วันจันทร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564

รีวิว น้ำหอม ครีม แอลกอฮอล์ กลิ่นคล้ายๆ Jo Malone English Pear & Freesia ราคาหลักสิบ หลักร้อย ดีงามมาก!! | MG-Review





           สวัสดีค่ะทุกคน หน้าหนาวกลับมาอีกครั้งแล้วนะคะ มิ้วเลยนึกถึงน้ำหอมตัวหนึ่งซึ่งเป็นที่รู้จักและดังมากๆ ของ Jo Malone ที่ชื่อกลิ่น English Pear & Freesia ซึ่งถ้าจะไปซื้อตัวเต็ม อาจจะต้องมีงบสักหน่อย สำหรับคนที่มีงบน้อยอาจจะต้องเก็บเงินนิดนึง แต่รีวิวนี้มิ้วขอมาแนะนำ น้ำหอม ครีมและแอลกอฮอลล์ที่มีกลิ่น คล้ายๆกับ English Pear & Freesia แต่มาในราคาหลักสิบ และหลักร้อยเท่านั้นค่ะ จะมีตัวไหนน่าสนใจบ้างนั้น ไปชมกันเลยค่า






ถ้าพูดถึง Jo Malone English Pear & Freesia คนส่วนใหญ่ก็จะรู้จักกันอยู่แล้วแต่ถ้าใครยังไม่รู้จัก (ซึ่งมิ้วก็ไม่เคยใช้นะคะ เพียงแต่มิ้วพอจับกลิ่นเอกลักษณ์ได้นิดหน่อยค่ะ) ก็จะเป็นกลิ่นที่ดูหอม สดชื่นของลูกแพร์ และมีความหอมหวานของดอกไม้สีขาว และความละมุนของโทนไม้ เรียกได้ว่ามีแทบจะทุกโทนในกลิ่นนี้เลยค่ะ ไม่ฉุน สามารถฉีดได้ทุกวัน และทุกโอกาสเลยค่ะ

CATHY DOLL ไวท์มูนเพอร์ฟูมโลชั่น 150 ML
พิกัด Shopee: https://shp.ee/n98h6tf

ตัวแรกเป็นโลชั่นน้ำหอมจากแบรนด์ CATHY DOLL ค่ะ คอเลคชั่นนี้จะมีอีก 5 กลิ่น รวมกลิ่นนี้เป็น 6 กลิ่น แต่ละกลิ่นจะมีความหอมค้ลายๆน้ำหอมแบรนด์ดังต่างๆค่ะ ส่วนกลิ่น White Moon นี้ ว่ากันว่าเขาให้กลิ่นคล้ายมากกับ Jo Malone English Pear & Freesia ซึ่งพอมิ้วดมแล้วก็รู้สึกว่ากลิ่นนี้หอมจริงๆค่ะ บีบลงที่มือ ทาแล้วกลิ่นค่อนข้างพุ่งเลย หอมลูกแพร์ แบบละมุนๆแต่กลิ่นค่อนข้างกระจายได้ดีค่ะใน 1-2 ชั่วโมงแรก นอกจากจะมีกลิ่นหอมแล้วก็ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ลดริ้วรอย ช่วยให้ผิวกระจ่างใส เนียนนุ่มด้วยค่ะ

ความรู้สึกตอนทาเนื้อลื่นเกลี่ยง่าย ไม่เป็นคราบ ไม่เป็นขุย เนื้อครีมข้นกำลังพอดีค่ะ ไม่เหนียวเหนอะหนะ

ส่วนความติดทน อยู่ในระดับปานกลาง คือ 1-2 ชั่วโมงแรกจะได้กลิ่นดีมาก แต่พอหลังจากนั้น กลิ่นจะไม่ได้พุ่งออกมาแล้วค่ะ แต่ถ้ามาดมที่ผิวกลิ่นจะยังคงหอมติดผิวอยู่ค่ะ

เหมาะกับคนที่ชอบทาครีม นักเรียน นักศึกษาค่ะ


Twelve plus Perfume Mist London Pear 25ml
พิกัด Shopee:  https://shp.ee/z4ki4xf 

ต่อมาคือน้ำหอมหลักสิบ แต่กลิ่นนี้ดูแพงมาก!!! ตัวนี้กลิ่นเขาก็คล้ายกับ Jo Malone English Pear & Freesia แต่เหมือนกลิ่นแพร์จะดูแรงกกว่าตัวอื่นค่ะ มีความแหลมของแพร์ออกมาเลยพอฉีดออกมา ลืมบอกไปว่า นอกจากจะเป็นน้ำหอมฉีดที่ตัวแล้วตัวนี้ก็ฉีดผมได้ด้วยค่ะ มิ้วแนะนำว่าฉีดที่ผมจะทำงานได้ดีกว่า กลิ่นติดทนกว่าฉีดที่ตัวค่ะ 

