แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ สองสี แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ สองสี แสดงบทความทั้งหมด

วันจันทร์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564

รีวิว คุชชั่น JOVINA เบอร์ 06 Golden Honey สีเข้มแค่ไหน ติดทนนานไหม จากในสาวผิวสีน้ำผึ้ง ผิวผสมค่อนมัน | MG_

JOVINA 
Everyday Perfecting Cushion Long Wear SPF25 PA+++
No. 06 Golden Honey


วัสดีค่ะทุกคน รีวิวนี้ใครที่อยากรู้ว่าสีคุชชั่นเบอร์เข้มสุดของ JOVINA นั้นเป็นอย่างไร เข้มแค่ไหน มิ้วมีเปรียบเทียบกับตัวอื่นด้วยค่ะ แถมมาบอกด้วยว่าผิวอย่างมิ้วนั้นใช้แล้วเป็นอย่างไร รายละเอียดจะเป็นอย่างไรบ้างนั้น ไปชมกันเลยจ้า


มีแบบคลิปให้ดูด้วยนะคะ


JOVINA Everyday Perfecting Cushion Long Wear SPF25 PA+++
No. 06 Golden Honey 
ปริมาณ 15 กรัม ราคา(ปกติ) 690  บาท 
เป็นคุชชั่นกึ่งเนื้อแมท ที่มีคุณสมบัติ ช่วยให้ผิวเรียบเนียน ด้วยเทคโนโลยี Blurring effect ช่วยรักษาสมดุลของน้ำมันด้วย Astragalus membranaceus และใบบัวบกที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ลดการระคายเคืองผิว ผิวดูเล่นแสง ไม่เป็นคราบ แถมมีกันแดด และผิวแพ้ง่าย สามารถใช้ได้ด้วยค่ะ 



ซึ่งรุ่นนี้มีด้วยกันทั้งหมด 6 สีค่ะ
No.01 Creme                  สีขาว อมเหลืองอ่อนๆ
No.02 Light Beige          สีขาว อมเหลืองขึ้นมานิดนึง
No.03 Warm Ivory          สีเนื้ออ่อนๆ
No.04 Natural                 สีเนื้ออ่อนๆ ใกล้เคียงกับ 03 แต่เข้มกว่านิดนึงค่ะ
No.05 Sand                     สีเนื้อเข้มขึ้นมาอีกนิดออกโทนชมพู
No.06 Golden Honey      สีเนื้ออมส้ม อมเหลือง (จะเข้มที่สุดในนี้ค่ะ)


ตลับมีความสวยงามตั้งแต่ด้านบน โลโก้มีความเล่นแสงสวยมากๆ ขอบสีทองอ่อนๆทำให้ดูหรูหราดูแพง กระจกใหญ่พอดี ตลับจะแบนกว่าคุชชั่นทั่วไปค่ะ ด้านล่างตลับเป็นชื่อสีบอกชัดเจน



พอเปิดตัวตลับขึ้นมา (ใช้วิธีการงัดนะคะ ไม่มีตัวให้กดเปิดฝา) ก็จะเจอกับพัฟและกระจก ซึ่งกระจกนี้มันจะมัวๆก่อนตอนแรก เราต้องลอกพลาสติกออกก่อนใช้นะคะ จะได้ชัดเจนขึ้น


ในส่วนของตัวพัฟจะมีความนุ่มฟู เนื้อเป็นออกกำมะหยี่ผสมฟองน้ำนิดๆ (จากความรู้สึกของมิ้วนะคะ) ไม่หนามาก ใช้กับหน้าแล้วไม่บาดผิวค่ะ  แต่ถ้าคนมือใหญ่ๆอาจจะรู้สึกว่ามันเล็กไปนิดนึง แต่สำหรับมิ้วกำลังพอดีค่ะ


พอเปิดฝาคุชชั่นอีกชั้นนึงก็จะเจอแผ่นพลาสติกกั้นไว้ เป็นข้อความและพลังดีๆจากทางแบรนด์ที่หวังจะให้คุชชั่นตัวนี้เป็นไอเท็มที่ทุกคนชอบ :) มีความดีเทลไปอีก 
พอแกะพลาสติกออกก็จะเจอกับตัวฟองน้ำที่เก็บคุชชั่นไว้ มิ้วลองใช้นิ้วจิ้มๆดูคือมันเนื้อนุ่มมาก ยืดหยุ่นๆเหมือนถุงน่อง หรือมัชเมลโล่เลย ฮ่าๆ(เท่าที่มิ้วรู้สึกนะคะ) ต่างจากฟองน้ำคุชชั่นทั่วๆไป รู้สึกว่าตัวนี้จะเก็บเนื้อคุชชั่นได้เยอะกว่าค่ะ 


