วันอาทิตย์ที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2562

เนียนใส ไม่หมอง กับ กันแดด แบบซองใน เซเว่น Sunflower Sunscreen Cream | MG-Review

SMOOTO
Sunflower Sunscreen Cream



หน้าร้อนแล้วแต่เราก็ยังต้องน่ารักอยู่นะคะทุกคน ฮ่าๆๆ แดดนี่ทำร้ายเราทุกวัน ครีมกันแดดเลยเป็นสิ่งที่เราขาดไม่ได้เวลาที่เราจะออกไปข้างนอกค่ะ ยิ่งถ้าหาซื้อง่าย ใช้ง่าย ราคาไม่แพง ยิ่งดีเข้าไปใหญ่ 





บทความนี้มิ้วเลยมั่นใจว่าจะต้องโดนใจสาย ถูกและดี ทั้งหลายเป็นอย่างมาก เพราะมิ้วจะมารีวิว ครีมกันแดดแบบซองในเซเว่น จากแบรนด์ SMOOTO นั่นเองค่ะ รายละเอียดจะเป็นอย่างไรบ้างนั้น ไปชมกันเลยจร้า



Smooto Sunflower Sunscreen Cream เป็นครีมกันแดดสูตรใหม่จากสารสกัดจากดอกทานตะวัน ที่ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด ด้วย SPF 50 ช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น คุมมัน เกลี่ยง่าย ไม่เป็นคราบระหว่างวัน แถมช่วยปรับสีผิวให้เรียบเนียน ทำให้ผิวดูมีสุขภาพดีอย่างเป็นธรรมชาติด้วยค่ะ

โดยเขาบอกว่ามีถึง 6 คุณสมบัติใน 1 ซองเลยก็คือ
1. กันแดด
2. เกลี่ยง่าย
3. ชุ่มชื้น
4. กันน้ำ
5. คุมมัน
6. มี SPF 50


ตัวซองมาในสีสันสดใส โทนสีส้ม เหลือง เขียว ขนาดพกพาสะดวก ด้านหลังจะเป็นสรรพคุณ  วิธีใช้ คำเตือน วันที่ผลิต

มาในปริมาณ 8 กรัม ราคา 39 บาท จำหน่ายที่ 7-11



ตัวฝา ครั้งแรกที่เราจะใช้ มันจะติดมากับตัวซองเลยค่ะ ต้องทำการบิดตัวฝาออกมาก่อน แล้วกลับด้านลงมาหมุนฝาปิดแทนค่ะ 


ตัวเนื้อครีมมาในสีขาว ไม่ข้นมากนัก ออกแนวครีมเนื้อเบาๆมากกว่าค่ะ มีกลิ่นหอมอ่อนๆเหมือนดอกไม้ ตอนเกลี่ยลงบนหลังมือ เนื้อครีมจะมีการแตกตัวเป็นน้ำเล็กๆค่ะ เมื่อเกลี่ยให้เนื้อครีมทั่วหลังมือแล้วก็จะเห็นว่า หลังมือมีความสว่างขึ้นมา เล็กน้อยค่ะ


จากรูปจะเห็นได้ว่า สีที่หลังมือของมิ้วดูขาวขั้นมา 1 ระดับเลยค่ะ




เวลาใช้ มิ้วจะทาก่อนออกแดด 15 นาที เพื่อประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น โดยทาครีมหลังจากที่ทาสกินแคร์บำรุงผิวแล้วนั่นเองค่ะ โดยมิ้วจะบีบออกมา 1 ข้อนิ้วชี้ แต้มที่ 5 จุดและเกลี่ยวนๆออกจากใบหน้าเพื่อให้เนื้อครีมแตกตัวก่อน แล้วทำการตบเบาๆ เพื่อให้น้ำจากเนื้อครีมที่แตกออกมานั้นได้กระจายทั่วผิวค่ะ แล้วก็เกลี่ยวนๆ แบบนี้สลับกันไปจนทั่วทั้งหน้าเลย

