แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ปกปิด แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ปกปิด แสดงบทความทั้งหมด

วันศุกร์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2563

รีวิว แป้งน้ำรองพื้น Happy ถูกและดี หน้าแมท ใช้ได้ทุกสีผิว

แป้งน้ำรองพื้น
Happy



สวัสดีค่าทุกคนรีวิวนี้มิ้วคิดว่าเหมาะมากๆเลยสำหรับใครที่กำลังหารองพื้นถูกและดี แถมหาซื้อได้ง่าย ปกปิดได้ดี คุมมันก็เริ่ดมากๆเลยค่ะ นั่นก็คือ แป้งน้ำรองพื้น Happy นั่นเอง รายละเอียดจะเป็นอย่างไรบ้างนั้น ไปชมกันเลยจ้า



แป้งน้ำรองพื้น Happy หรือแป้งน้ำ Happy เป็นแป้งรองพื้นสูตรน้ำ ที่เป็นแป้งผสมมากับน้ำ มาในขวดแก้วใส สีเนื้อ มีกลิ่นหอมละมุนมาก ตัวขวดเป็นแบบฝาหมุน ใช้งานง่ายค่ะ รองพื้นเนื้อบางเบา เกลี่ยง่าย

มาในปริมาณ 100 มิลลิลิตร ราคา 50 บาท 


ตัวแป้งน้ำมาเป็นเนื้อเหลวๆเลยค่ะ แต่พอเทน้ำออกมาอีกครึ่งนึง ตัวรองพื้นก็จะมีความเข้มข้นขึ้นมาอีกนิดนึงค่ะ



เมื่อมิ้วลองป้ายตัวแป้งน้ำลงบนหลังมือ ก็จะยิ่งเห็นได้ชัดเลยค่ะว่า ขวดที่เทน้ำออกครึ้งนึงจะเห็นตัวสีได้ชัดกว่า


เวลาใช้ มิ้วก็จะเขย่าขวดแก้วให้น้ำกับแป้งผสมกันได้ดีก่อนค่ะ จากนั้นมิ้วก็เอามาเหยาะลงบนฝ่ามือ ทีละนิด แล้วค่อยๆเอาไปตบๆวนไปที่หน้าเบาๆค่ะ



ผิวก่อนทา หน้าจะมีความมันมาก สีผิวดูไม่สม่ำเสมอ มีรอยคล้ำใต้ตาและจุดด่างจำที่แก้ม
ขณะทา      ผิวรู้สึกเย็นขึ้นมาเลยค่ะ แล้วแป้งก็มีกลิ่นหอมละมุนด้วย (นึกถึงแป้งสมัยก่อนที่รุ่นแม่เคยใช้ แต่มิ้วชอบนะ) เกลี่ยง่ายมากๆ แต่อาจจะต้องรีบๆเกลี่ยเพราะถ้าน้ำมันระเหยไปหน้าจะแมททันทีค่ะ
หลังทา       รู้สึกว่าหน้าแมททันที แต่ผิวไม่เป็นขุยนะคะ เพราะมิ้วมีผิวผสมค่อนไปทางมันค่ะ



ต่อมามิ้วลองทาแป้งน้ำแบบเทน้ำออกครึ่งขวดดู เพื่อเอามาเปรียบเทียบกับเต็มขวดค่ะและนี่คือผลที่ได้



รู้สึกว่า ด้านที่ทาครึ่งขวดนั้นปกปิดได้ดีกว่า แล้วผิวก็แมทสนิทไปเลยค่ะ สีผิวหน้าดูสม่ำเสมอมากขึ้น ผิวดูสว่างขึ้น ประมาณ 2 ระดับค่ะ



มาดูกันอีกทีค่ะ ว่าก่อนทานั้น หน้ามันมากจริงๆ แต่พอหลังทาแล้วผิวก็จะแมทสนิทไปเลย ส่วนความเป็นคราบนั้นก็มีน้อยมากๆแค่บริเวณซอกจมูกเท่านั้นเองค่ะ


พอแต่งหน้าเสร็จก็พบว่า ถ้าอยากให้หน้าดูมีมิติมากยิ่งขึ้น มิ้วก็จทาคอนทัวร์สีเข้มไปปบริเวณกรอบหน้าและข้างจมูกแล้วจากนั้นก็เพิ่ม ไฮไลท์ลงไปบริเวณสันจมูกและโหนกแก้มค่ะ 



