รีวิว คุชชั่น JOVINA เบอร์ 06 Golden Honey สีเข้มแค่ไหน ติดทนนานไหม จากในสาวผิวสีน้ำผึ้ง ผิวผสมค่อนมัน | MG_

JOVINA 
Everyday Perfecting Cushion Long Wear SPF25 PA+++
No. 06 Golden Honey

สวัสดีค่ะทุกคน รีวิวนี้ใครที่อยากรู้ว่าสีคุชชั่นเบอร์เข้มสุดของ JOVINA นั้นเป็นอย่างไร เข้มแค่ไหน มิ้วมีเปรียบเทียบกับตัวอื่นด้วยค่ะ แถมมาบอกด้วยว่าผิวอย่างมิ้วนั้นใช้แล้วเป็นอย่างไร รายละเอียดจะเป็นอย่างไรบ้างนั้น ไปชมกันเลยจ้า

มีแบบคลิปให้ดูด้วยนะคะ

JOVINA Everyday Perfecting Cushion Long Wear SPF25 PA+++
No. 06 Golden Honey 

ปริมาณ 15 กรัม ราคา(ปกติ) 690  บาท 

เป็นคุชชั่นกึ่งเนื้อแมท ที่มีคุณสมบัติ ช่วยให้ผิวเรียบเนียน ด้วยเทคโนโลยี Blurring effect ช่วยรักษาสมดุลของน้ำมันด้วย Astragalus membranaceus และใบบัวบกที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ลดการระคายเคืองผิว ผิวดูเล่นแสง ไม่เป็นคราบ แถมมีกันแดด และผิวแพ้ง่าย สามารถใช้ได้ด้วยค่ะ 

ซึ่งรุ่นนี้มีด้วยกันทั้งหมด 6 สีค่ะ

No.01 Creme                  สีขาว อมเหลืองอ่อนๆ
No.02 Light Beige          สีขาว อมเหลืองขึ้นมานิดนึง
No.03 Warm Ivory          สีเนื้ออ่อนๆ
No.04 Natural                 สีเนื้ออ่อนๆ ใกล้เคียงกับ 03 แต่เข้มกว่านิดนึงค่ะ

No.05 Sand                     สีเนื้อเข้มขึ้นมาอีกนิดออกโทนชมพู
No.06 Golden Honey      สีเนื้ออมส้ม อมเหลือง (จะเข้มที่สุดในนี้ค่ะ)

ตลับมีความสวยงามตั้งแต่ด้านบน โลโก้มีความเล่นแสงสวยมากๆ ขอบสีทองอ่อนๆทำให้ดูหรูหราดูแพง กระจกใหญ่พอดี ตลับจะแบนกว่าคุชชั่นทั่วไปค่ะ ด้านล่างตลับเป็นชื่อสีบอกชัดเจน

พอเปิดตัวตลับขึ้นมา (ใช้วิธีการงัดนะคะ ไม่มีตัวให้กดเปิดฝา) ก็จะเจอกับพัฟและกระจก ซึ่งกระจกนี้มันจะมัวๆก่อนตอนแรก เราต้องลอกพลาสติกออกก่อนใช้นะคะ จะได้ชัดเจนขึ้น

ในส่วนของตัวพัฟจะมีความนุ่มฟู เนื้อเป็นออกกำมะหยี่ผสมฟองน้ำนิดๆ (จากความรู้สึกของมิ้วนะคะ) ไม่หนามาก ใช้กับหน้าแล้วไม่บาดผิวค่ะ  แต่ถ้าคนมือใหญ่ๆอาจจะรู้สึกว่ามันเล็กไปนิดนึง แต่สำหรับมิ้วกำลังพอดีค่ะ

พอเปิดฝาคุชชั่นอีกชั้นนึงก็จะเจอแผ่นพลาสติกกั้นไว้ เป็นข้อความและพลังดีๆจากทางแบรนด์ที่หวังจะให้คุชชั่นตัวนี้เป็นไอเท็มที่ทุกคนชอบ :) มีความดีเทลไปอีก 