มาดูที่สีกันบ้างค่ะ จากที่มิ้วลองป้ายกับที่หลังมือดู พบว่าสีเข้ากับหลังมือมิ้วมาก น่าจะเข้ากับสีผิวมิ้วค่ะ พอมาปาดที่ข้อมือซึ่งขาวกว่า ก็จะเห็นว่าเนื้อคุชชั่นค่อนข้างเข้มเลย 
ทีนี้มิ้วมีรองพื้นสีเข้มสุดของ JOVINA พอดี (สี 04) เลยเอามาเปรียบเทียบสักหน่อย ซึ่งพบว่าสีก็ใกล้เคียงกันอยู่ค่ะ แต่ คุชชั่นสีดูอมส้มมากกว่า สีรองพื้นจะดูเหลืองกว่าค่ะ




ต่อมาเปรียบเทียบกับสีรองพื้นสีเข้มที่มิ้วมีอยู่บ้าง สามารถไปดูรีวิวแยกได้นะคะ

รองพื้น JOVINA 04: https://www.youtube.com/watch?v=jcBvltbZ44o&t=239s
รองพื้น ศรีจันทร์ 130: https://www.youtube.com/watch?v=sH9Zn5p_JPA&t=1s
Calella Cream Foundation 03: https://www.youtube.com/watch?v=tq8bMHxKBG4

สังเกตได้ชัดเจนเลยค่ะว่า รองพื้นของ JOVINA 04 เป็นสีที่เข้มสุด รองมาก็คือคุชชั่ช 06 นั่นเอง
ทำให้เห็นว่า JOVINA เป็นอีกแบรนด์ที่กล้าทำงานผิวสีเข้มออกมาเพื่อผิวคนไทย ให้คนไทยได้ใช้กันทั่วถึงไม่ว่าเราจะสีผิวเข้มก็ตามค่ะ เริ่ดมากๆ




สี เนื้อ ตอนทา




สภาพผิวก่อนทา สีน้ำผึ้ง มีรอยคล้ำใต้ตา มีจุดด่างดำ มีผิวผสม ค่อนมัน
ตอนทา เนื้อคุชชั่นมีความเกลี่ยง่าย ไม่เป็นคราบ การปกปิดปานกลาง แต่ใต้ตายังไม่ค่อยจางหายไปเท่าไหร่ ต้องทาคอนซิลเลอร์หรือ รองพื้นสว่างๆเพิ่มเข้าไปอีกชั้นนึงค่ะ
หลังทา ผิวดูสีสม่ำเสมอขึ้น สีอาจจจะเข้มกว่าหน้านิดนึง แต่เข้ากับสีตัวมากค่ะ ผิวดูฉ่ำ แต่ไม่มันเยิ้ม เล่นแสงพอดี ผิวดูเนียนกว่าก่อนทา แต่คนผิวผสม ผิวมันต้องเซทด้วยแป้งเพิ่มค่ะ หน้าจะได้ไม่มันเพิ่ม



ทางมิ้วเลยเพิ่มเนื้อคุชชั่นที่ใต้ตาโดยการใช้นิ้วนางเกลี่ยลงไป เพราะพัฟมันเข้าไม่ค่อยถึงใต้รอบดวงตาเท่าไหร่



ผลที่ได้ก็จะเป็นประมาณนี้ค่ะ สีดูเสม่ำเสมอ เรียบเนียน แต่ดูเข้มกว่าหน้า ผิวดูเล่นแสง ดูไม่แมท ดูชุ่มชื้น ไม่เป็นคราบ


ส่วนรูปนี้จะเป็นอีกวันที่มิ้วใช้คุชชั่นทาทั้งหน้าค่ะ หลังแต่งหน้าเสร็จแล้วลองถ่ายรูปในแสงต่างๆ ทั้งกล้องหน้าและหล้องหลัง (ความเนียนของหน้าจะขึ้นอยู่กับกล้องที่ถ่ายด้วยค่ะ)