จากนั้นมิ้วก็ทดสอบความติดทนโดยการออกไปใช้ชีวิตข้างนอกค่ะ วันนั้นอากาศค่อนข้างร้อนแห้งๆ แต่ผลที่ได้คือ หน้ายังติดทนอยู่ค่ะขุ่นพระไม่คิดว่ามันจะติดทนขนาดนี้ 



แต่จะมีคราบแป้งอยู่ที่ตรงช่วงหนวดที่ปากของเราค่ะ พอรับได้ไม่น่าเกลียดเท่าไหร่ จะบอกว่ามิ้วไม่ได้ซับหน้าระหว่างวันเลยนะคะ การคุมมันถือว่าดีเลยทีเดียวแถมติดทนขนาดนี้คือเวอร์ เกินราคามากไปแล้ววว



โดยรวมแล้วสิ่งที่มิ้วชอบเลยก็คือ
- แป้งเนื้อแมท คุมมันดีมาก
- หลังทาเสร็จแล้วไม่หนักหน้าเลยค่ะ
- ปกปิดปานกลาง แต่ถือว่าดี เมื่อเทียบกับราคา 50 บาทค่ะ
- กลิ่นหอมไม่ฉุน
- สีเข้ากับผิวมิ้ว แต่ถ้าอยากให้ดูมีมิติมากกว่านี้ก็ต้องคอนทัวร์บริเวณกรอบหน้าจะดีมากค่ะ



มิ้วเลยคิดว่าคนที่เหมาะกับ แป้งน้ำรองพื้น Happy นี้ก็คือ 
- คนที่ผิวไม่ค่อยมีปัญหามากนัก ถ้าคนมีสิวต้องใช้คอนซิลเลอร์ลงปิดสิวไปก่อนแล้วค่อยตามด้วยแป้งน้ำค่ะ
- ใชได้ดีกับคนที่มีผิวมัน ผิวผสมค่อนมัน
- นักเรียนนักศึกษา ที่งบน้อยแต่อยากได้รองพื้นปกปิด ใช้ได้ในชีวิตประจำวัน
- จริงๆมิ้วว่าใช้ได้ทุกสีผิวนะคะ เพราะมันเป็นการทำให้ผิวเราดูกระจ่างใสขึ้นมาสองระดับ แต่ถ้าคนผิวเข้มลองคอนทัวร์เพิ่มดูค่ะอย่างที่มิ้วบอกเลยนะ
- ส่วนคนผิวแห้งถ้าใช้เดี่ยวๆเลยอาจจะทำให้หน้าเป็นขุย เลยต้องโบกสกินแคร์ให้หน้าชุ่มชื้นก่อนแล้วค่อยลงแป้งน้ำนะคะ

คำแนะนำ 
หลังทาเสร็จช่วงแรกหน้าอาจจะดูแมทไปหน่อย แต่พอผ่านไปสัก 5 นาที เอามือเกลี่ยๆผิวอีกทีผิวก็จะดูเนียนยิ่งขึ้นค่ะ



พลาดไม่ได้เลยนะคะคือมิ้วชอบมากจริงๆ ไม่คิดว่าจะทำหน้าที่ได้ดีขนาดนี้ ถือได้ว่าเป็นรองพื้นถูกและดี ทั้งคุมมัน ปกปิด ติดทน แถมาราคาก็ไม่แพง แค่ 50 บาทเท่านั้น เรียกว่าเป็น รองพื้น Happy รีวิว เลยก็ว่าได้ค่ะ ใครที่สนใจก็สามารถหาซื้อได้ที่ เซเว่นทุกสาขา Tesco Lotus , Big C, CJ Express, Tops, The Mall, Family Mart และร้านค้าทั่วไป

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/happybrand1955


วันศุกร์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

รีวิวแป้งสีเข้มสุดทั้งหมดที่มี ผิวแทน ผิวสี ผิวมัน ต้องดู!!!

