็รู้สึกว่าผมขาดหลุดร่วงน้อยลง วัดผลจากตอนเอามือสางผม และเก็บกวาดผมน้อยลงนั่นเองค่ะ ชอบมากๆ


เรียกได้ว่าคุ้มค่ากับการลงทุนมากๆเลยนะคะ เพื่อผมของเราที่แข็งแรงและสุขภาพดี และเมื่อผมของเราสวยสุขภาพดีแล้ว เราก็จะมั่นใจขึ้น โชว์ผม ทำผม สวยๆ ได้ตามใจเราต้องการเลยค่ะ


และสำหรับใครที่อ่านรีวิวนี้แล้วต้องการ Mooi KERASILK HAIR TREATMENT ไปบำรุงผม แล้วล่ะก็ ลองเข้าไปสอบถามเพิ่มเติมได้ที่นี่นะคะ

Facebook: www.facebook.com/mooithailand
Line: @mooithailand

หวังว่าจะชอบกับรีวิวนี้นะคะ อยากให้ทุกคนมีผมสวยมั่นใจในทุกสถานการณ์ค่ะ <3 รัก




วันอังคารที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2563

รีวิว Lady Audrey หน้าเนียนสวยจนต้องเปย์ กับ แป้งนางงาม MG-Review



 Lady Audrey

Lady Audrey

สวัสดีค่ะทุกคนสาวคนไหนกำลังมองหาแป้งที่ใช้แล้วปัง สวยดั่งนางงามอยู่ละก็ มาถูกรีวิวแล้วจ้าเพราะวันนี้มิ้วจะมา รีวิว แป้งอัดแข็งสูตรใหม่ Lady audrey และแป้งฝุ่นนั่นเองค่ะ ซึ่งเขาขนานนามว่าเป็นแป้งนางงามด้วย จะดีงามตามที่เขาว่าหรือไม่อย่างไรนั้น ไปชมกันเลยจ้า



Lady Audrey


Lady Audrey เป็น แป้งที่ได้มาจากข้าวไทย ซึ่งทำการต่อยอดมาจากแป้งเด็ก Reiscare ที่ได้รางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ รางวัล 7 innovation award ได้ทำการจดสิทธิบัตรในประเทศไทย อเมริกา ยุโรป และก็ยังนำไปใช้ในกองประกวดนางงาม Miss Grand Thailand 2019 และ 2020 จึงได้ชื่อว่าเป็นแป้งนางงามนั่นเองค่ะ

Lady Audrey


ซึ่งแป้งตัวนี้ก็มีความว่าเหมาะกับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะคนที่มีผิวแพ้ง่าย หรือเรียกได้ว่าเป็นแป้งข้าวสำหรับผิวแพ้ง่าย มีสวรผสมของวิตามินอีช่วยให้ผิวชุ่มชื่น หน้าเนียน คุมมันได้ตลอดทั้งวัน (12 ชั่วโมง) ไม่มีอาการแพ้ ไม่มัน สีหน้าไม่ดรอป
ไม่มีสารทัลคัม (แร่ใยหิน ถ้าสูดดมเข้าไปจะสะสมในปอดอาจจะทำให้เป็นมะเร็งได้)
โดยที่มิ้วเอามารีวิวก็จะมีด้วยกันถึง 2 แบบนั่นก็คือ

1. Lady Audrey Rice Flawless Foundation Powder Long-Lasting Oil Control
2.Lady Audrey Rice Loose Powder


ไปดูกันค่ะว่าแต่ละตัวนั้นเป็นอย่างไรกันบ้าง

Lady Audrey




Lady Audrey Rice Flawless Foundation Powder Long-Lasting Oil Control


Lady Audrey

ตัวแรกเป็นแป้งอัดแข็งผสมรองพื้น ซึ่งเป็นสูตรใหม่ด้วยค่ะ แค่เป็นกล่องก็คือสวยงามมากแล้วพอเปิดกล่องออกมา ก็จะเจอตลับแป้งซึ่งสีน่ารักน่าใช้จริงๆค่ะ เห็นครั้งแรกคือหลงรักเลย <3

Lady Audrey

ตลับมีความหนานิดนึงค่ะ แต่ขนาดพอดีมือ สีชมพูนู้ดใครถือก็คือสวยตั้งแล้ว พอเปิดตลับแป้งมาก็จะเจอชั้นของพัฟก่อนเลย แล้วเปิดมาอีกชั้นนึงก็จะเป็นเนื้อแป้งซึ่งมีแผ่นใสรองไว้อีกทีค่ะ