โดยรวมแล้วผิวดูสม่ำเสมอ ไม่เป็นคราบ หน้าไม่ลอยไม่วอก สีดูพอดีกับหน้าค่ะ่ หลังแต่งหน้าเสร็จ แต่กล้องหลังจะให้แสงที่จริงมากกว่ากล้องหน้าค่ะ (สีจะดูเข้มจริงค่ะ) แต่หน้าจริงไม่ได้เนียนขนาดนี้นะคะ ยังเห็นรูขุมขนอยู่ แต่ก็ดีกว่าก่อนทาคุชชั่นมากค่ะ 



ส่วนรูปนี้จะเป็นการเปรียบเทียบ ระหว่าง คุชชั่นตัวใหม่ 06 กับรองพื้น 04 ของ Jovina สีเข้มสุดทั้งคู่ค่ะ
ผลที่ได้คือออกมาสีใกล้เคียงกันเลย แต่ ผิวด้านคุชชั่นจะดูฉ่ำกว่า ส่วนด้านรองพื้นจะแมทไม่เงาเท่าค่ะ ส่วนความปกปิด รองพื้นทำได้ดีกว่า นิดนึงค่ะ แต่หลังเซทแป้งและแต่งหน้าเพิ่ม ก็ดูไม่ต่างกันเลย แยกไม่ออกเลยค่ะว่าด้านไหนใช้อะไร





ความติดทน



ความติดทนตคุชชั่นก็ทำได้ดีมากค่ะ ส่วนตัวมิ้วเป็นคนผิวมันปานกลาง จากภาพวันนั้นร้อนมาก เหงื่อออกเยอะ อากาศร้อน หน้ามันนิดหน่อย แต่คุชชั่นก็เอาอยู่ค่ะ 7 ชั่วโมงผ่านไปก็ยังติดอยู่ แต่ส่วนที่เริ่มหลุดไปคือ สันจมูก จากการที่เราใส่หน้ากากค่ะ


ส่วนภาพนี้เป็นอีกวันนึงค่ะ มิ้วทดสอบไปถึง 10 ชั่วโมง แต่วันนั้นอากาศแห้ง เย็นๆ แต่แดดร้อนค่ะ ระหว่างวันไม่เป็นคราบเลย คุชชั่นเข้ากับสีผิวดีมาก เหงื่อ ออกไม่มาก หน้าเลยไม่ค่อยมันเท่าไหร่ มิ้วเลยทดสอบไปถึงชั่วโมงที่ 10 ก่อนจะลบหน้า พบว่า ช่วงสันจมูก และหน้าผาก มีคุชชั่นที่หลุดออกไปจนเห็นได้ชัด แต่ในรูปดูไม่ค่อยออกเพราะสีคุชชั่นใกล้เคียงกับผิวค่ะ ความมันอยู่ที่ปานกลางค่ะสำหรับมิ้ว






ติดหน้ากากไหม


จากภาพเห็นว่ามีคุชชั่นติดออกมาช่วงสันจมูกที่เราต้องถูกับหน้ากากบ่อยๆ ส่วนอื่นไม่ค่อยมีคุชชั่นติดออกมาค่ะ






สิ่งที่ชอบ ในตัวคุชชุ่น
สีเข้มสะใจมากค่ะ
ทาง่ายเกลี่ยงายมาก
หลังทาผิวเล่นแสง ไม่เป็นคราบจริง
พกพาสะดวกจริงประหยัดพื้นที่ไม่ต้องพกรองพื้นขวดแก้วใหญ่ๆหนักไปเลยค่ะ
สำหรับมิ้วใช้แล้วไม่แพ้ค่ะ






คำแนะนำ
มิ้วว่าใครใต้ตาคล้ำแบบมิ้ว ต้องเพิ่มคอนซิลเลอร์ที่ใต้ตาหน่อยค่ะถึงจะเริ่ด
ผิวมันหลังทาคุชชั่น ควรเซทด้วยแป้งฝุ่นหน้าจะได้ไม่มันเกินค่ะ
ใครที่สีผิวแทน หรือเข้มกว่ามิ้ว หลังใช้คุชชั่นตัวนี้ อาจจะต้องคอนทัวร์เพิ่มที่กรอบหน้า หน้าจะได้ดูมีมิติมากขึ้นค่ะ
ก่อนซื้อใครที่ยังไม่มั่นใจว่าเราควรใช้สีไหน ก็ลองสอบถามแอดมินได้ค่ะ จะได้คุชชั่นตรงสีกับเรามากที่สุด