รีวิวแป้ง สีเบอร์เข้มสุด ทั้งหมดที่มี


สวัสดีค่าทุกคน รีวิวนี้มิ้วเอาใจสาวผิวสีเข้มเลยค่ะ ด้วยความที่มิ้วเป็นอีกคนนึงที่มีแป้งสีเข้ม เบอร์เข้มสุดอยู่หลายตัวมาก วันนี้เลยรวบรวมเอามาเม้ามอยให้ฟัง แต่ละตัวจะเป็นอย่างไร มิ้วใช้แล้วรู้สึกอย่างไรบ้างนั้น ไปชมกันเลยจร้า






โดยมิ้วจะไล่ราคาจาก น้อยไปหามากนะคะ เอาแบบสั้นๆง่ายๆได้ใจความก็แล้วกัน จะได้ดูไม่ยืดเยื้อค่ะ

1. Butae Super oil control powder
No.3 Golden Brown
ราคา 25- 75 บาท


เป็นแป้งตัวแรกๆที่มิ้วใช้เลยก็ว่าได้ และเป็นสีเข้มมากสุดที่มิ้วมี ข้อเสียจะเป็นที่พัฟมันดูใช้ยากสักหน่อย เวลาใช้จริงอาจจะซื้อพัฟแยกก็ได้ค่ะ


ตอนทาก็ค่อนข้างทาง่ายอยู่ค่ะ แต่ก็จะมีเศษฝุ่นผงแป้งร่วงลงมาบ้าง ก็ตามราคานะคะ
หลังทาเสร็จ สีเข้มเท่าแขนเลยทีเดียว แล้วหน้าก็แมทสนิทค่ะ แต่ก็ไม่ได้คุมมันมากนักอย่างว่านะคะ ราคาไม่ได้สูงมาก แต่ถือว่าดีเลยค่ะในระดับราคาเท่านี้

คำแนะนำ ถ้ารู้สึกว่าซื้อมาแล้วสีเข้มกว่าหน้ามากเกินไป ก็ใช้เป็นเฉดดิ้ง เอามาปัดที่กรอบหน้าได้ก็ช่วยให้หน้าเราดูมีมิติมากขึ้นค่ะ


เหมาะกับ คนงบน้อย คนที่เพิ่งเริ่มหัดแต่งหน้า นักศึกษา คนผิวหน้ามัน



2. Eglips Blur powder pact
เบอร์ 23 ราคา 2xx บาท


ตัวนี้แอบไม่ใช่สีเข้มสุดในตอนนี้นะคะ เพราะมันมีเบอร์ 25 ออกมาแล้ว ส่วนตัวแล้วชอบพัฟอันนี้มากเวลาใช้ดูเข้ากับเนื้อแป้งสุดๆ (เนื้อพัฟดูเป็นกำมหยี่นุ่มๆ)


ตอนทาก็รู้สึกว่าแป้งไม่เป็นฝุ่นผงออกมามากนัก ทาเดี่ยวแล้วหน้าก็ไม่ลอยมากค่ะ แต่ถ้าคนสีผิวเข้มกว่ามิ้วอาจจะเห็นชัดกว่า แต่ที่ชอบก็คือ รูขุมขนดูเบลอจริงๆค่ะ คุมมันก็ดีเลยทีเดียว ไม่เป็นคราบด้วย

คะแนะนำ เวลาทามิ้วจะใช้คู่กับรองพื้นที่สีเข้มๆค่ะ ก็คือหลังจากที่เราทารองพื้นสีเข้มแล้ว ก็เซทด้วย ตัวนี้ ก็คือชอบมากๆ

เหมาะกับ คนที่มีรูขุมขนกว้างมากๆ ผิวมัน นักเรียน นักศึกษา


3. Chao Nang Perfest bright UV 2 Way powder Foundation SPF20 PA+++
No.03 ราคา 2xx - 3xx บาท


แป้งตัวนี้เป็นอีกตัวนึงที่มิ้วชอบมากค่ะ ทั้ง ตัวตลับ สีแป้ง เนื้อแป้ง ทำได้ดีเลยทีเดียว พกใส่กระเป๋าอยู่ช่วงนึงเลยทีเดียวค่ะ บิวตี้บล็อคเกอร์ หลายๆคนก็การันตีมาด้วยว่างานดีมาก แต่พัฟเขาอาจจะแข็งไปในช่วงแรกๆเมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่น แต่ใช้ไปสักพักมันจะนุ่มขึ้นค่ะ กลิ่นแป้งมีกลิ่นหอมอ่อนๆ