แต่ในรูปจะเป็นการทาให้ดูเพียงครึ่งหน้าเพื่อความเปรียบเทียบ ก่อนและหลังนั่นเองค่ะ



จะเห็นได้ชัดเจนว่า สีผิวก่อนทา และหลังทานั้น มีความกระจ่างใสขึ้นมานิดเดียวค่ะ ประมาณว่าแค่ปรับสีผิวให้ดูสว่างขึ้น แต่ไม่ลอย ไม่วอกแต่อย่างใด (ขึ้นอยู่กับสีผิวของแต่ละคนด้วยค่ะ) ผิวฝั่งที่ทาจะดูมีความชุ่มชื่น แต่ไม่มันเยิ้มเหมือนก่อนทาค่ะ (ก่อนทาหน้าจะมันกว่านั่นเอง)  


เปรียบเทียบสีหน้า ก่อนทากับหลังทา เมื่อมิ้วไปทาอีกฝั่งหนึ่งแล้วถ่ายรูปทันที มิ้วสังเกตได้ว่า สีหน้าจะมีความขาวกว่า ด้านก่อนหน้านี้ ก็คือ สีของครีมกันแดดจะดูลดลงแล้วกลืนไปกับสีหน้ามาขึ้น เมื่อเวลาผ่านไปไม่นานค่ะ 



ในส่วนของความกันน้ำนั้น มิ้วลองเอาน้ำมาราดลงที่หลังมือตรงที่ทาครีม แล้วลองเอานิ้วถูๆดูก่อนในครั้งแรก แล้วเอามือถูๆแรงๆในครั้งที่ 2 พบว่า เนื้อครีมยังอยู่ค่ะ ขุุ่นพระ!!! ไม่คิดว่ามันจะกันน้ำได้ดีเกินราคาไปมากเลย มิ้วลอง ราดน้ำแล้วถูอยู่หลายครั้ง มันก็ยังอยู่ ความติดทนนี่แบรนด์ดังๆยังอายเลยค่ะ มิ้วพูดเลย


โดยสรุปมิ้วถือว่าทำได้ดีเลยเดียวนะคะสำหรับกันแดดราคาหลักสิบนี้ คุณสมบัติทั้ง 6 ถือว่าทำได้จริงไม่จกตาค่ะ สิ่งที่มิ้วชอบก็คือ การกันน้ำที่มาแบบเกินเรื่อง แถมหลังทาก็ยังไม่มัน ไม่เยิ้มด้วย แต่งหน้าต่อก็ไม่เป็นคราบเลยค่ะ 

และสิ่งที่มิ้วอยากจะแนะนำก็คือ เวลาเกลี่ย อย่างที่บอกว่าต้องเกลี่ย สลับกับการตบเบาๆให้ทั่วหน้าค่ะ เนื้อครีมจะกระจาย ตัวซึมเข้าสู่ผิวได้ดีกว่า การที่เราเกลี่ยอย่างเดียวเด้อ 

ครีมกันแดด ดอกทานตะวันนี้มิ้วคิดว่าเหมาะมากๆสำหรับนักเรียน นักศึกษา และคนงบน้อย ไม่อยากซื้อครีมกันแดดแพงๆ หลอดใหญ่ๆ หรือใครที่จะไปเที่ยวแล้วลืมครีมนำครีมกันแดดมาจากบ้านเพียงแค่พุ่งตัวไปที่เซเว่นก็สามารถซื้อหากันได้แล้วค่ะ

ส่วนใครที่กังวลว่า มันจะขาวไปไหมสำหรับสาวผิวสีน้ำผึ้ง ผิวแทนต่างๆ ต้องบอกว่า ไม่ต้องห่วงค่ะ ยังใช้ได้อยู่ เพราะตอนทาครั้งแรกเลยมันอาจจะดูขาวๆลอยๆหน่อย แต่เมื่อเราเกลี่ยเนื้อครีมดีๆ พอเวลาผ่านไปสักพัก สีมันจะลดลงแล้วเข้ากับผิวหน้าของเรามากขึ้นค่ะ 



ยิ่งถ้าคนไหนผิวดี ขาวอยู่แล้ว ไม่มีรอยสิว รอยคล้ำให้ต้องปกปิดมากนัก ก็สามารถทาตัวนี้ตัวเดียวแล้วทาแป้ง เขียนคิ้ว ทาปาก ออกจากบ้านได้เลยค่ะ 

ใช้ได้ทุกสภาพผิวค่ะ สาวหน้าแห้ง ก็ไม่ทำให้หน้าลอก แถมยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นด้วย
ส่วนสาวผิวมัน ก็ไม่ทำให้หน้ามันเพิ่มค่ะ 