ตัวสเปรย์ฟุ้งกระจายดีค่ะ เวลาฉีดที่ผมมิ้วจะแบ่งผมตามแนวนอนออกมาครึ่งศรีษะค่ะ แล้วจับผมยกขึ้นมาฉีดสเปรย์ให้ห่างจากผม  30 เซนติเมตร 3 ครั้ง  หรือเราจะฉีดที่หวี แล้วค่อยเอาหวีมาหวีผมก็ได้ค่ะ

ความติดทน ถ้าฉีดที่ตัว จะอยู่ที่ 1-2 ชั่วโมงค่ะ แต่ถ้าฉีดที่ผม จะอยู่ค่อนข้างนาน เกือบทั้งวันเลยค่ะ แต่กลิ่นจะไม่ได้ฟุ้งเท่าตอนแรกค่ะ

เหมาะกับ สาวๆงบประหยัด นักเรียน นักศึกษาค่ะ




MINISO น้ำหอมผู้หญิง รุ่น British Pear Lady Perfume 30 ML.
พิกัด Shopee: https://shp.ee/wgmrxzf

น้ำหอมถูกและดีราคาหลักร้อยต้นๆเท่านั้นค่ะ ของ MINISO ตัวนี้มิ้วไปดูรีวิวจากหลายๆคนมาก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า คล้ายกับ Jo Malone English Pear & Freesia มากๆเหมือนกัน ซึ่งกลิ่นนี้จะชัดกว่า ตัวตะกี้ค่ะ มีความเป็นน้ำหอมชัดดว่า กลิ่นแพร์ไม่แหลมไป พอเวลาผ่านไปสักพักกลิ่นเขาจะดูละมุนขึ้นค่ะ

ตัวขวดคือสวยหรูแพงเกินราคามาก ตัวสเปรย์์ก็ฉีดได้กระจายดีค่ะแต่ไม่ได้กว้างเท่าไหร่ สามารถฉีดหลายๆทีได้แบบไม่ต้องเสียดาย

ความติดทนมิ้วว่าปานกลางค่ะ เคยฉีดออกไปข้างนอก 2-3 ชั่วโมงก็ไม่ได้กลิ่นตัวแล้ว แต่ก็จะมีกลิ่นติดผิวอยู่บ้างนิดหน่อยค่ะ ต้องมาดมใกล้ๆเช่นกัน

เหมาะกับ นักเรียน นักศึกษา คนทำงานต่างๆ เพราะฉีดไปได้ทุกโอกาสค่ะ


Alcohorm สเปรย์แอลกอฮอล์น้ำหอม เข้มข้น 75% 100ml.
พิกัด Shopee:  https://shp.ee/r7z64jf

ต่อมาเปลี่ยนเป็น สเปรย์แอลกอฮอล์กันบ้างค่ะ แบรนนี้อ่านชื่อว่า "แอล กอ หอม" เป็นแบรนด์สเปรย์แอลกอฮอล์ที่ผสมน้ำหอมแบรนด์ดังต่างๆ มีหลายกลิ่นน่าลองมาก แถมมาในราคาหลักสิบเท่านั้นค่ะ ก็คือนอกจากผิวมือ หรือวัตถุที่เราฉีดลงไปจะหอมแล้ว ยังสะอาดปราศจากแบคทีเรีย ไวรัสด้วย เพราะเขามีแอลกอฮอล์ถึง 75% ไปเลย ดูได้จากชื่อแบรนด์ที่ลอกออกไปเพราะความใช้บ่อยนั้นเองค่ะ 

ตัวขวดค่อนข้างมินิมอล สะอาดตา ตัว JM มิ้วเขียนเพิ่มลงไปจะได้ไม่หลงกลิ่นค่ะ เพราะมิ้วมีกลิ่นอื่นอีกขวดนึง ตัวสเปรย์ค่อนข้างกระจายได้เป็นวงกว้างค่ะฉีดกระจายดี ละออง ละเอียดมาก หลังแอลกอฮอล์ระเหยไปจะได้กลิ่นหอมอ่อนๆของ Jo Malone English Pear & Freesia มีความหอมละมุนเบาๆค่ะ

ส่วนความติดทนก็ไม่มาก เพราะเขาเป็นสเปรย์แอลกอฮอล์นั่นเอง แต่ช่วงนี้เราคงได้ฉีดได้บ่อยอยู่แล้ว เพราะต้องทำความสำอาดมือ และสิ่งของต่างๆ ใครทึ่ชอบกลิ่นนี้อยู่แล้ว ลองแอลกอฮอล์แบรนด์นี้ดูค่ะ ต้องชอบแน่นอน