ตอนทาก็รู้สึกว่าทาง่ายใช้ง่าย เพราะพัฟค่อนข้างใหญ่ ไม่มีฝุ่นร่วงลงมาให้กวนใจ
หลังทาก็รู้สึกว่าหน้าเนียนมาก ไม่เป็นคราบ ปกปิดดีเลยค่ะ ใช้แค่แป้งเดี่ยวๆก็ยังรอด คุมมัน ติดทนดีเลยค่ะ

คะแนะนำ สามารถใช้ได้ทั้งแบบเปียก(เอาพัฟมาชุบน้ำแล้วไปแตะที่แป้ง) และแบบแห้ง โดยที่แบบเปียกจะกันน้ำได้มากว่า ติดผิวมากกว่า และดูธรรมชาติมากกว่าค่ะ แต่ถ้าเอาว่าเร็วและความถนัดก็ ใช้แบบแห้งจะสะดวกกว่า

เหมาะกับ คนผิวมัน นักศึกษา คนที่มีเวลาแต่งหน้าน้อย ทำกิจกรรมเยอะ จริงๆเหมาะกับทุกคนค่ะ


4. Mr. Wat 1-minite whitening cake powder founfation SPF18 pa++
เบอร์ C2 ราคา 2xx - 3xx บาท


เป็นแป้งที่ออกมานานแล้วค่ะ ตัวนี้ก็ช่วยเบลอรูขุมขนได้ดีเลยทีเดียว แถมปกปิดก็อยู่ในระดับทีดีค่ะ แต่เสียดาย สียังขาวไปเล็กน้อยถ้าเอามาทาเดี่ยวๆ เนื้อแป้งมี กลิตเตอร์ผสมอยู่นิดๆค่ะ พัฟก็นุ่มกำลังดี


ตอนทาก็ทาง่าย ไม่มีฝุ่นผงร่วงลงมา หลังทาก็ไม่เป็นคราบแต่อย่างใดค่ะ สีก็ไม่ค่อยลอยมาก แต่เบลอผิวได้ดีจริงๆค่ะ

คำแนะนำ ถ้าใช้ทาเดี่ยวๆแล้วหน้ายังขาวไป ลองใช้เฉดดิ้งทาที่กรอบหน้าดูค่ะ หรือไม่ก็ใช้คู่กับรองพื้นที่มีสีเข้ม เซทหลังทารองพื้นเสร็จ จะช่วยให้สีหน้าดูพอดีกับแขนมากขึ้นค่ะ

เหมาะกับ คนที่มีรูขมขนกว้าง สีผิวขาวเหลือง ผิวมัน คนที่ใบหน้าหมองคล้ำ(ทาบริเวณหน้าผาก สันจมูก คาง และหน้าแก้ม)


5. Rebecca Keep a srcret Flawless Dream Powder SPF 25 pa+++
No.03 ราคา  3xx - 4xx บาท


เป็นแป้งอีกตัวที่ให้ความเนียนกับผิวมากๆ ตลับก็สวย สีแป้งก็ดีเข้ากับผิวมิ้วมากๆค่ะ ทุกวันนี้พกไว้ในกระเป๋า เอาไว้เติมระหว่างวัน หน้าก็ไม่เป็นคราบ หน้าไม่ดูแห้งจนเกินไปค่ะ ชอบอีกอย่างคือพัฟค่ะ มีความนุ่มมากๆ


ตอนทาก็คือทาง่าย ไม่มีฝุ่นร่วงลงมาอีกเช่นกันหน้าดูเนียนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด หน้าก็ไม่แห้งจนเกินไป ที่สำคัญ ไม่เป็นคราบด้วยค่ะ

คำแนะนำ พอใช้แป้งไปสักพัก ต้องระวังตอนเปิดด้วยค่ะ ตัวที่กดมันอาจจะดูหลวมๆไปสักหน่อย เลยทำให้แป้งเปิดตอนที่เราไม่ได้ใช้ค่ะ จะพกไปก็ระวังตลับแป้งเปิดด้วยนะคะ

เหมาะกับ คนที่พอมีงบหน่อย สาวๆวัยทำงาน คนผิวมัน มีเวลาแต่งหน้าน้อย


6. Beneficial Ultimate coverage foundation powder
เบอร์ 06 Honey ราคา 575 บาท


เป็นแป้งที่ราคาแพงสุดที่มิ้วมีค่ะ ตัวตลับสวยเก๋ แตกต่าง ชั้นใส่พัฟจะอยู่ด้านบนของตลับแป้ง ตอนเปิดไม่ต้องกลัวตลับจะเปิดเอง เพราะมีแม่เหล็กด้วยทำให้ตัวตลับปิดสนิทแน่นอนค่ะ