ทริคอีกเล็กน้อยก็คือ เราสามารถเอา Sunflower Sunscreen Cream มาผสมกับ ครีมทาตัวที่เรามีอยู่แล้วเอามาผสมกันแล้วทาตัวจะช่วยให้ผิวตัวของเราดูกระจ่างใสขึ้นมาอีกนิดนึงด้วยค่ะ แถมยังกันน้ำได้อีกด้วย


ผิวหน้าของเราต้องการการดูแลมากๆเลยยิ่งช่วงนี้แดดแรง ยิ่งต้องป้องกัน การทาครีมกันแดดก็เป็นอีกสิ่งที่ควรทำอย่างมากเลยค่ะ หวังว่าจะชอบ รีวิว Sunflower Sunscreen Cream ตัวนี้นะคะ ถ้าใครสนใจก็สามารถพุ่งตัวไปซื้อได้เลยค่ะ ที่ 7-11 ทุกสาขา มาในราคา 39 เท่านั้นค่ะ



วันพฤหัสบดีที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2562

ผิวออร่ากระจ่างใสใน 2 สัปดาห์ ด้วย Ridella Skincare

Ridella Skincare


สวัสดีค่าทุกคน รีวิวนี้ใครที่อยากมีผิวออร่ากระจ่างใสสวยจบครบในแบรนด์เดียวมิ้วก็มีสกินแคร์แบรนด์ หนึ่งมาแนะนำ จะบอกว่ามีความดีงามมากๆ ผิวดีขึ้นจนรู้สึกได้ภายใน 2 อาทิย์เลยค่ะ จะมีรายละเอียดอย่างไรบ้างนั้น ไปชมกันเลยจร้า


สกินแคร์ที่มิ้วพูจถึงนี่ก็คือแบรนด์ Ridella นั่นเองค่ะ มิ้วได้ลองใช้อยู่ 2 ตัว นั่นก็คือ
1. Ridella Advanced Formula White Aura Serum 
2. Ridella Silky Smooth Sunguard Mousse SPF50/PA+++

ซึ่งแต่ละตัวก็มีคุณสมบัติในการบำรุงผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพเลยค่ะ

เรามาดูกันที่ตัว เซรั่มกันก่อนเลยจ้า

Ridella Advanced Formula White Aura Serum 


เป็นเซรั่มที่ช่วยในเรื่องของปัญหาผิวได้ดีค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องริ้วรอย ผิวหมอง แห้ง หน้าหยาบกร้าน ฝ้า กระ จุดด่างดำต่างๆนั่นเองค่ะ เพราะมีส่วนผสมที่บำรุงผิวมากมายไม่ว่าจะเป็น

Camu Camu
ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระมากกว่า ส้มถึง 30 เท่า

Hyaluron (ซึ่งเล็กกว่า ไฮยารูลอนปกติถึง 100 เท่า)
ช่วยให้ความชุ่มชื้น ยาวนาน 72 ชั่วโมง

อัลฟา อะบูติน
ช่วยยับยั้งการเกิดฝ้าและจุดด่างดำ

โปรติเอส
ช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน ไม่ทำให้ผิวบาง

ไวตามินซี
ช่วยให้ผิวขาวกระจา่งใส

รกกุหลาบ (สารสกัดสเต็มเซลจาก “รก” กุหลาบสายพันธุ์ Rosa Damascena หรือที่เรียกกันว่า Damask Rose)
ช่วยในการผลัดเซลล์ผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ให้ผิวมีความยืดหยุ่น และมีความชุ่มชื่น

เพนตาวิทิน
ช่วยลดผิวที่หยาบกร้าน และปกป้องจากการสูญเสียน้ำ

Niacinamide
ช่วยให้ผิวกระจ่างใสเทียบเทาไฮโดรควินโนน ไม่ทพำให้ระคายเคืองผิว





ตัวกล่องก็มาในสีเงิน สวยหรูดูแพง ผู้ดีมากๆเลยค่ะ ด้านหลังจะเป็น สรรพคุณ และวิธีใช้ ด้านข้างจะเป็นส่วนผสม ส่วนประกอบต่างๆค่ะ


