วันจันทร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2563

รีวิว เลเซอร์ ขนน้อง ครั้งแรก!! กับ The Vanish Clinic งานนี้บอกเลยว่า... | MG-Review

 

The Vanish Clinic


สวัสดีค่ะทุกคน รีวิวนี้มิ้วตื่นเต้นมากๆฮ่าๆ ก็เพราะว่านี่เป็นครั้งแรกที่มิ้วจะไปทำสวยให้น้องสาวค่ะ ก็คือการกำจัดขน บิกีนี่ ไลน์ด้วยเครื่อง GentleYAGPRO-U กับ The Vanish Clinic นั่นเอง มิ้วจะรู้สึกอย่างไร ต้องทำอะไรยังไงบ้างนั้น ไปชมกันเลยค่ะ บอกเลยว่าตื่นเต้นมากกกกกก แถมมีโปรดีๆมาฝากด้วยค่า อ่านกันให้จบนะ






The Vanish Clinic เป็นสถานเสริมความงามที่อยู่ ชั้น 3 ของห้าง เอสพลานาด รัชดาภิเษก ที่ดูแลเรื่องของผิวหนัง เส้นขน ต่างๆของเราให้มีความสวยงามและดูดีขึ้นค่ะ

การเดินทาง
การเดินทางไป The Vanish Clinic ก็ง่ายมากแบบมากที่สุด คือการนั่ง รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ไปลงที่ สถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เดินมาที่ทางออกที่3 ขึ้นมาจากใต้ดิน แล้วเลี้ยวซ้ายมาเดินข้ามถนนมาอีกนิดก็จะเจอห้าง เอสพลานาด รัชดาภิเษก แล้วค่ะง่ายจริง

มองหาทางออกที่ 3 ไว้ค่ะ

เดินตามทางออก 3 มาเรื่อยๆ

จะเจอ ร้าน LAWSON 108 แล้วเลี้ยวขวาเลยค่ะ

ออกมาจากใต้ดินแล้วเดินลงบันไดมาอีกนิดก็เลี้ยวซ้ายเลยค่ะ


เดินมาอีกนิด แล้วก็ข้ามถนนมาก็จะถึงห้างแล้วค่ะ


เดินข้ามมาก็จะเห็นห้างใหญ่เลยค่ะ


เดินขึ้นบันไดเลื่อนมาได้เลย

พอเดินเข้ามาในห้าง มิ้วก็ขึ้นบันไดเลื่อนมาที่ ชั้น 3 เลยค่ะ การเดินทางก็คือสะดวกจริงๆ

พอถึงชั้น 3 ก็สังเกตเห็นคลินิกสีชมพูๆเลยค่ะก็จะเจอ The Vanish Clinic แล้ว


พาชมคลินิกกันสักนิดนึง ภายในก็จะเป็นสีชมพูสีสวยน่ารักเลยทีเดียว

มีโต๊ะด้านหน้าที่เป็นจุดสอบถามข้อมูลปรึกษากับพี่ๆที่นี่ได้เลยค่ะ


แถมยังมีโซฟานิ่มๆไว้ให้คนที่มาใช้บริการได้นั่งรอนั่งพักกันด้วยค่ะ

แล้วก็ยังมีน้ำดื่มไว้คอยให้บริการด้วย

ก่อนเข้ารับบริการก็มี กระจกไว้ให้สำรวจความสวย หล่อสักหน่อย


เดินเข้ามาด้านในนิดนึงก็จะเป็นห้องที่ให้บริการแล้วค่ะ



ก่อนเข้ารับบริการก็ทำความเข้าใจกับการเลเซอร์สักหน่อยเพราะนี่เป็นครั้งแรกเลยค่ะที่มิ้วได้มาทำ


สวมชุดเตรียมเลเซอร์ขนน้องแล้วค่า



ภายในห้องที่เลเซอร์ก็จะมีเตียง แล้วก็เครื่องอยู่ 2 เครื่องค่ะ 


เครื่องแรกจะเป็นเครื่องที่ใช้เลเซอร์นั่นเองค่ะ มีชื่อว่า GentleYAGPRO-U

GentleYAGPRO-U เป็นเลเซอร์ที่มีความยาวคลื่นแสงสูง ทำให้แสงผ่านลงไปสู่ชั้นผิวได้ดีว่าเลเซอร์อื่นๆ แล้วนอกจากนี้ก็ยังมี ระบบที่ให้ความเย็นเพื่อปกป้องผิวชั้นบน ก่อนการเลเซอร์ทุกนัด ผิวชั้นบนจึงไม่ถูกทำลายนั่นเองค่ะ