ตอนทาแอบมีฝุ่นแป้งร่วงลงมานิดๆ หน้าจะดูแมทขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด แต่สีอาจจะดูขาวกว่าแขนไปสักหน่อย แต่เรื่องความปกปิดถือว่าทำดีเลยค่ะ

คำแนะนำ ตัวนี้สามารถทาเดี่ยวๆ ทาออกงานได้เลย เวลาเรารีบๆค่ะ(ยิ่งใช้คอนซิลเลอร์มาปกปิดก่อนก็จะเริ่ดกว่าค่ะ) แต่ก็ต้องใช้เฉดดิ้งปัดที่กรอบหน้าด้วย หน้าจะได้ดูไม่ลอยนั่นเอง

เหมาะกับ คนที่พอมีงบหน่อย สาวๆออฟฟิต คนที่มีเวลาแต่งหน้าน้อย


7. Beneficial All day sun protection foundation powder SPF 50 PA++++
สี Honey ราคา 575 บาท


ตัวนี้ก็เป็นอีกตัวนึงที่มิ้วชอบค่ะ เวลารีบๆตัวนี้ตัวเดียวก็เอาอยู่ จุดเด่นของตัวนี้คือ มีความเล่นแสงมากแบบสวยทุกแสงอย่างที่เขาบอกจริงๆค่ะ เพราะเขามีตัวที่ช่วยกระจายแสงอยู่ในแป้ง พัฟนุ่มกำลังดี

ตัวนี้จะแตกต่างจากรุ่นที่แล้ว ก็คือ หลังทาหน้าจะดูเป็นผิวมากกว่า คุมมันมากกว่าค่ะ


ตัวนี้ตอนทาก็มีฝุ่นผงร่วงลงมาอีกเช่นกัน ทาง่าย เกลี่ยง่าย ด้วยความที่พัฟเขาเป็นวงรีจึงซอกซอนเข้าไปที่แคบๆได้ดีกว่าพัฟลักษณะกลมค่ะ หลังทาเสร็จหน้าดูสวยฉ่ำเล่นแสง แต่หน้าไม่มันเยิ้ม ดูแมทกำลังดีค่ะ ไม่เป็นคราบแต่อย่างใด

คำแนะนำ ควรใช้คู่กับคอลซิลเลอร์จะสวยปังกว่า แล้วปัดด้วยเฉดดิ้ง แค่นี้ก็สวยได้โดยไม่ง้อรองพื้นแล้วค่ะ หรือใช้คู่กับแปรง เพื่อเซทรองพื้นก็ดูสวยเล่นแสงดีค่ะ

เหมาะกับ คนผิวมันที่อยากให้หน้าดูฉ่ำสวย คนที่พอมีงบหน่อย อยากได้ใบหน้าที่ดูเล่นแสง สวยแบบเป็นผิวสุขภาพดีค่ะ


เปรียบเทียบแป้งแต่ละตัวให้ดูกันค่ะ




เรียงลำดับความปกปิดจาก มากไปหาน้อยได้ดังนี้
6>7>5>3>4>2>1


เมื่อปาดสีลงบนแขน


เมื่อเปรียบเทียบสีกันจะเห็นได้ว่า เบอร์ 1 สีเข้มสุดจริงๆค่ะ สีสว่างที่สุดจะเป็นเบอร์ 2 และ 4 นั่นเอง



การกันน้ำ



เมื่อลองเอาน้ำมาผ่านๆดูก็เห็นว่ามันก็ยังคงติดที่ผิวเกือบทุกเบอร์นะคะ ยกเว้น เบอร์ 4 ที่จะจางกว่าเพื่อน

การกันน้ำได้จากที่มิ้วเห็น เรียงลำดับจากมากไปน้อยก็คือ
5>7>6>3>1>2>4


หลังผ่านน้ำแล้วเอากระดาษทิชชู่มาซับดูก็พบว่าแป้งยังพอหลงเหลือสีอยู่บ้างค่ะ แต่ถ้าเอามือมาถูอีกรอบนึงแป้งก็เริ่มจางหายไปเกือบทุกแบรนด์ค่ะ