เมื่อเปิดกล่องออกมาก็จะพบกับขวดของเซรั่มค่ะ ซึ่งขวดเซรั่มจะมาเป็นขวดแก้วทึบแสงสีน้ำเงิน ส่วนตรงฝาจะเป็นแบบหัวหลอดหยดเพื่อง่ายต่อารใช้งานค่ะ



ในส่วนเนื้อของเซรั่มนั้น จะออกสีขาวขุ่นนิดค่ะ เมื่อหยดลงบนหลังมือ ก็จะเห็นว่าเนื้อมีความเหลวแต่ไม่ข้นมากนัก กลิ่นหอมกำลังดีค่ะ ไม่ฉุนเลย เมื่อทาเสร็จแล้วผิวไม่แห้ง ดูชุ่มชื้นขึ้นกว่าก่อนทา แล้วก็ไม่เหนียวเหนอะหนะเลยค่ะ



มิ้วจะใช้เซรั่มหลังจากที่อาบน้ำเสร็จค่ะ มิ้วจะบีบหลอดหยดออกมาจากขวด แล้วบีบลงบนฝ่ามือเพียงแค่ครึ่งปั๊มเท่านั้นก็ทั่วหน้าแล้วค่ะ จากนั้นก็ถูลงบนฝ่ามือจะเป็นการช่วยวอร์มเซรั่มไปในตัวค่ะ แล้วก็ทาแบบวนออกด้านข้างเป็นการนวดหน้าด้วยนั่นเองค่ะ แล้วก็ทาที่คอแบบลากขึ้นด้านบนต้านแรงโน้มถ่วงค่ะคอเราจะได้ไม่เหี่ยวด้วย


ตอนทารู้สึกว่า เนื้อเซรั่มทาง่ายมากๆเกลี่ยง่ายและซึมไวมากๆค่ะ

หลังทาทันทีก็รู้สึกว่า หน้าดูชุ่มชื่น แต่ไม่มัน ไม่เยิ้ม และไม่เหนียวเหนอะหนะค่ะ พอหลังตื่นมาอาบน้ำในตอนเช้า ตอนล้างหน้า หน้ารู้สึกนุ่มลื่นขึ้นมากๆเลย



ความรู้สึกหลังใช้ไป 14 วันก็รู้สึกว่า
1. ผิวมีความเนียนละเอียดขึ้นจนรู้สึกได้เลยค่ะ โดยเฉพาะตรงบริเวณหน้าแก้มและจมูก ที่ตอนแรกจะมีพวกสิวเสี้ยนอยุ่เยอะมากๆ
2. ผิวก็ดูเรียบลื่นขึ้น
3. แต่งหน้าง่ายขึ้นอีกด้วยค่ะ
4. ที่สำคัญคือผิวมิ้วไม่ลอก ไม่แสบด้วยค่ะ

หลังจากที่เราทาเซรั่มกันไปแล้ว ในตอนกลางวันจำเป็นอย่างมากที่ต้องทาครีมกันแดดด้วยค่ะ เพราะแดดนี่แหละเป็นตัวการที่ทำให้ผิวเราหยาบกร้าน และคล้ำเสีย แถมผลเสียอย่างร้ายแรงก็คือเป็นมะเร็งผิวหนังเลยนะคะ เราจึงต้องทากันแดดก่อนออกจากบ้านทุกครั้งค่ะ ทั้งผิวกายและผิวหน้า แล้วกันแดดที่  Ridella ส่งมาให้มิ้วได้ลองใช้นั่นก็คือ

Ridella Silky Smooth Sunguard Mousse SPF50/PA+++


ซึ่งเป็นกันแดดที่มีถึง 6 คุณสมบัติในหลอดเดียวเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็น
1. กันแดด้วย SPF 50/PA+++
2. ปกป้องจากมลภาวะ ฝุ่น PM 2.5
3. ช่วยกักเก็บน้ำให้อยู่ในผิว คงความชุ่มชื้น
4. ช่วยต่อต้านอนุมูลิสระ
5. เป็นไพรเมอร์ ช่วยให้แต่งหน้าได้ดีขึ้น
6. ช่วยฆ่าเชื้อสิว



ตัวกล่องมาเป็นสีเงินเหลือบสีรุ้ง สวยหรูดูแพงมาก มาในขนาดไม่เล็กและไม่ใหญ่ไป พกไปเที่ยวได้เลยค่ะ ด้านหลังเป็นสรรพคุณและวิธีใช้ ด้านข้างจะเป็นส่วนผสม และข้อมูลติดต่อค่ะ


มาในปริมาณ 30 ml.