พอแกะพลาสติกออกก็จะเจอกับตัวฟองน้ำที่เก็บคุชชั่นไว้ มิ้วลองใช้นิ้วจิ้มๆดูคือมันเนื้อนุ่มมาก ยืดหยุ่นๆเหมือนถุงน่อง หรือมัชเมลโล่เลย ฮ่าๆ(เท่าที่มิ้วรู้สึกนะคะ) ต่างจากฟองน้ำคุชชั่นทั่วๆไป รู้สึกว่าตัวนี้จะเก็บเนื้อคุชชั่นได้เยอะกว่าค่ะ 

มาดูที่สีกันบ้างค่ะ จากที่มิ้วลองป้ายกับที่หลังมือดู พบว่าสีเข้ากับหลังมือมิ้วมาก น่าจะเข้ากับสีผิวมิ้วค่ะ พอมาปาดที่ข้อมือซึ่งขาวกว่า ก็จะเห็นว่าเนื้อคุชชั่นค่อนข้างเข้มเลย 

ทีนี้มิ้วมีรองพื้นสีเข้มสุดของ JOVINA พอดี (สี 04) เลยเอามาเปรียบเทียบสักหน่อย ซึ่งพบว่าสีก็ใกล้เคียงกันอยู่ค่ะ แต่ คุชชั่นสีดูอมส้มมากกว่า สีรองพื้นจะดูเหลืองกว่าค่ะ

ต่อมาเปรียบเทียบกับสีรองพื้นสีเข้มที่มิ้วมีอยู่บ้าง สามารถไปดูรีวิวแยกได้นะคะ

รองพื้น JOVINA 04: https://www.youtube.com/watch?v=jcBvltbZ44o&t=239s

รองพื้น ศรีจันทร์ 130: https://www.youtube.com/watch?v=sH9Zn5p_JPA&t=1s

Nami Makeup Pro BB 03: https://www.youtube.com/watch?v=gTlzdS62Rn8&t=2s

Calella Cream Foundation 03: https://www.youtube.com/watch?v=tq8bMHxKBG4

สังเกตได้ชัดเจนเลยค่ะว่า รองพื้นของ JOVINA 04 เป็นสีที่เข้มสุด รองมาก็คือคุชชั่ช 06 นั่นเอง

ทำให้เห็นว่า JOVINA เป็นอีกแบรนด์ที่กล้าทำงานผิวสีเข้มออกมาเพื่อผิวคนไทย ให้คนไทยได้ใช้กันทั่วถึงไม่ว่าเราจะสีผิวเข้มก็ตามค่ะ เริ่ดมากๆ

สี เนื้อ ตอนทา

สภาพผิวก่อนทา สีน้ำผึ้ง มีรอยคล้ำใต้ตา มีจุดด่างดำ มีผิวผสม ค่อนมัน

ตอนทา เนื้อคุชชั่นมีความเกลี่ยง่าย ไม่เป็นคราบ การปกปิดปานกลาง แต่ใต้ตายังไม่ค่อยจางหายไปเท่าไหร่ ต้องทาคอนซิลเลอร์หรือ รองพื้นสว่างๆเพิ่มเข้าไปอีกชั้นนึงค่ะ

หลังทา ผิวดูสีสม่ำเสมอขึ้น สีอาจจจะเข้มกว่าหน้านิดนึง แต่เข้ากับสีตัวมากค่ะ ผิวดูฉ่ำ แต่ไม่มันเยิ้ม เล่นแสงพอดี ผิวดูเนียนกว่าก่อนทา แต่คนผิวผสม ผิวมันต้องเซทด้วยแป้งเพิ่มค่ะ หน้าจะได้ไม่มันเพิ่ม

ทางมิ้วเลยเพิ่มเนื้อคุชชั่นที่ใต้ตาโดยการใช้นิ้วนางเกลี่ยลงไป เพราะพัฟมันเข้าไม่ค่อยถึงใต้รอบดวงตาเท่าไหร่

ผลที่ได้ก็จะเป็นประมาณนี้ค่ะ สีดูเสม่ำเสมอ เรียบเนียน แต่ดูเข้มกว่าหน้า ผิวดูเล่นแสง ดูไม่แมท ดูชุ่มชื้น ไม่เป็นคราบ

ส่วนรูปนี้จะเป็นอีกวันที่มิ้วใช้คุชชั่นทาทั้งหน้าค่ะ หลังแต่งหน้าเสร็จแล้วลองถ่ายรูปในแสงต่างๆ ทั้งกล้องหน้าและหล้องหลัง (ความเนียนของหน้าจะขึ้นอยู่กับกล้องที่ถ่ายด้วยค่ะ)