ก็ต้องบอกก่อนว่า แต่ละตัวอาจจะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป แต่ถ้าถามว่ามิ้วชอบตัวไหนมากที่สุดก็จะเรียงลำดับจากชอบมากที่สุดไปน้อยที่สุด ได้ดังนี้ค่ะ (เป็นความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้นนะคะ) ตัดสินจากภาพรวมความคุ้มค่า สีที่พอดีกับผิว และคุณสมบัติการปกปิดติดทนค่ะ

3>5>7>6>2>1>4

แต่จะบอกว่าแป้งทุกตัวมิ้วก็สลับกันใช้ไปในแต่ละวันนะคะ เพราะคุณสมบัติบางอย่างไม่เหมือนกัน

ถ้าอยากได้ความเบลอผิว
ก็จะใช้แป้ง 2,4 แต่ต้องใช้รองพื้นที่มีสีเข้มทาก่อน จะได้พอดีกับผิวค่ะ

ถ้าอยากได้ความเนียนไปกับผิว ก็แนะนำเป็น
3,5,6,7 ค่ะ เพราะเป็นแป้งที่ทาแล้วไม่เป็นคราบ ทาเดี่ยว โดยไม่ต้องลงรองพื้นก็ได้ค่ะ

ถ้าอยากได้สีพอดีกับผิวตัว หรือ ทาเป็นสีเฉดดิ้งแบบธรรมชาติ ก็แนะนำเป็น
1 นั่นเองค่ะ


หวังว่าจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือก ในการตัดสินใจในการซื้อแป้ง สำหรับสาวผิวสีนะคะ เลือกที่เหมาะกับสีผิว และสภาพผิวของเราให้มากที่สุดค่ะ



วันจันทร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2561

แพนด้าแค่ไหนก็รอด กับ IN2IT Dark Circle Corrector |MG-Review

แพนด้าแค่ไหนก็รอด กับ IN2IT Dark Circle Corrector


สวัสดีค่ะทุกท่าน รีวิวนี้ดีงามอีกแล้ว เหมาะกับคนยุคสมัยโซเชียล ก้าวไกลอย่าเรามากๆ เพราะต้องเสพสิ่งต่างๆมากมายจนไม่มีเวลาได้พักผ่อน ใต้ตาดำคล้ำยิ่งกว่าแพนด้าซะอีก วันนี้มิ้วเลยจะมาแนะนำตัวช่วยที่ให้คนอย่างเราๆแลดูมีการพักผ่อน ทั้งๆที่เมื่อคืน ดูซีรี่มาเกือบเช้า นั่นก็คือ  IN2IT Dark Circle Corrector นั่นเอง ตัวนี้เป็น เหมือน คอนซีลเลอร์ใต้ตา ที่ช่วยคอลเรคเตอร์ ขอบตาคล้ำ ให้กลับมาและดูสว่าง สดใส มากยิ่งขึ้น ถ้าใครอยากรู้ว่ามิ้วใช้แล้วเป็นอย่างไรก็ไปชมกันได้เลยจร้า 

ลักษณะตัวแท่ง




ตัวแท่งมีขนาดเล็กๆน่ารัก กระทัดรัด พกพาสะดวก มาในปริมาณ 2.5 กรัม 
ราคา 159 บาท จากปกติ 179 บาท ราคาคือดีงามมากๆ ใช้คุ้มเลยค่ะ


ลักษณะเนื้อ สี กลิ่น


มาด้วยกันถึง 3 สีเลย 
DCC 01Natural Fair เป็นสีออกขาวเหลือง เหมาะกับการทาบริเวณที่ต้องการจะทำให้สว่าง โดดเด่นขึ้นมา เช่น ใต้ตา สันจมูก หน้าผาก คาง 
DCC 02 Natural เป็นสีออกเหลืองส้มๆ เหมาะกับการทาที่รอยสิวเพราะสีจะค่อนข้างใกล้เคียงกับผิวหน้าคนไทยมากที่สุด
DCC03 ivory เป็นสีออกโทนชมพูอ่อนๆ หลายคนที่เป็นมือใหม่ในการแต่งหน้าอาจจะงงๆ ว่ามันเอาไว้ใช้ทำอะไร ตัวสีชมพูนี้คือเป็นสีที่จะเป็นมากสำหรับคนที่มีรอยคล้ำใต้ตาหนักหน่วง เพราะสีชมพู จะช่วยให้สีที่คล้ำ ต่างๆดูสว่างขึ้น เป็นการหักล้างค่าสีกันนั่นเอง 