GentleYAGPRO-U ตัวนี้นอกจากจะช่วยกำจัดขน(ที่รักแร้ ที่แขน ที่ใบหน้า)แล้ว ก็ยังช่วยรักษา

ริ้วรอยเหี่ยวย่น 

การยกกระชับผิว 

และกำจัดขนคุดค่ะ

แล้วทางพี่ที่คลินิกก็ยังบอกอีกว่า เลเซอร์ตัวนี้เป็นตัวใหม่ล่าสุด ที่ไม่ทำให้ผิวระคายเคืองมากเมื่อเทียบกับเลเซอร์แบบอื่นด้วยค่ะ พูดง่ายไก็คือ เจ็บน้อยกว่าเลเซอร์ตัวอื่นนั่นเอง 

นอกจากนั้น เลเซอร์ตัวนี้สามารถกำจัดขนถาวรได้เลยค่ะเมื่อเลเซอร์ ไปประมาณ 8 ครั้ง ซึ่งนอกจากจะกำจัดขนได้แล้ว เลเซอร์ตัวนี้จะไปกระตุ้น คอลลาเจนในชั้นผิว ให้สร้างขึ้นใหม่ จึงช่วยให้ผิวบริเวณที่เลเซอร์นั้นค่อยๆกระจ่างใส และกระชับมากขึ้นด้วยค่ะ เรียกได้ว่า ตัวเดียวช่วยได้ทั้งหมดเลย ดีงามมากๆ

ต่อมาก็จะเป็นเครื่อง Cryo-Jet ที่จะเป็นลมเย็นๆออกมาตอนที่ยิงเลเซอร์นั่นเองค่ะ ช่วยให้ผิวบริเวณนั้นเย็นขึ้นไม่แสบไม่ระคายเคืองมากนั่นเอง


เริ่มเลเซอร์กันแล้วจ้า

ตอนทำเลเซอร์ มิ้วจะเลเซอร์ช่วงบิกินี่ไลน์หรือเลเซอร์ขน จิมิ เรานั่นเองค่ะ ก็คือขนน้องเฉพาะบริเวณด้านหน้าของเรา แล้วก็ตรงต้นขา แล้วก็ด้านในของน้องสาวเรานิดหน่อยค่ะ (นี่พิมพ์ไปก็เขินไป ฮ่าๆ)


ถ้าคนไหนมีขนน้องมา พี่ๆทางคลินิคก็จะทำการกำจัดขนให้ก่อนค่ะ แล้วค่อยทำเลเซอร์ แต่มิ้วทำมาก่อนแล้ว ก็สามารถเลเซอร์ได้เลยค่ะ และสำหรับคนที่มาทำแล้วอยากทายาชา ก็สามารถบอกพี่เขาได้นะคะ ซึ่งถ้าทายาชาก็จะรอให้ยาออกฤทธิ์ อีก 30 นาทีค่ะ แต่มิ้วไม่ได้ทาค่ะ ครั้งแรกก็จัดเลย ฮ่าาาา 


มิ้วบอกไปว่า มาทำครั้งแรก พี่เขาก็จะเข้าใจค่ะ ตอนทำก็พูดคุยกันไปด้วย เพื่อไม่ให้เราตื่นเต้น หรือเครียด หรือเกร็งค่ะ สบายๆชิลๆ พี่เขาจะบอกก่อนว่า ตรงไหนจะรู้สึกนิดนึงนะเขาก็จะค่อยๆทำไปค่ะ ก็จะมีพักบ้าง ไม่รีบ แล้วก็มีลมเย็นๆเป่าอยู่ตลอดเวลา ซึ่งดีมากๆเลยนะคะ ประทับใจกับครั้งแรกที่ไปทำเลยค่ะ

พี่เขาจะเริ่มเลเซอร์จากช่วงด้านหน้า ไปที่ต้นขา แล้วก็มาตรงกลาง(ซึ่งตรงนี้จะรู้สึกมากที่สุดค่ะ) แล้วก็ไปที่ต้นขาอีกข้างหนึ่ง แล้วก็เข้าไปที่ด้านในนิดหน่อยค่ะ

หลังจากเลเซอร์เสร็จแล้ว พี่เขาก็จะทาครีมที่ช่วยลดการระคายเคือง และเพิ่มความชุ่มชื้นให้ด้วยเป็นอันเสร็จค่ะ

โดยรวมเวลาที่ทำแล้ว มิ้วทำไปเพียง 15 นาทีเท่านั้นค่ะ ถือว่า รวดเร็วมากๆเลย (แต่ถ้าใครทายาชาก็จะบวกเพิ่มไปอีก 30 นาที ค่ะ)