โดยรวมแล้วผิวดูสม่ำเสมอ ไม่เป็นคราบ หน้าไม่ลอยไม่วอก สีดูพอดีกับหน้าค่ะ่ หลังแต่งหน้าเสร็จ แต่กล้องหลังจะให้แสงที่จริงมากกว่ากล้องหน้าค่ะ (สีจะดูเข้มจริงค่ะ) แต่หน้าจริงไม่ได้เนียนขนาดนี้นะคะ ยังเห็นรูขุมขนอยู่ แต่ก็ดีกว่าก่อนทาคุชชั่นมากค่ะ 

ส่วนรูปนี้จะเป็นการเปรียบเทียบ ระหว่าง คุชชั่นตัวใหม่ 06 กับรองพื้น 04 ของ Jovina สีเข้มสุดทั้งคู่ค่ะ

ผลที่ได้คือออกมาสีใกล้เคียงกันเลย แต่ ผิวด้านคุชชั่นจะดูฉ่ำกว่า ส่วนด้านรองพื้นจะแมทไม่เงาเท่าค่ะ ส่วนความปกปิด รองพื้นทำได้ดีกว่า นิดนึงค่ะ แต่หลังเซทแป้งและแต่งหน้าเพิ่ม ก็ดูไม่ต่างกันเลย แยกไม่ออกเลยค่ะว่าด้านไหนใช้อะไร

ความติดทน

ความติดทนตคุชชั่นก็ทำได้ดีมากค่ะ ส่วนตัวมิ้วเป็นคนผิวมันปานกลาง จากภาพวันนั้นร้อนมาก เหงื่อออกเยอะ อากาศร้อน หน้ามันนิดหน่อย แต่คุชชั่นก็เอาอยู่ค่ะ 7 ชั่วโมงผ่านไปก็ยังติดอยู่ แต่ส่วนที่เริ่มหลุดไปคือ สันจมูก จากการที่เราใส่หน้ากากค่ะ

ส่วนภาพนี้เป็นอีกวันนึงค่ะ มิ้วทดสอบไปถึง 10 ชั่วโมง แต่วันนั้นอากาศแห้ง เย็นๆ แต่แดดร้อนค่ะ ระหว่างวันไม่เป็นคราบเลย คุชชั่นเข้ากับสีผิวดีมาก เหงื่อ ออกไม่มาก หน้าเลยไม่ค่อยมันเท่าไหร่ มิ้วเลยทดสอบไปถึงชั่วโมงที่ 10 ก่อนจะลบหน้า พบว่า ช่วงสันจมูก และหน้าผาก มีคุชชั่นที่หลุดออกไปจนเห็นได้ชัด แต่ในรูปดูไม่ค่อยออกเพราะสีคุชชั่นใกล้เคียงกับผิวค่ะ ความมันอยู่ที่ปานกลางค่ะสำหรับมิ้ว

ติดหน้ากากไหม

จากภาพเห็นว่ามีคุชชั่นติดออกมาช่วงสันจมูกที่เราต้องถูกับหน้ากากบ่อยๆ ส่วนอื่นไม่ค่อยมีคุชชั่นติดออกมาค่ะ

สิ่งที่ชอบ ในตัวคุชชุ่น

สีเข้มสะใจมากค่ะ

ทาง่ายเกลี่ยงายมาก

หลังทาผิวเล่นแสง ไม่เป็นคราบจริง

พกพาสะดวกจริงประหยัดพื้นที่ไม่ต้องพกรองพื้นขวดแก้วใหญ่ๆหนักไปเลยค่ะ

สำหรับมิ้วใช้แล้วไม่แพ้ค่ะ

คำแนะนำ

มิ้วว่าใครใต้ตาคล้ำแบบมิ้ว ต้องเพิ่มคอนซิลเลอร์ที่ใต้ตาหน่อยค่ะถึงจะเริ่ด

ผิวมันหลังทาคุชชั่น ควรเซทด้วยแป้งฝุ่นหน้าจะได้ไม่มันเกินค่ะ

ใครที่สีผิวแทน หรือเข้มกว่ามิ้ว หลังใช้คุชชั่นตัวนี้ อาจจะต้องคอนทัวร์เพิ่มที่กรอบหน้า หน้าจะได้ดูมีมิติมากขึ้นค่ะ