คุชชั่น JOVINA เหมาะกับใคร
คนที่มีผิวแพ้ง่าย
คนที่มีสีผิวเข้ม
ใช้ได้ทั้งผิวมัน และผิวแห้ง
คนที่อยู่ในวัยทำงาน หรือพอมีงบ และต้องการความรวดเร็วในการแต่งหน้า





คนที่ใช้ของถูกและดีควรมีไหม
มิ้วคิดว่าเป็นอะไรที่น่าลองค่ะ คนที่เป็นนักเรียน นักศึกษา หรือสาวงบน้อย เราอาจจะเก็บตังดูแล้วสั่งมาลองก่อนได้ค่ะ มิ้วคิดว่าเป็นคุชชั่นอีกตัวที่น่าใช้น่าลอง และคุ้มค่ากับผลที่ได้มากค่ะ 


และใครที่สนใจ อยากลองคุชชั่น JOVINA ก็สามารถไปสั่งซื้อได้เลยค่ะที่

พิกัด สั่งซื้อ

หรือถ้าอยากจะสอบถามแอดมินเรื่องสี หรือสั่งซื้อสินค้าตัวอื่น ก็สามารถเข้าไปดูได้ที่
IG:                   https://www.instagram.com/jovina.cosmetics/
LINE@:           https://lin.ee/mnxvVNE


สุดท้ายนี้ก็หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์ และชอบกันนะคะ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันค่า ไว้เจอกันรีวิวหน้านะคะ สวัสดีค่ะ






























วันศุกร์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

รีวิวแป้งสีเข้มสุดทั้งหมดที่มี ผิวแทน ผิวสี ผิวมัน ต้องดู!!!

รีวิวแป้ง สีเบอร์เข้มสุด ทั้งหมดที่มี


สวัสดีค่าทุกคน รีวิวนี้มิ้วเอาใจสาวผิวสีเข้มเลยค่ะ ด้วยความที่มิ้วเป็นอีกคนนึงที่มีแป้งสีเข้ม เบอร์เข้มสุดอยู่หลายตัวมาก วันนี้เลยรวบรวมเอามาเม้ามอยให้ฟัง แต่ละตัวจะเป็นอย่างไร มิ้วใช้แล้วรู้สึกอย่างไรบ้างนั้น ไปชมกันเลยจร้า






โดยมิ้วจะไล่ราคาจาก น้อยไปหามากนะคะ เอาแบบสั้นๆง่ายๆได้ใจความก็แล้วกัน จะได้ดูไม่ยืดเยื้อค่ะ

1. Butae Super oil control powder
No.3 Golden Brown
ราคา 25- 75 บาท


เป็นแป้งตัวแรกๆที่มิ้วใช้เลยก็ว่าได้ และเป็นสีเข้มมากสุดที่มิ้วมี ข้อเสียจะเป็นที่พัฟมันดูใช้ยากสักหน่อย เวลาใช้จริงอาจจะซื้อพัฟแยกก็ได้ค่ะ


ตอนทาก็ค่อนข้างทาง่ายอยู่ค่ะ แต่ก็จะมีเศษฝุ่นผงแป้งร่วงลงมาบ้าง ก็ตามราคานะคะ
หลังทาเสร็จ สีเข้มเท่าแขนเลยทีเดียว แล้วหน้าก็แมทสนิทค่ะ แต่ก็ไม่ได้คุมมันมากนักอย่างว่านะคะ ราคาไม่ได้สูงมาก แต่ถือว่าดีเลยค่ะในระดับราคาเท่านี้

คำแนะนำ ถ้ารู้สึกว่าซื้อมาแล้วสีเข้มกว่าหน้ามากเกินไป ก็ใช้เป็นเฉดดิ้ง เอามาปัดที่กรอบหน้าได้ก็ช่วยให้หน้าเราดูมีมิติมากขึ้นค่ะ