Lady Audrey

 ซึ่งพับเป็นฟองน้ำนิ่มๆค่ะ ไม่หนาไม่บางไป ขนาดพอดีมือ

Lady Audrey

สีของแป้งก็จะมาด้วยกันถึง 3 สีตอบโจทย์สีผิวคนไทยได้เป็นอย่างดีค่ะ

Lady Audrey

10 Beige สีขาวนวลๆเหมาะกับคนผิขาว อมชมพู
20 Beige สีเนื้อขาวเหลือง เหมาะกับคนทีมีผิวขาวเหลือง ให้หน้าดูเป็นธรรมชาติ
30 Beige สีเนื้อๆ เหมาะกับสาวผิวสองสีไปจนถึงผิวแทน (ซึ่งมิ้วอยู่โทนนี้ค่ะ)

Lady Audrey


Lady Audrey

จะเห็นว่าสีของแป้งอยู่ในโทนสีเหลืองซึ่งไม่ทำให้หน้าของเราลอยค่ะ

Lady Audrey

ซึ่งมิ้วมีความชอบในสี เบอร์ 30 มากๆ เพราะนานๆจะมีแป้งที่สีเข้มเข้ากับผิวของมิ้วที่เป็นคนผิวสีน้ำผึ้งนั่นเอง เปิดมาครั้งแรกก็รู้เลยว่าต้องเข้ากับสีผิวแน่นอน สีคือเข้มได้ใจมากๆค่ะ

Lady Audrey

ตอนทาก็สามารถทาได้ทั้งแบบเปียกและแบบแห้ง (แบบเปียกก็คือการเอาพัฟไปชุบน้ำให้หมาดๆนั่นเองค่ะ) โดยมิ้วถนัดใช้เป็นแบบแห้งมากกว่าค่ะ มิ้วก็จะกดย้ำๆไปบริเวณใต้ตา สันจมูก คาง หน้าผาก แล้วก็เกลี่ยออกไปให้ทั่วใบหน้าค่ะ 


Lady Audrey


ซึ่งเราสามารุทาไปโดยตรงก็ได้ แต่ถ้าคนไหนที่มีรอยคล้ำใต้ตา ก็ปกปิดใต้ตาด้วยคอลซิลเลอร์ก็จะเริ่ดขึ้นไปอีกค่ะ 

ก่อนทา ผิวมิ้วก็จะมีความมันช่วงหน้าผาก จมูกคาง 
ตอนทา ก็รู้สึกว่าเนื้อแป้งเกลี่ยง่ายมากๆ และสีเข้ากับผิวมิ้วมาก แบบ มากๆเลยค่ะ ฮ่าๆ
หลังทา หน้าไม่เป็นคราบไม่แสบ ไม่คัน ปกปิดปานกลาง หน้าดูเนียน แมทแต่ไม่แห้งค่ะ


Lady Audrey

หรือเราก็สามารถทาแป้งอัดแข็งตัวนี้หลังจากที่ทาแป้งฝุ่นไปแล้วก็ได้ค่ะ ก็จะได้การปกปิด และคุมความมันมากกว่าที่เคย 


Lady Audrey

คำแนะนำ
มิ้วว่าเหมาะมากๆเลยสำหรับคนที่มีผิวผสม ผิวมัน และเป็นแป้งสำหรับผิวแพ้ง่าย ก็ใช้ได้ แต่ใครที่มีผิวแห้ง ก็อยากจะแนะนำให้บำรุงผิวให้ชุ่มชื่นก่อนแล้วค่อยทาแป้งค่ะ 


Lady AudreyLady Audrey

Lady Audrey

Lady Audrey


ต่อไปก็จะเป็น แป้งฝุ่นคุมมัน Lady Audrey รีวิว ค่ะ




Lady Audrey Rice Loose Powder 


Lady Audrey

เป็นแป้งฝุ่นเนื้อเนียนละเอียดมาก ช่วยคุมมันได้นาน และไม่อุดตันใบหน้าด้วยมาด้วยกันถึง 2 สีคือ

001 Peach Parfait สีขาวอมชมพู เหมาะกับคนที่อยากให้หน้าดูกระจ่างใส

Lady Audrey

002 French Vanilla สีขาวอมเหลือง เหมาะกับสาวผิวสีช้วยให้ใบหน้าดูเป็นธรรมชาติ

Lady Audrey



Lady Audrey

ตัวกระปุกก็มาในสีที่น่ารักอีกแล้ว ขนาดกระทัดรัด เหมาะแก่การพกพาไปเที่ยวจริงๆ ตัวตลับด้านล่างเป็นพลาสติกแบบเนื้อด้าน ซึ่งมิ้วชอบเป็นการส่วนตัวค่ะ