ก่อนซื้อใครที่ยังไม่มั่นใจว่าเราควรใช้สีไหน ก็ลองสอบถามแอดมินได้ค่ะ จะได้คุชชั่นตรงสีกับเรามากที่สุด

คุชชั่น JOVINA เหมาะกับใคร

คนที่มีผิวแพ้ง่าย

คนที่มีสีผิวเข้ม

ใช้ได้ทั้งผิวมัน และผิวแห้ง

คนที่อยู่ในวัยทำงาน หรือพอมีงบ และต้องการความรวดเร็วในการแต่งหน้า

คนที่ใช้ของถูกและดีควรมีไหม

มิ้วคิดว่าเป็นอะไรที่น่าลองค่ะ คนที่เป็นนักเรียน นักศึกษา หรือสาวงบน้อย เราอาจจะเก็บตังดูแล้วสั่งมาลองก่อนได้ค่ะ มิ้วคิดว่าเป็นคุชชั่นอีกตัวที่น่าใช้น่าลอง และคุ้มค่ากับผลที่ได้มากค่ะ 

และใครที่สนใจ อยากลองคุชชั่น JOVINA ก็สามารถไปสั่งซื้อได้เลยค่ะที่

พิกัด สั่งซื้อ

Shopee: https://shp.ee/usb87gj 

Lazada: https://invol.co/cl7bu4o

หรือถ้าอยากจะสอบถามแอดมินเรื่องสี หรือสั่งซื้อสินค้าตัวอื่น ก็สามารถเข้าไปดูได้ที่

FACE BOOK: https://www.facebook.com/Jovina.cosmetics/

IG:                   https://www.instagram.com/jovina.cosmetics/

LINE@:           https://lin.ee/mnxvVNE

สุดท้ายนี้ก็หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์ และชอบกันนะคะ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันค่า ไว้เจอกันรีวิวหน้านะคะ สวัสดีค่ะ

รีวิว Narah Makeup งานผิว เพื่อคนเป็นสิว ผิวแพ้ง่าย | MG- Review

r

สวัสดีค่าทุกคน รีวิวนี้มิ้วภูมิใจนำเสนอมากๆ เพราะนอกจากมิ้วจะมารีวิว แป้งฝุ่น และรองพิ้นที่มาในแบบแป้งแล้ว ก็มีลุคเก๋ๆมาให้ทุกคนได้บันเทิงกันด้วยค่ะ บอกก่อนว่า งานผิววันนี้เป็นของ NARAH Makeup นั่นเองค่ะ ซึ่งใครที่เป็นสิวอยู่หรือผิวแพ้ง่าย อยากให้เข้ามาอ่านกันมากๆ จะมีรายละเอียดเป็นอย่างไรบ้างนั้น ไปชมกันเลยจ้า

Narah Makeup เป็น เครื่องสำอางสำหรับผิวแพ้ง่าย ผลิตจากแร่ธาตุ 100% ไม่มีสารเคมี หรือสิ่งที่ก่อให้เกิดอาการแพ้จำพวก ซิลิโคน สารแต่งกลิ่น ตัวยึดเกาะผิวสารแต่งสีสังเคราะห์ เบสรองพื้น พาราเบน น้ำมัน ฟิลเลอร์ ตัวทำละลาย สารกันเสีย และไม่มีสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง เช่น Nanoparticles, Bismuth, Cornstarch, Talc, Carmine
ซึ่ง สิ่งที่มิ้วได้มาก็คือ รองพื้น Narah และ Narah แป้ง นั่นเองค่า


1. NARAH Foundation  04 (Sunny beige) 

เป็นแป้งผงเนื้อละเอียดมากๆ มาในสีเนื้อๆเหมาะมากๆกับสาวผิวสีอย่างมิ้วค่ะ ช่วยในการปกปิด คุมมัน ทำให้หน้าดูแมท ได้ดีค่ะ แต่ตัวนี้มีวิธีการใช้ที่ต่างออกไป ก็คือต้องทาหลังจากที่เราทาแป้งฝุ่นรองพื้นไว้ค่ะ แล้วใช้คู่กับแปรงหัวตัดจะเริ่ดมาก แต่อย่าใช้มากจนเกินไปนะคะ อาจให้หน้าดูเป็นคราบได้