แล้วถ้าถามความรู้สึกว่าเจ็บไหม ต้องบอกเลยค่ะว่าเป็นความเจ็บที่สามารถทนได้ (แต่ระดับความทนได้ของแต่ละคนก็ไม่เท่ากัน) ซึ่งมิ้วคิดว่าแล้วแต่ผิวหนังของแต่ละคนด้วยค่ะ ถ้ายิ่งเคยเลเซอร์มาแล้วก็จะทนได้มากขึ้นไปอีก แต่เพื่อความสวย สะอาด และใส่บิกินี่ ชุดว่ายน้ำได้แบบงามๆ มันคุ้มค่ามากค่ะ ฮ่าๆ 


หลังทาครีมอีกสักพักหนึ่งเราก็สามารถเปลี่ยนชุดแล้วกลับได้เลยค่ะ สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ไม่ต้องพักฟื้นแต่อย่างใด แต่อาจจะตองมีการดูแลตัวเองหลังเลเซอร์หน่อยค่ะก็คือ

อย่าให้ผิวที่เลเซอร์ถูกแสงแดดโดยตรง (ถ้าเลเซอร์ที่หน้าควรทาครีมกันแดดทุกครั้ง)

อย่าสัมผัสผิวบริเวณที่เลเซอร์มากเกินไป 

งดการออกกำลังกาย และซาวน์หน้าออกไป 2 วันหลังจากเลอเซอร์

บำรุงผิวส่วนที่เลเซอร์ให้ได้มากที่สุด

ซึ่งมิ้วก็จะทาด้วย เจลว่านหางทุกครั้งหลังอาบน้ำเพื่อให้ผิวดูชุ่มชื่นลดการระคายเคืองค่ะ


คำแนะนำตอนไปเลเซอร์ครั้งแรก

วันที่ไปเลเซอร์ขนน้อง อยากให้ใส่ประโปรงไปค่ะ จะได้สะดวกเวลาเข้ารับบริการ

ก่อนไปก็อยากให้ทำใจให้สบายค่ะ ไม่ต้องเขินอาย เพราะเราก็อยากสวย ส่วนพี่ๆเขาก็ทำงานตามหน้าที่ค่ะ เพราะฉนั้นไม่ต้องกังวลอะไรเลยนะคะ

การเลเซอร์ต้องทำมากกว่า 4 ครั้งขึ้นไป (ระยะห่างแต่ละครั้ง 1 เดือน) ถึงจะเริ่มเห็นผลค่ะ ไม่ใช่ว่าครั้งเดียวแล้วเลิกเลยนะคะ 


เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับรีวิวที่มิ้วเอามาฝากวันนี้ หวังว่าจะเป็นอีกหนึ่งเสียงที่เอาประสบการณ์มาเล่าให้เพื่อนๆที่สนใจอยากจะไปเลเซอร์ขนน้องได้อ่านกันค่ะ ถ้าใครสนใจอยากไปเลเซอร์หรือทำสวย ที่ The Vanish Clinic ก็สามารถเข้าไปดู รายละเอียดเพิ่มเติมได้เลยค่ะ ที่

https://www.facebook.com/thevanishclinic

Line: @thevanish


โดยช่วงนี้เขามีโปรโมชั่นค่ะก็คือ

เลเซอร์กำจัดขนทุกโปรแกรมลดราคาถึง 50% ซื้อ 5 ครั้ง แถม 5 ครั้งไปเลย!! ขุ่นพระ คุ้มยิ่งกว่าคุ้มค่ะไม่ลองไม่รู้ ไม่ไปไม่ได้แล้ว!!!! 


 สุดท้ายนี้อยากฝากไว้ว่า ถ้าเราอยากสวยบางครั้งก็ต้องอดทน เพื่อเห็นผลที่ดีกว่าเดิมนะคะ แล้วเราจะสวยไปด้วยกันค่ะ :) ไว้เจอกันใหม่รีวิวหน้า ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านกันจนจบค่ะ <3





 



วันจันทร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2563

รีวิว แป้งเซลฟี่ ราบุ RABU สวยทั้งในจอและนอกจอ แบบไม่ง้อ แอพฯ | MG-Review



 RABU RABU

Photo Light Compact Powder


สวัสดีค่าทุกคนมารีวิวแป้งอีกแล้ว ฮ่าๆ ช่วงนี้จะได้ลองแป้งบ่อยๆเลยจะมาพูดถึงแป้งที่ถ่ายรูปแล้วสวยได้ทุกแสง แบบไม่ต้องง้อแอพแต่งรูปเลยค่ะ หลายคนก็มักจะมองหาแป้งที่ปกปิด ติดทนคุมมัน แต่ยุคสมัยนี้ ต้องถ่ายรูปแล้วดูสวยด้วย ถ่ายกล้องไหน ชัดแค่ไหนก็ยังต้องสวย ผิวสวยดูเล่นแสงอยู่เสมอค่ะ แป้งตัวนี้ก็คือ 