เหมาะกับทุกคนที่ต้องการพกใส่กระเป๋าไปฉีดมือ หรือสิ่งของข้างนอกค่ะ 


น้ำหอม waft blends กลิ่น White freesia
พิกัด Shopee: https://shp.ee/3cz724p  (ลิ้งนี้คือสเปรย์ปรับอากาศค่ะ ลองสั่งดมกลิ่นก่อน ราคาจะถูกกว่าน้ำหอมมากค่ะ) 
IG: https://www.instagram.com/waft.blends/

ตัวสุดท้ายนี้จะราคาแพงสุดในนี้แล้วค่ะ แต่ก็ยังพอซื้อไปลองกันได้อยู่ เพราะกลิ่นเขาหอมจริงๆ หลายๆคนก็บอกว่าคล้าย Jo Malone English Pear & Freesia มากแต่ติดทนกว่า กลิ่นชัดกว่าค่ะ บอกก่อนว่าในรูปเป็นแพคเกจเก่า ไม่ได้ผลิตแล้ว แพคเกจใหม่จะราคาสูงขึ้นกว่านี้มากค่ะ 

ตัวนี้ตอนได้มาฉีดแล้วดมครั้งแรกคือเปิดโลก Jo Malone English Pear & Freesia เลยก็ว่าได้แต่กลับไม่ได้ชอบนะคะตอนฉีดครั้งแรก ฮ่าๆๆ แบบ ใช้หรอ? จริงหรอ? ทำไมเขาชอบกัน? (เพราะมิ้วชอบน้ำหอมแนวผู้ชายมากกว่าอันนี้ดูหวาน ฉุนไปด้วยซ้ำในตอนแรก) แต่ แต่ แต่ พอเวลาผ่านไปสักพัก กลิ่นเขาละมุนขึ้นมากๆค่ะ (มิ้วฉีดที่หลังมือ) เมื่อโดนผิวเราแล้วผ่านไปสักพักนึง กลับกลายเป็นชอบสะงั้นค่ะ เราต้องให้โอกาสกลิ่นเขาทำงานนิดนึง สรุปคือชอบเลย ก็เลยเกิดมาเป็นรีวิวนี้นั่นเองค่ะ คือพยายามหากลิ่นที่คล้ายๆ Jo Malone English Pear & Freesia เอามาเม้าให้ทุกคนฟังนั่นเอง

ความติดทนดีเลยค่ะ อยู่ถึง 5 ชั่วโมงขึ้นไป ฉีดออกจากบ้าน กลับมาบ้านยังได้กลิ่น แถมมีคนทักด้วยว่าใช้น้ำหอมของอะไร สุดจริงค่ะตัวนี้

แบรนด์นี้ทำน้ำหอมออกมาค่อนข้างเข้มข้นดีค่ะตอนฉีดที่ผิวจะดูมันเพราะหัวน้ำหอมเขาเข้มขนจริง หอมลูกแพร์ฉ่ำสุดๆกว่าทั้งหมดที่พูดมา พอเวลาผ่านไป กลิ่นแพร์จะลดลง จะหอมละมุนขึ้นค่ะ แล้วแต่ผิวคนที่ฉีดเข้าไป

เหมาะกับคนช่วงวัยทำงาน ไปเจอผู้ใหญ่ ออกเดท ไปงานสำคัญต่างๆ ได้หมดทุกงานค่ะ ไม่ติด

จัดเรียงตามลำดับต่างๆ


เมื่อจัดเรียงจากราคา น้อยไปมาก แอลกอฮอล์จะราคาถูกที่สุดค่ะ 35 บาท ส่วน น้ำหอมจาก waft blends จะราคาแพงที่สุดในนี้ ตอนนั้นซื้อที่ราคา 3xx บาท แต่ตอนนี้ราคาพุ่งไปแล้ว 750 - 850 บาท ค่ะ



ส่วนเรื่องความติดทนก็ต้องยกให้ waft blends ค่ะ ติดทนที่สุดในที่นี้ ส่วน แอลกอฮอล์จะติดทนน้อยที่สุดนั่นเอง



แล้วถ้าเรียงตามความชอบของมิ้วโดยตรง มิ้วก็ชอบ น้ำหอมจาก waft blends มากที่สุดค่ะ กลิ่นละมุน ติดทน ที่สุดแล้ว ต่อมามิ้วให้ครีมทาตัวเพราะมิ้วชอบกลิ่นนี้ตอนทาครีมมากดูเป็นผู้หญิงสวยๆหวานๆขึ้นมาทันทีค่ะ ส่วนสุดท้ายมิ้วให้ Twelve plus Perfume Mist London Pear เพราะกลิ่นจะเป็นแพร์บางทีก็ฉุนไป แหลมไปค่ะ แถมกลิ่นแอลกอฮอล์จะแรงกว่าตัวอื่นด้วย