ตัวตลับก็มาคล้ายกับแป้งฝุ่นเลยค่ะ แตกต่างกันที่ เนื้อของแป้งที่มีสีเนื้อๆเข้ากับสาวผิวสีเป็นอย่างมาก แป้งมีเนื้อเนียนละเอียดมากเลยค่ะ

ตัวนี้มิ้วลองเอารองพื้นทาที่หลังมือฝั่งหนึงแล้วเอานิ้วเกลี่ยดูก็รู้สึกว่า ด้านที่ทา ดูแมทขึ้น สีดูกระจ่างใสขึ้นหลังมือดูเนียนขึ้นค่ะ

มิ้วจะใช้รองพื้นหลังจากที่ทาแป้งฝุ่นลงไปแล้วค่ะ โดยการใช้คู่กับแปรงหัวตัดที่จุ่มลงไปในเนื้อแป้งที่เคาะออกมาใส่ชาม หรือฝา แล้วค่อยๆวนๆเนื้อรองพื้นไปที่ผิวค่ะ มิ้วเริ่มวนตั้งแต่กลางหน้าไปจนถึงกรอบหน้า

แต่ถ้าจุดไหนที่มิ้วต้องการจะปกปิดเป็นพิเศษมิ้วก็จะจิ้มๆไปที่จุดนั้นย้ำๆค่ะ แล้วค่อยๆเกลี่ยออกให้เนียนไปกับผิว

ตอนทา แป้งรู้สึกว่ารองพื้นค่อนข้างเกลี่ยง่ายค่ะ แล้วก็เนื้อละเอียดมาก ใช้คู่กับแปรงหัวตัดขนแน่นๆจะดีมาก ทาได้ไวดีค่ะ แต่ตรงไหนที่เน้นความปกปิดก็จะต้องเกลี่ยดีๆหน่อย หรือตรงบริเวณช่วงหัวตาต้องเข้าไปลึกๆค่ะไม่งั้นสีผิวจะดูเป็นเส้นๆ แต่ไม่รู้สึกแสบหรือระคายเคืองแต่อย่างใดค่ะ

หลังทา รู้สึกว่าผิวหน้าดูแมทขึ้น เนียนขึ้น รูขุมขนดูเล็กลง สีหน้าดูสม่ำเสมอ ความปกปิด ค่อนข้างดีเลยค่ะ ถือว่าดีงามมากๆ




2. Narah Powder 01 (Bright Yellow)
เป็นแป้งฝุ่นเนื้อละเอียดมากๆ เหมาะกับสาวผิวโทนเหลือง สาวเอเชียอย่างเรามากๆค่ะ

ตัวตลับมาเป็นพลาสติกขนาดเบา พกพาสะดวกค่ะ พอเปิดฝามาจะเห็นตัวที่กั้นเนื้อแป้งที่สามารถหมุนเปิด - ปิด ได้นั่นเองค่ะ

หลังจากลองที่หลังมือดูมิ้วก็รู้สึกว่า หลังมือฝั่งที่ทาแป้งจะเนียนละเอียดกว่าข้างที่ไม่ได้ทา แล้วก็ดูแมทขึ้นมานิดนึงค่ะ และสีก็จะดูสว่างขึ้นมาเล็กน้อยค่ะ

 เวลาใช้ มิ้วก็จะเคาะแป้งใส่ในชาม หรือจะใส่ที่ฝาแบบมิ้วก็ได้สะดวกดี จากนั้น ก็ใช้คู่กับแปรงพุ่มๆหัวใหญ่ จุ่มกับแป้ง และวนๆให้ทั่วใบหน้าและลำคอ

ก่อนทาแป้ง หน้ามัน รูขุมขนกว้าง มีรอยคล้ำใต้ตา มีสิวเสี้ยน และจุดด่างดำเล็กน้อย (มิ้วเป็นคนผิวผสมค่อนมันค่ะ)

ขณะทา รู้สึกว่าแป้งเนื้อละเอียดมาก ยิ่งใช้คู่กับแปรงใหญ่ๆทำให้เนื้อแป้งกระจายทั่วหน้าได้ง่ายขึ้น ไม่มีกลิ่นใดๆค่ะ

หลังทา รู้สึกว่าหน้าดูแมทขึ้น หน้าดูเนียนละเอียดขึ้น รูขุมขนดูเล็กลงค่ะ สีผิวดูใสขึ้นนิดนึงด้วย