เหมาะกับ คนงบน้อย คนที่เพิ่งเริ่มหัดแต่งหน้า นักศึกษา คนผิวหน้ามัน



2. Eglips Blur powder pact
เบอร์ 23 ราคา 2xx บาท


ตัวนี้แอบไม่ใช่สีเข้มสุดในตอนนี้นะคะ เพราะมันมีเบอร์ 25 ออกมาแล้ว ส่วนตัวแล้วชอบพัฟอันนี้มากเวลาใช้ดูเข้ากับเนื้อแป้งสุดๆ (เนื้อพัฟดูเป็นกำมหยี่นุ่มๆ)


ตอนทาก็รู้สึกว่าแป้งไม่เป็นฝุ่นผงออกมามากนัก ทาเดี่ยวแล้วหน้าก็ไม่ลอยมากค่ะ แต่ถ้าคนสีผิวเข้มกว่ามิ้วอาจจะเห็นชัดกว่า แต่ที่ชอบก็คือ รูขุมขนดูเบลอจริงๆค่ะ คุมมันก็ดีเลยทีเดียว ไม่เป็นคราบด้วย

คะแนะนำ เวลาทามิ้วจะใช้คู่กับรองพื้นที่สีเข้มๆค่ะ ก็คือหลังจากที่เราทารองพื้นสีเข้มแล้ว ก็เซทด้วย ตัวนี้ ก็คือชอบมากๆ

เหมาะกับ คนที่มีรูขุมขนกว้างมากๆ ผิวมัน นักเรียน นักศึกษา


3. Chao Nang Perfest bright UV 2 Way powder Foundation SPF20 PA+++
No.03 ราคา 2xx - 3xx บาท


แป้งตัวนี้เป็นอีกตัวนึงที่มิ้วชอบมากค่ะ ทั้ง ตัวตลับ สีแป้ง เนื้อแป้ง ทำได้ดีเลยทีเดียว พกใส่กระเป๋าอยู่ช่วงนึงเลยทีเดียวค่ะ บิวตี้บล็อคเกอร์ หลายๆคนก็การันตีมาด้วยว่างานดีมาก แต่พัฟเขาอาจจะแข็งไปในช่วงแรกๆเมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่น แต่ใช้ไปสักพักมันจะนุ่มขึ้นค่ะ กลิ่นแป้งมีกลิ่นหอมอ่อนๆ


ตอนทาก็รู้สึกว่าทาง่ายใช้ง่าย เพราะพัฟค่อนข้างใหญ่ ไม่มีฝุ่นร่วงลงมาให้กวนใจ
หลังทาก็รู้สึกว่าหน้าเนียนมาก ไม่เป็นคราบ ปกปิดดีเลยค่ะ ใช้แค่แป้งเดี่ยวๆก็ยังรอด คุมมัน ติดทนดีเลยค่ะ

คะแนะนำ สามารถใช้ได้ทั้งแบบเปียก(เอาพัฟมาชุบน้ำแล้วไปแตะที่แป้ง) และแบบแห้ง โดยที่แบบเปียกจะกันน้ำได้มากว่า ติดผิวมากกว่า และดูธรรมชาติมากกว่าค่ะ แต่ถ้าเอาว่าเร็วและความถนัดก็ ใช้แบบแห้งจะสะดวกกว่า

เหมาะกับ คนผิวมัน นักศึกษา คนที่มีเวลาแต่งหน้าน้อย ทำกิจกรรมเยอะ จริงๆเหมาะกับทุกคนค่ะ


4. Mr. Wat 1-minite whitening cake powder founfation SPF18 pa++
เบอร์ C2 ราคา 2xx - 3xx บาท


เป็นแป้งที่ออกมานานแล้วค่ะ ตัวนี้ก็ช่วยเบลอรูขุมขนได้ดีเลยทีเดียว แถมปกปิดก็อยู่ในระดับทีดีค่ะ แต่เสียดาย สียังขาวไปเล็กน้อยถ้าเอามาทาเดี่ยวๆ เนื้อแป้งมี กลิตเตอร์ผสมอยู่นิดๆค่ะ พัฟก็นุ่มกำลังดี


ตอนทาก็ทาง่าย ไม่มีฝุ่นผงร่วงลงมา หลังทาก็ไม่เป็นคราบแต่อย่างใดค่ะ สีก็ไม่ค่อยลอยมาก แต่เบลอผิวได้ดีจริงๆค่ะ