พอเปิดกล่องออกมาก็จะเป็นตัวหลอดครีมกันแดดที่มีสีเงิน ดูเก๋ไก๋มาก มาเป็นแบบฝาเกลียวค่ะ เวลาจะใช้เราก็บีบหลอดออกมาได้เลยสะดวกมากๆ


เนื้อครีม เมื่อบีบออกมาจะมีสีเนื้ออ่อนๆ ลักษณะเป็นเนื้อใยไหม หรือมูสๆในแบบที่มิ้วรู้สึกนะคะ ไม่ใช่เนื้อครีมทั่วไป มีกลิ่นหอมอ่อนๆ แบบผู้ดีมาก


เมื่อเกลี่ยแล้วจะเห็นว่าหลังมือของเรามีความชุ่มชื้นขึ้นมานิดนึง สีสว่างขึ้นมานิดเดียวเท่านั้น แถมมีความลื่นขึ้นและเรียบเนียนขึ้นด้วยค่ะ เติมเต็มร่องที่ผิวหนังได้ดีมาก


มิ้วก็จะใช้ครีมกันแดดต่อจากที่เราทาเซรั่มเลยค่ะ โดยบีบมา 1 ข้อนิ้ว แล้วแต้มไปที่ 5 จุดก็คือ หน้าผาก แก้ม 2 ข้าง จมูก และคาง จากนั้นก็เกลี่ยวนๆ ออกจากใบหน้าเป็นการนวดหน้าไปในตัวค่ะ แล้วก็อย่าลืมทาที่คอด้วยจะได้กันแดดที่คอด้วยจ้า

ความรู้สึกตอนทาก็คือ
เนื้อกันแดดมีความลื่น เกลี่ยง่ายมากๆ ไม่เหนอะหนะผิวเลยค่ะ

หลังทาเสร็จก็รู้สึกว่า
หน้ามีความเรียบลื่นขึ้น ไม่มันไม่เยิ้ม ไม่เหนียวเหนอะหนะ พร้อมรับการแต่งหน้าต่อได้เลยจร้า 


ความรู้สึกตอนที่มิ้วแต่งหน้าก็คือแต่งหน้าได้ง่ายขึ้น เกลี่ยรองพื้นกับทาแป้งง่ายขึ้น เพราะใบหน้ามีความเรียบเนียนขึ้น นั่นเองค่ะ แถมหน้ามันช้ากว่าที่เคย และยังแต่งหน้าติดทนมากขึ้นกว่าการที่เราไม่ได้ทาครีมกันแดดตัวนี้ด้วย


แถมยังรู้สึกว่า ระหว่างวันหน้าไ่ม่ค่อยมันด้วยค่ะ ทั้งๆที่อากาศวันนั้นคือค่อนข้างร้อนเลยทีเดียว ผิวหน้ายังติดทนดี แต่ปากที่ลบไปคือ มีการกินข้าวกินน้ำ ด้วยนั่นเอง




โดยรวมแล้วนะคะ สิ่งที่มิ้วชอบใน สกินแคร์ของ Ridella เลยก็คือ
1. เนื้อทั้งสองตัวมีความเกลี่ยง่าย ซึมไว ไม่เหนียวเหนอะหนะ แต่ผิวก็ยังคงผิวชุ่มชื้นอยู่ค่ะ
2. กลิ่นมีความเป็นผู้ดีสูงมาก หอมแบบไม่ฉุนเลยค่ะ
3. ตัวกล่องมีความสวยงาม เป็นเอกลักษณะ
4. ตัวขวดและ หลอดครีมกันแดด มีขนาดไม่ใหญ่เกินไป พกพาใช้ไปเที่ยวได้
5. ตัวกันแดดช่วยให้ ผิวลื่นและแต่งหน้าง่าย ติดทนมากขึ้นจริงๆค่ะ
6. ผิวหน้าหลังใช้ผลิตภัณฑ์ทั้งสอง มีความเรียบเนียนมากขึ้น หน้าดูกระจ่างใสขึ้น และชุ่มชื่นมากขึ้นค่ะ