ลักษณะฝาเป็นแบบหมุนขึ้นมา หัวแปรงจะมีขนาดพอดีเมื่อเอามาทาที่ใต้ตาของเรา และไม่ต้องกลัวหกเพราะตัวขวดมีตัวกั้นไม่ให้เนื้อผลิตภัณฑ์ไหลออกมานั่นเอง


เมื่อเทียบสีกันแล้วจะเห็นความแตกต่างได้อย่างชัดเจน



ในส่วนชองเนื้อผลิตภัณฑ์ จะเป็นเนื้อครีมค่อนข้างข้นเลยทีเดียว มีกลิ่นอ่อนๆ เกลี่ยง่าย สีชัด ปกปิดเอาเรื่อง แต่ต้องรีบเกลี่ยนิดนึง เพราะมันค่อนข้างแห้งไว และมันก็จะ ติดทนไปทั้งวันเลย สีไม่ดรอป ไม่หมองด้วยจร้า
แถมมิ้วแอบไปลองจุ่มน้ำเล่นดูก็ติดทนอยู่เด้อ เล็กพริกขี้หนูจริงๆ ของมันต้องมีละค่ะทุกคน :)


วีธีใช้



มิ้วเริ่มจากการใช้สี 03 ทาที่ใต้ตาก่อน เป็นรูปสามเหลี่ยมคว่ำ เพราะอย่างที่บอก สีชมพูมันจะเข้าไปหักล้างกับสีม่วงช้ำ ดำคล้ำ ของใต้ตาเราให้ดูส่วางใสขึ้นทันที พอเกลี่ยแล้วก็จะกลายเป็นสีชมพูอ่อนๆ แต่ปกปิดรอยคล้ำได้มิดเลย หลังจากนั้น ก็ทาทับด้วยสี 02 โดยลากเป็นรูปสามเหลี่ยมคว่ำอีกเช่นกัน แต่จะวาดให้ใหญ่กว่าสีแรก สีโทนนี้จะทำให้สีใต้ตาเราดูเป็นสีผิวของเราขึ้นมาทันที 



สุดท้ายทาด้วยสีเบอร์ 01 บริเวณที่ต้องการจะทำให้ดูเด่น ไม่ว่าจะเป็นที่ สันจมูก หน้าผาก คาง โหนกคิ้วก็ได้ด้วย จะทำให้ใบหน้าดูมีมิติมากขึ้นไปอีกค่ะ


นอกจากนี้มิ้วยังใช้สีเบอร์ 01 มากลบรอยคล้ำของปากด้วย จะได้ทาลิปสติกได้สีที่สด เห็นชัดมากกว่าอีกด้วย

ความรู้สึกหลังใช้











แกคือมันเริ่ดมาก ที่ผ่านมาใช้แต่รองพื้นทาใต้ตามาตลอด เพราะคิดว่า มันก็ปกปิดดีอยู่แล้วอมาเจอตัวนี้คือจบเลย ตัวเดียวเอาอยู่ ปกปิดติดทน สีไม่หมอง กันน้ำด้วย แต่อย่างที่บอกต้องรีบเกลี่ย เพราะมันแห้งไวมาก ยิ่งตอนแต่งหน้าลุคที่สวยๆปังๆยิ่งต้องมีติดตัวไว้เลยนะ มันจะยิ่งเป๊ะเข้าไปใหญ่ เช่นตอนแต่งหน้ารับปริญญา ไปงานอีเว้น ออกงานสังสรรค์ต่างๆ อะไรยังงี้ ไม่มีไม่ได้แล้ววววว



และสำหรับใครที่อ่านมาถึงตรงนี้แล้วอยากมีไว้ในครอบครองก็เข้าไปดูกันได้ที่ 
วัตสัน, บูทส์, อีฟแอนด์บอย และร้านจำหน่ายเครื่องสำอางชั้นนำทั่วไป
บิ๊กซี, เทสโก้ โลตัส, ท็อปส์ และห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป

หรือออนไลน์โลดเลย ที่
Facebook : https://www.facebook.com/IN2IT.Thailand/ (IN2IT (Thailand))
Instagram: https://www.instagram.com/in2it.thailand/?hl=th (in2it.thailand)
Line : @in2it