คำแนะนำ ถ้าใช้ทาเดี่ยวๆแล้วหน้ายังขาวไป ลองใช้เฉดดิ้งทาที่กรอบหน้าดูค่ะ หรือไม่ก็ใช้คู่กับรองพื้นที่มีสีเข้ม เซทหลังทารองพื้นเสร็จ จะช่วยให้สีหน้าดูพอดีกับแขนมากขึ้นค่ะ

เหมาะกับ คนที่มีรูขมขนกว้าง สีผิวขาวเหลือง ผิวมัน คนที่ใบหน้าหมองคล้ำ(ทาบริเวณหน้าผาก สันจมูก คาง และหน้าแก้ม)


5. Rebecca Keep a srcret Flawless Dream Powder SPF 25 pa+++
No.03 ราคา  3xx - 4xx บาท


เป็นแป้งอีกตัวที่ให้ความเนียนกับผิวมากๆ ตลับก็สวย สีแป้งก็ดีเข้ากับผิวมิ้วมากๆค่ะ ทุกวันนี้พกไว้ในกระเป๋า เอาไว้เติมระหว่างวัน หน้าก็ไม่เป็นคราบ หน้าไม่ดูแห้งจนเกินไปค่ะ ชอบอีกอย่างคือพัฟค่ะ มีความนุ่มมากๆ


ตอนทาก็คือทาง่าย ไม่มีฝุ่นร่วงลงมาอีกเช่นกันหน้าดูเนียนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด หน้าก็ไม่แห้งจนเกินไป ที่สำคัญ ไม่เป็นคราบด้วยค่ะ

คำแนะนำ พอใช้แป้งไปสักพัก ต้องระวังตอนเปิดด้วยค่ะ ตัวที่กดมันอาจจะดูหลวมๆไปสักหน่อย เลยทำให้แป้งเปิดตอนที่เราไม่ได้ใช้ค่ะ จะพกไปก็ระวังตลับแป้งเปิดด้วยนะคะ

เหมาะกับ คนที่พอมีงบหน่อย สาวๆวัยทำงาน คนผิวมัน มีเวลาแต่งหน้าน้อย


6. Beneficial Ultimate coverage foundation powder
เบอร์ 06 Honey ราคา 575 บาท


เป็นแป้งที่ราคาแพงสุดที่มิ้วมีค่ะ ตัวตลับสวยเก๋ แตกต่าง ชั้นใส่พัฟจะอยู่ด้านบนของตลับแป้ง ตอนเปิดไม่ต้องกลัวตลับจะเปิดเอง เพราะมีแม่เหล็กด้วยทำให้ตัวตลับปิดสนิทแน่นอนค่ะ


ตอนทาแอบมีฝุ่นแป้งร่วงลงมานิดๆ หน้าจะดูแมทขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด แต่สีอาจจะดูขาวกว่าแขนไปสักหน่อย แต่เรื่องความปกปิดถือว่าทำดีเลยค่ะ

คำแนะนำ ตัวนี้สามารถทาเดี่ยวๆ ทาออกงานได้เลย เวลาเรารีบๆค่ะ(ยิ่งใช้คอนซิลเลอร์มาปกปิดก่อนก็จะเริ่ดกว่าค่ะ) แต่ก็ต้องใช้เฉดดิ้งปัดที่กรอบหน้าด้วย หน้าจะได้ดูไม่ลอยนั่นเอง

เหมาะกับ คนที่พอมีงบหน่อย สาวๆออฟฟิต คนที่มีเวลาแต่งหน้าน้อย


7. Beneficial All day sun protection foundation powder SPF 50 PA++++
สี Honey ราคา 575 บาท


ตัวนี้ก็เป็นอีกตัวนึงที่มิ้วชอบค่ะ เวลารีบๆตัวนี้ตัวเดียวก็เอาอยู่ จุดเด่นของตัวนี้คือ มีความเล่นแสงมากแบบสวยทุกแสงอย่างที่เขาบอกจริงๆค่ะ เพราะเขามีตัวที่ช่วยกระจายแสงอยู่ในแป้ง พัฟนุ่มกำลังดี