เป็นอย่างไรกันบ้างคะสำหรับ สกินแคร์ ของ Ridella ที่มิ้วมาแนะนำในวันนี้ ใครที่อยากผิวออกร่า กระจ่างใส ดูเรียบเนียนมากขึ้น ก็ลองเข้าไปสอบถามรายละเอียด กันได้เลยนะคะที่

Facebook: https://www.facebook.com/MissDivaThailand/
Line@: @MissDiva


วันจันทร์ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2562

กันแดด กันฝุ่น (PM 2.5) ด้วย Dew ver na Sunscreen anti Pollution Spray | MG-Review

Dew ver na
Sunscreen anti Pollution Spray


ประเทศไทยทุกวันนี้นะคะ ไม่ว่าฤดูไหนก็ไม่พ้นอากาศร้อน แถมปัจจุบันนี้ยังมีมลภาวะจากอากาศ ควัน ไหนจะฝุ่น PM 2.5 อีก โอยยยย แค่คิดก็หายใจไม่ออกแล้วค่ะ แล้วผิวของเราล่ะ จะขนาดไหน???
แถมการทาครีมกันแดดบางยี่ห้อก็ยังทำให้หน้าและตัวเหนียวเหนอะหนะยิ่งมันเยิ้มเข้าไปใหญ่

วันนี้มิ้วเลยมีกันแดดตัวนึงมาแนะนำ ซึ่งนอกจากจะกันแดดแล้วก็ยังกันฝุ่นได้อีกด้วย ตัวนี้มาเป็นสเปรย์เอามาฉีดให้สบายใจกันไปเลยค่ะ สเปรย์กันแดดที่มิ้วกำลังพูดถึงนี้ก็คือ Dew ver na Sunscreen anti Pollution Spray นั่นเอง รายละเอียดจะเป็นอย่างไรนั้นไปชมกันเลยจร้า


Dew ver na Sunscreen anti Pollution Spray เป็นสเปรย์กันแดด เจ้าแรกในไทยที่เขาบอกว่า นอกจากจะกันแดดด้วย SPF 30 PA+++ แล้ว ก็ยังกันฝุ่น PM 2.5 ได้อีกด้วยค่ะ แถมยังบำรุงผิวหน้าไปในตัว ก็คือช่วยยกกระชับผิวหน้าด้วยนั่นเอง คุณสมบัติดีขนาดนี้ก็เพราะว่า เขามีสารสกัดจาก

Pollustop
ซึ่งเป็นสาร Polymer จากธรรมชาติ ที่ เกิดจากกระบวนการทาง Biotechnology ที่เมื่อเราฉีดสเปรย์ลงไปบนผิวแล้ว จะเกิดฟิล์มบางๆเคลือบผิวเอาไว้ ซึ่ง สาร Pollustop ตัวนี้จะลดการเกาะของฝุ่น ควัน มลภาวะรวมไปถึง ฝุ่น PM 2.5 นั่นเอง แถมยังช่วยให้การแต่งหน้าของเราติดทนด้วยค่ะ

Cucumber Extract
สารสกัดจากแตงกวาที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวรู้สึกสดชื่น ช่วยฟื้นฟูผิวจากแสงแดด และลดความเหนื่อยล้าของผิวที่เจอแดดมาทั้งวันนั่นเองค่ะ

Niacinamide
หรือที่เราเรียกว่า วิตามิน B3 นั่นเองค่ะ ซึ่งมีส่วนช่วยในเรื่องของการให้ความชุ่มชื้นกับผิวและช่วยกักเก็บน้ำให้ผิว ทำให้ผิวเนียนนุ่มนั่นเองค่ะ

Selastin
เป็นสารสกัดจาก สาหร่าย 3 สี 4 สายพันธุ์ จากหมู่เกาะเซจูที่ประเทศเกาหลี ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและเพิ่มความชุ่มชื้นให้แกผิว ทำให้ผิวดูเรียบเนียนอย่างเป็นธรรมชาตินั่นเองค่ะ



สเปรย์กันแดดตัวนี้ เขาบอกว่ากันแดดได้ยาวนาน 6-8 ชั่วโมง กันไปเลยค่ะ แถมยังใช้ได้กับเด็กที่มีอายุ 7 ปีขึ้นไปอีกด้วย 


ตัวขวด มาในขนาดกระชับมือ พกพาสะดวก สีม่วงขาว ดูสวยงามมากค่ะ ส่วนตัวหัวจะเป็นสเปรย์ และมีฝาปิดอยู่ด้านบน กันหกเลอะเทอะนั่นเองค่ะ 

มาในปริมาณ 50 ml.