RABU RABU Photo light compact powder นั่นเองค่า รายละเอียดจะเป็นอย่างไร มิ้วใช้แล้วสวยแค่ไหนนั้น ไปดูรายละเอียดกันได้เลยค่า



แป้ง RABU RABU Photo light compact powder เป็น แป้งพัฟสะท้อนแสง แป้งแป้งโฟโต้ไล้ท์  แป้งเซลฟี่ ที่มีส่วนผสมหลักเป็น อนุภาคเล็กของ Silk Mica ช่วยให้แป้งเล่นแสงและกระจายตัวได้ดี เนื้อแป้งนุ่มลื่น บางเบา สบายผิว เกลี่ยง่าย ติดทนนาน เหมือนเราติดฟิลเตอร์ออร่าไว้ที่ผิวเลยค่ะ นอกจากนี้ยังมีสารป้องกกันแสงแดด และมบภาวะด้วย สวยจบครบในตัวเลยทีเดียว





ตัวกล่องมาแบบกระดาษ สีดำด้าน โลโก้คือดูแล้สรู้เลยว่าเป็นแป้งที่ช่วยเล่นแสงค่ะ บอกวัน เดือน ปี ที่ผลิต สีและปริมาณมาอย่างชัดเจน 


สีที่มิ้วได้มาจะเป็นเบอร์ 03 เข้มสุดเลยค่ะเหมาะกับสาวผิวสีน้ำผึ้ง มาในปริมาณ 10 กรัม
01 สำหรับผิวขาว
02 สำหรับผิวสองสี





ตัวตลับมาในสีดำเงา สะท้อนแสง ขนาดพอดีมือค่ะ แต่ก็อาจจะเปื้อนรอยนิ้วมือง่ายหน่อย แต่เช็ดออกก็หายแล้วค่ะ


พอเปิดตลับแป้งออกมาก็จะเจอชั้นพัฟก่อนค่ะ สีขาวน่ารัก 


เนื้อของพัฟก็จะ มีความ นุ่มเนียนละเอียดไม่บาดหน้า และมีความยืดหยุ่นด้วยค่ะ


มิ้วลองปาดสีแป้งลงบนข้อมือด้วนการใช้นิ้วมือปาดค่ะ ผลออกมาก็จะเป็นอย่างที่เห็น ว่าสีจะมีความใกล้เคียงกับแขนมาก ซึ่งเป็นผลดีกับสาวผิวสีน้ำผึ้งแบบมิ้วมากๆเลยค่ะ ส่วนรูปที่ปาดที่หลังมือก็ยิ่งเห็นได้ชัดว่าสีใกล้เคียงกันมากเลย แต่ตอนนั้นหลังมือมิ้วแห้งมาก (เพิ่งล้างจานมา) ถ้าซูมใกล้ๆจะเห็นว่าเป็นขุยนิดๆค่ะ






ตอนที่มิ้วใช้ ก็จะทำหน้าให้มีควมชุ่มชื่น หรือทาผลิตภัณฑ์ที่เป็นเนื้อครีม เช่น คอลซิลเลอร์ หรือครีมบลัชลงไปก่อนค่ะ จากนั้นก็ กดแป้งลงบนผิวหน้า ใช้การกดนะคะ จะช่วยให้แป้งติดผิวมากขึ้น โดยเริ่มจากใต้ตาก่อนแล้วเกลี่ยออกไปด้านข้าง จากนั้นทาที่กราม หน้าผาก จมูก แล้วทาที่คอ (ทาที่คอใช้การปาดได้ค่ะ ไม่ซีเรียสเท่าผิวหน้า)


ลักษณะผิว: มันบริเวณ T zone มีรอยคล้ำใต้ตา กระ จุดด่างดำ รูขุมขนกว้างบริเวณหน้าแก้ม
ความรู้สึกตอนทา: รู้สึกว่าแป้งเกลี่ยง่ายมาก ติดผิวดีมากค่ะ ปกปิดได้ดีและเนียนมากเลยค่ะ กลิ่นของแป้งจะมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ไม่ฉุนค่ะ


หลังจากที่มิ้วทาแป้งไปด้านหนึ่งก็เห็นได้ชัดเจนเลยค่ะว่าด้านที่ทาแป้งผิวบริเวณหน้าแก้มดูเนียนกว่าด้านที่ไม่ได้ทา ผิวดูสม่ำเสมอ ไม่เป็นคราบด้วยค่ะ