ตัวนี้จะแตกต่างจากรุ่นที่แล้ว ก็คือ หลังทาหน้าจะดูเป็นผิวมากกว่า คุมมันมากกว่าค่ะ


ตัวนี้ตอนทาก็มีฝุ่นผงร่วงลงมาอีกเช่นกัน ทาง่าย เกลี่ยง่าย ด้วยความที่พัฟเขาเป็นวงรีจึงซอกซอนเข้าไปที่แคบๆได้ดีกว่าพัฟลักษณะกลมค่ะ หลังทาเสร็จหน้าดูสวยฉ่ำเล่นแสง แต่หน้าไม่มันเยิ้ม ดูแมทกำลังดีค่ะ ไม่เป็นคราบแต่อย่างใด

คำแนะนำ ควรใช้คู่กับคอลซิลเลอร์จะสวยปังกว่า แล้วปัดด้วยเฉดดิ้ง แค่นี้ก็สวยได้โดยไม่ง้อรองพื้นแล้วค่ะ หรือใช้คู่กับแปรง เพื่อเซทรองพื้นก็ดูสวยเล่นแสงดีค่ะ

เหมาะกับ คนผิวมันที่อยากให้หน้าดูฉ่ำสวย คนที่พอมีงบหน่อย อยากได้ใบหน้าที่ดูเล่นแสง สวยแบบเป็นผิวสุขภาพดีค่ะ


เปรียบเทียบแป้งแต่ละตัวให้ดูกันค่ะ




เรียงลำดับความปกปิดจาก มากไปหาน้อยได้ดังนี้
6>7>5>3>4>2>1


เมื่อปาดสีลงบนแขน


เมื่อเปรียบเทียบสีกันจะเห็นได้ว่า เบอร์ 1 สีเข้มสุดจริงๆค่ะ สีสว่างที่สุดจะเป็นเบอร์ 2 และ 4 นั่นเอง



การกันน้ำ



เมื่อลองเอาน้ำมาผ่านๆดูก็เห็นว่ามันก็ยังคงติดที่ผิวเกือบทุกเบอร์นะคะ ยกเว้น เบอร์ 4 ที่จะจางกว่าเพื่อน

การกันน้ำได้จากที่มิ้วเห็น เรียงลำดับจากมากไปน้อยก็คือ
5>7>6>3>1>2>4


หลังผ่านน้ำแล้วเอากระดาษทิชชู่มาซับดูก็พบว่าแป้งยังพอหลงเหลือสีอยู่บ้างค่ะ แต่ถ้าเอามือมาถูอีกรอบนึงแป้งก็เริ่มจางหายไปเกือบทุกแบรนด์ค่ะ




ก็ต้องบอกก่อนว่า แต่ละตัวอาจจะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป แต่ถ้าถามว่ามิ้วชอบตัวไหนมากที่สุดก็จะเรียงลำดับจากชอบมากที่สุดไปน้อยที่สุด ได้ดังนี้ค่ะ (เป็นความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้นนะคะ) ตัดสินจากภาพรวมความคุ้มค่า สีที่พอดีกับผิว และคุณสมบัติการปกปิดติดทนค่ะ

3>5>7>6>2>1>4

แต่จะบอกว่าแป้งทุกตัวมิ้วก็สลับกันใช้ไปในแต่ละวันนะคะ เพราะคุณสมบัติบางอย่างไม่เหมือนกัน

ถ้าอยากได้ความเบลอผิว
ก็จะใช้แป้ง 2,4 แต่ต้องใช้รองพื้นที่มีสีเข้มทาก่อน จะได้พอดีกับผิวค่ะ

ถ้าอยากได้ความเนียนไปกับผิว ก็แนะนำเป็น
3,5,6,7 ค่ะ เพราะเป็นแป้งที่ทาแล้วไม่เป็นคราบ ทาเดี่ยว โดยไม่ต้องลงรองพื้นก็ได้ค่ะ

ถ้าอยากได้สีพอดีกับผิวตัว หรือ ทาเป็นสีเฉดดิ้งแบบธรรมชาติ ก็แนะนำเป็น
1 นั่นเองค่ะ


หวังว่าจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือก ในการตัดสินใจในการซื้อแป้ง สำหรับสาวผิวสีนะคะ เลือกที่เหมาะกับสีผิว และสภาพผิวของเราให้มากที่สุดค่ะ