หลังจากนั้นมิ้วก็ไปแต่งหน้าลุคนี้มาค่ะ เป็นลุค ปาร์ตี้ฉบับกักตัวอยู่บ้าน แต่ได้ แนวทาง มาจาก ขุ่นแม่ชมนั่นเอง อิอิ อยู่บ้านว่างๆมีเวลาติดสติกเกอร์วนไปค่ะ ฮ่าๆ

สิ่งที่มิ้วชอบใน Narh Makeup
1. แป้งเนื้อละเอียดจริงๆทำให้ทาติดผิวได้มากขึ้น ผิวหน้าดดูเนียนขึ้นด้วยค่ะ

2. ใช้ได้กับทุกสภาพผิว ยิ่งคนเป็นสิว แพ้ง่าย หรือหน้ามันก็คือ เริ่ดเว่อ เพราะไม่มีสารที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ค่ะ

3. ชอบที่ตัวรองพื้นมาในแบบเนื้อแป้ง เพราะถ้าใช้จริงๆก็ไม่อยากให้รองพื้นเลอะเทอะ เปื้อนมือค่ะ ยิ่งถ้าพกไปต่างจังหวัด ใส่กระเป๋าไป ไม่ต้องกลัวหกเลอะเทอะเลย อาจจะพกแปรงเพิ่มขึ้นมานิดนึงแต่สบายใจตอนใช้มากกว่าค่ะ

4.คุมมัน ติดทนดีจริงๆค่ะ มิ้วใช้มาหลายครั้งแล้วดีอย่างไรก็ดีอย่างนั้น ไม่ผิดหวังสักรอบ ผ่านไป 7 ชั่วโมงแล้วหน้าก็คือยังดูดีอยู่เลย แค่ซับความมันออกไปหน้าก็ดูเหมือนเพิ่งแต่งมาใหม่ๆเลยค่ะ (ความมันอาจจะขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคน)

ความรู้สึกหลังใช้ Narah Makeup มาสักพักนึง มิ้วคิดว่าก็ไม่ได้ใช้ยากขนาดนั้นนะคะ เมื่อเทียบกับความคุ้มค่าที่ผิวเราจะได้รับ ถือเป็นการลงรองพื้นแบบใช้แปรงครั้งแรกของมิ้วก็ว่าได้ แต่ก็รู้สึกยังสะดวกอยู่ค่ะ

คำแนะนำ 
1.ควรทาผลิตภัณฑ์เนื้อครีม เช่น บลัชเนื้อครีม คอนทัวร์เนื้อครีม คอลซิลเลอร์ ให้จบก่อน แล้วค่อยลงแป้งและรองพื้นค่ะ

2. ถ้าสีรองพื้นกับแป้งยังขาวไปกว่าหน้า ให้คอนทัวร์เพิ่มแสงและเงาที่หน้าจะช่วยให้หน้าดูไม่แบน ไม่ลอย ไม่วอกค่ะ

3. เราควรเลือกแปรงหัวตัดที่ขนาดเหมาะๆกับหน้าเราค่ะ จะช่วยให้ระยะเวลาการลงรองพื้นนั้นสั้นลงขึ้นไปอีก

4. ควรเลือกสีรองพื้น และแป้งให้เหมาะกับ สีผิวของเราค่ะ ผิวเราก็จะสวยและดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลย
โดย สีชองรองพื้นก็มีให้เลือกถึง 4 สี และแป้งฝุ่น ก็าด้วยกันถึง 6 แบบเลย

ดูสีเพิ่มเติมได้ที่ www.narahskincareandmakeup.com ค่ะ

เป็นอย่างไรกันบ้างคะสำหรับงานผิวจาก Narah Makeup ที่มิ้วเอามาฝากในวันนี้ เชื่อว่าต้องมีหลายๆคนอ่านแล้วต้องไปซื้อตามอย่างแน่นอน ถ้าใครสนใจ อยากทราบข้อมูลเพิ่มเติมหรือสั่งซื้อก็สามารถดูเพิ่มเติมได้หลายช่องทางค่ะ

Facebook: http://m.me/narah.for.sensitive.skin
LineINE: https://line.me/ti/p/eZMAjsgFNq
Web Site:  www.narahskincareandmakeup.com