แล้วที่สำคัญเลยคือ เล่นแสงสวยมากกกกกกกก มาก แบบมากค่ะ ภาพนี้มิ้วถ่ายตอนกลางวันในภายในห้องค่ะ แป้งเล่นแสงได้ดีมากจริงๆ


ลองถ่ายรูปภายใต้แสงต่างๆกันค่ะแล้วก็ทดสอบความติดทนไปด้วย


ให้ภาพเล่าเรื่องนะคะว่าสวยแค่ไหน >\\\< ยิ่งโดนแสงแดด ก็ยิ่งสวยค่ะ 


ลองถ่ายกับไฟวงกลมที่เอาไว้แต่งหน้า ก็ยังสวย และเล่นแสงได้ดีค่ะสีหน้าตรงกับคอ ไม่วอกไม่ลอยเลย


สรุปเลยแล้วกันค่ะ ว่าสวยทุกแสงสมคำเครมจริงๆค่ะ ปลื้มมมมมม



มาพูดถึงความติดทนกันบ้างบอกเลยว่าทำได้ดีเลยทีเดียวค่ะ


มิ้วทดลองแต่งหน้าไปหลายวันเพื่อเอามาเปรียบเทียบกันค่ะ


ส่วนสาวเสื้อแดงนี้ มิ้วทาแป้งตั้งแต่ ตอนเที่ยงแล้วเดินทางจาก กทม. กลับบ้านที่ลพบุรีค่ะ ขุ่นพระ หน้ายังสวยอยู่ แค่ปากหลุดไปเท่านั้นเองค่ะ


รูปนี้มิ้วก็แต่งหน้าเสร็จตอนเที่ยงแล้วไปข้างนอกทำกิจกรรมตลอดทั้งวันอีกเช่นกันค่ะ หน้ายังสวยขนาดนี้ก็ถือว่าไม่ธรรมดาเลย 


สิ่งที่ชอบในแป้ง Rabu Rabu
- เป็นแป้งที่เล่นแสงได้สวยทุกแสงจริงๆค่ะ 
- หลังทาเสร็จผิวดูเนียนจริง รูขุมขนเบลอจริง
- แป้งไม่เป็นคราบ
- ติดทนได้จริงค่ะ (ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิและกิจกรรมของวันนั้นๆด้วย)
- สีแป้งเข้ากับหน้าได้ โดยไม่ต้อง คอนทัวร์ที่กรอบหน้าเลยค่ะ




แป้ง Rabu Rabu เหมาะกับใคร
- เหมาะกับคนที่ชอบถ่ายรูปเซลฟี่ ถ่ายรูปตัวเองบ่อยๆ 
- คนที่ต้องแต่งหน้าทุกวัน ไปเจอฝุ่นควันและมลภาวะ
- คนที่มีรูขุมขนกว้าง สีผิวไม่สม่ำเสมอ
- คนที่มีผิวผสม ไปถึงผิวมัน


คำแนะนำ
- ควรทำผิวหน้าให้ชุ่มชื้นก่อนการลงแป้งค่ะ
- เวลาลงแป้งให้ใช้การกดลงบนผิวแทนการปาดค่ะ แป้งจะได้ติดผิวและไม่เป็นคราบ
- แป้งตัวนี้สามารถทาซ้ำระหว่างวันได้ไม่ทำให้เป็นคราบค่ะ


มิ้วสรุปง่ายๆเลยนะคะว่า แป้ง RABU RABU Photo light compact powder เป็นแป้งที่ทุกคนควรมี ฮ่าๆๆ
แต่คนที่มีผิวแพ้ง่าย ลองสดสอบการแพ้ก่อนนะคะ จได้มันใจว่าเราใช้ได้จริงๆค่ะ



และสำหรับใครที่สนใจอยากมีไว้ในครอบครอง ก็ลองไปส่อง ข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

SHOPEE: พิกัด   https://invol.co/cl299fr

และสามารถสั่งซื้อออนไลน์ได้ที่นี่เลยจ้า 
เขาลดอยู่น้า ราคา 169บาท จาก ปกติ 390 บาทเลยค่ะ รีบนะเดี๋ยวหมดโปร




เป็นอน่างไรบ้างคะ สำหรับการ  รีวิว แป้งพัฟ Rabu Rabu ในวันนี้หวังว่าจะชอบนะคะ อย่าลืมไปลองกันล่ะ สวยทุกแสง ทุกกล้อง ทั้งในจอ และนอกจอเลยค่ะรับรอบ <3