ตัวละอองสเปรย์มีความละเอียดมากเลยค่ะ ฉีดไปแล้วรู้สึกว่าละอองกระจายดีมากๆ


เมื่อลองฉีดไปที่หลังมือ ก็จะเห็นว่ามีความเงาๆอยู่ที่หลังมือค่ะ นั่นก็คือการเคลือบของสเปรย์นั่นเอง


เวลาที่มิ้วใช้ มิ้วจะใช้ฉีดหลังจากแต่งหน้าเสร็จค่ะ โดยฉีดเป็นรูปตัว X และ I ลงบนผิวหน้า หรือวันไหนที่มิ้วไม่แต่งหน้า มิ้วก็จะฉีดหลังทาสกินแคร์และครีมกันแดดเสร็จค่ะ เพื่อเพิ่มความกันแดด และถ้าอยากเพิ่มความเย็นสดชื่นก็สามารถฉีดได้ถึง 2-3 ครั้งต่อวัน เลยค่ะ
นอกจากนั้นเรายังสามารถเอามาฉีดที่ตัวได้อีกด้วยเพื่อการกันแดดที่มากขึ้นค่ะ แถมไม่เหนียวเหนอะหนะผิวอีกด้วย


หลังจากฉีดสเปรย์แล้วก็รู้สึกว่า มีความเย็นๆที่ผิวนิดๆค่ะ ไม่ไ่ด้เย็นเหมือนเราทาแป้งนะคะ แต่เป็นความเย็นสดชื่น ที่เหมาะกับใช้ในอากาศร้อนๆมาก แถมกลิ่นก็มีความหอมอ่อนๆ ไม่เหม็น ไม่ฉุน ไม่เหนียวเหนอะหนะ สำหรับมิ้วนะคะ สดชื่นมากๆเลยทีเดียว แถมตัวนี้ก็ยังช่วยให้เครื่องสำอางติดทนมากขึ้นด้วยค่ะ


หรือถ้าใครที่อยากให้ใบหน้ามีความยกกระชับมากยิ่งขึ้น หลังฉีดสเปรย์แล้วก็ทำการนวดหน้า หรือยกหน้าไปในตัวด้วยก็ได้ค่ะ




โดยรวมแล้วสิ่งที่มิ้วชอบใน Dew ver na Sunscreen anti Pollution Spray ก็คือ
1. สเปรย์มีความเย็นที่ผิวเหมาะกับอากาศร้อนเมืองไทยมากๆ
2. กลิ่นหอมสดชื่น ไม่เหม็นไม่ฉุนค่ะ
3. ละอองสเปรย์มีความละเอียด ฉีดแล้วไม่มีความเหนียวเหนอะหนะ
4. สามารถพกพาไปได้ทุกที่ค่ะ สะดวกมากๆ
5. ช่วยให้เครื่องสำอางติดทนยิ่งขึ้นมากกว่าวันที่เราไม่ได้ฉีดกันแดดค่ะ


คำแนะนำ 
มิ้วคิดว่าสเปรย์ตัวนี้เหมาะกับทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่ 7 ปีขึ้นไปเลยค่ะ เพราะขึ้นชื่อว่าแสงแดดและมลภาวะ เป็นอะไรที่ทุกคนจะต้องเจออยู่แล้วเมื่อออกไปข้างนอกบ้าน นอกจากจะทาครีมกันแดดแล้ว
สเปรย์กันแดดก็ยังเป็นอีกหนึ่งทางเลือก ที่ทำให้เรามีความสดชื่นและกันแดดไปในตัว แถมไม่เหนียวเหนอะหนะอีกด้วยนะคะ



รู้อย่างนี้แล้วใครที่กำลังมองหาสเปรย์ที่สามารถกันทั้งแดด ปกป้องมลภาวะ และช่วยยกกระชับ บำรุงผิวหน้า ไปในตัวด้วยเนี่ยก็สามารถซื้อหากันได้เลยนะคะ เป็นแบรนด์คนไทยทำเองด้วย อุดหนุนกันเยอะๆนะคะ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและสั่งซื้อได้ที่
Line@: @dewverna