Lady Audrey

พอหมุนเปิดฝามาก็จะเจอกับพัฟนุ่มนิ่มฟู เนื้อละเอียดอ่อนนุ่มมากๆโอ้ยชอบไปหมดเลยค่ะ

Lady Audrey

แล้วพอหยิบพัฟขึ้นมาก็จะเห็นสติกเกอร์แปะกั้นเนื้อแป้งอยู่ค่ะ ตอนจะใช้ก็ทำหารลอกออกได้เลย

Lady Audrey 

เนื้อแป้งก็มีสีที่แตกต่างกันและมีความละเอียดมากๆ จนเห็นได้ชัดค่ะ 

Lady Audrey

โดยมิ้วเลือกใช้ สี 002 เอาทามาให้ทุกคนได้ดูกันค่ะที่เลือกสีนี้เพราะมีโทนเหลืองดูเข้ากับสีผิวของมิ้ว 

Lady Audrey

ซึ่งมิ้วทาแป้งฝุ่น หลังจากที่เราทารองพื้นเสร็จเพื่อเป็นการเซ็ทรองพื้นให้หน้าไม่มันนั่นเองค่ะ สำหรับสาวผิวผสมค่อนมันแบบมิ้ว ก็ทำการกดๆซับไปให้ทั่วหน้า หรือใครไม่อยากให้แป้งติดหน้ามากก็ใช้กับแปรงอันหัวใหญ่ๆเอามาปัดให้ทั่วหน้าได้เลยค่ะ

ก่อนทา  หน้าดูมีความมันนิดๆ
ตอนทา รู้สึกว่าเนื้อแป้งมีความสะเอียดมากๆ เกลี่ยง่าย 
หลังทา หน้าดูแมทขึ้น แต่หน้าไม่แห้งเลย ไม่เป็นขุย ไม่เป็นคราบ ไม่แสบ ไม่คันแต่อย่างใดค่ะ

Lady Audrey

หลังทาด้วย Lady Audrey Rice Loose Powder


Lady Audrey

คำแนะนำ
เราสามารถใช้ได้ทั้งสองสีเลยนะคะ เพราะมันเป็นแป้งโปร่งแสง ซึ่งวันไหนหน้าหมองอยากได้หน้าที่กระจ่างใสก็ลองสีเบอร์ 001 ได้ค่ะ แล้วเราก็ยังใช้คู่ปับแปรงฟุ่มอันใหญ่ๆได้ช่วยให้แป้งไม่เข้าไปในผิวมากจนเกินไปด้วยค่ะ


Lady Audrey


Lady Audrey


Lady Audrey

Lady Audrey


โดยรวมแล้วมิ้วชอบมากๆเลยค่ะสำหรับแป้งทั้ง 2 ตัว เพราะหลังทาเสร็จก็ไม่เป็นคราบ บางเบา ไม่หนักหน้าเลยแถมยังคุมมันได้ดีด้วยค่ะ 

Lady Audrey

Lady Audrey

หลังใช้แป้งทั้งสองตัวหน้าก็เนียนสวยทั้งวัน ออกไปไหนก็มั่นใจไม่ต้องกลัวว่าจะไม่สวยแล้วค่ะ
ต้อง "มอบมง" ให้เขาเลย สมกับเป็นแป้งนางงามจริงๆค่ะ

Lady Audrey

 Lady Audrey


และด้วยความที่แป้งมาในขนาดกระทัดรัด เลยสามารถพกพาเอาใส่กระเป๋าไปเติมหน้าระหว่างวันหรือพาเดินทางไกลๆได้สบายค่ะ พาไปเที่ยวได้ไม่อายใครแน่นอน

Lady Audrey

Lady Audrey

เป็นอย่างไรบ้างคะกับ แป้งข้าว lady audrey รีวิวนี้ หวังว่าจะถูกใจ ใครหลายๆคนนะคะพลาดไม่ได้เลยจริงๆ ใครอยากหน้าเนียนสวยตลอดวัน ก็ไปลองกันได้เลยค่ะ

Lady Audrey

ใครที่สนใจก็สามารถไปหาซื้อหรือสอบถามข้อมูลกันได้ที่

Facebook: Ladyaudreyclub
Website: www.ladyaudrey.com
IG: Ladyaudreyclub IG
Line: @ladyaudreyclub

หรือกดสั่งซื้อได้เลยที่นี่ค่ะ
Konvy.com
แป้งพัฟ: https://invol.co/cl4n00z
แป้งฝุ่น: https://invol.co/cl4n02i

Lady Audrey