คำแนะนำ
- สิ่งที่อยากจะแนนำเลยก็คือ ถ้าใครไม่ชอบกลิ่นในช่วงแรก อย่าเพิ่งตัดสินค่ะ เราต้องลองปล่อยให้เวลาผ่านไปสักนิดนึง ให้แอลกอฮอล์หรือกลิ่นแรกของเขาได้จางลงไปก่อน แล้วมาดมอีกที ชอบหรือไม่ชอบค่อยว่ากันค่ะ
- ถ้าวันไหนอยากได้กลิ่นนี้ให้ติดตัวไปนานๆ แนะนำให้ใช้ครีมทาตัวก่อน จากนั้นก็ฉีดน้ำผอมกลิ่นเดียวกันตามไปได้เลยค่ะ แล้วพอออกไปข้างนอก จับสิ่งของอะไรก็ฉีดด้วยแอลกอฮอล์กลิ่นนี้ตาม รับรองว่าเราจะได้กลิ่นนี้ไปทั้งวันแน่นอนค่ะ


และสุดท้ายนี้อยากบอกว่า ทั้งหมดก็เป็นความคิดส่วนตัวของมิ้วเองค่ะ อาจจะไม่ตรงกับใครก็ขออภัยด้วยนะคะ รีวิวจากคนใช้ของเหล่านี้มาทั้งหมด ด้วยตัวเองค่ะ



สุดท้ายนี้หวังว่าจะได้ประโยชน์จากรีวิวนี้ไม่มากก็น้อยนะคะ ใครอยากลองตัวไหนกดลิ้งเข้าไปซื้อหามาลองกันได้เลยค่ะ ไว้เจอกันใหม่รีวิวหน้า สวัสดีค่ะ



 










 

 
 

วันจันทร์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564

รีวิว คุชชั่น JOVINA เบอร์ 06 Golden Honey สีเข้มแค่ไหน ติดทนนานไหม จากในสาวผิวสีน้ำผึ้ง ผิวผสมค่อนมัน | MG_

JOVINA 
Everyday Perfecting Cushion Long Wear SPF25 PA+++
No. 06 Golden Honey


วัสดีค่ะทุกคน รีวิวนี้ใครที่อยากรู้ว่าสีคุชชั่นเบอร์เข้มสุดของ JOVINA นั้นเป็นอย่างไร เข้มแค่ไหน มิ้วมีเปรียบเทียบกับตัวอื่นด้วยค่ะ แถมมาบอกด้วยว่าผิวอย่างมิ้วนั้นใช้แล้วเป็นอย่างไร รายละเอียดจะเป็นอย่างไรบ้างนั้น ไปชมกันเลยจ้า


มีแบบคลิปให้ดูด้วยนะคะ


JOVINA Everyday Perfecting Cushion Long Wear SPF25 PA+++
No. 06 Golden Honey 
ปริมาณ 15 กรัม ราคา(ปกติ) 690  บาท 
เป็นคุชชั่นกึ่งเนื้อแมท ที่มีคุณสมบัติ ช่วยให้ผิวเรียบเนียน ด้วยเทคโนโลยี Blurring effect ช่วยรักษาสมดุลของน้ำมันด้วย Astragalus membranaceus และใบบัวบกที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ลดการระคายเคืองผิว ผิวดูเล่นแสง ไม่เป็นคราบ แถมมีกันแดด และผิวแพ้ง่าย สามารถใช้ได้ด้วยค่ะ 



ซึ่งรุ่นนี้มีด้วยกันทั้งหมด 6 สีค่ะ
No.01 Creme                  สีขาว อมเหลืองอ่อนๆ
No.02 Light Beige          สีขาว อมเหลืองขึ้นมานิดนึง
No.03 Warm Ivory          สีเนื้ออ่อนๆ
No.04 Natural                 สีเนื้ออ่อนๆ ใกล้เคียงกับ 03 แต่เข้มกว่านิดนึงค่ะ
No.05 Sand                     สีเนื้อเข้มขึ้นมาอีกนิดออกโทนชมพู
No.06 Golden Honey      สีเนื้ออมส้ม อมเหลือง (จะเข้มที่สุดในนี้ค่ะ)


ตลับมีความสวยงามตั้งแต่ด้านบน โลโก้มีความเล่นแสงสวยมากๆ ขอบสีทองอ่อนๆทำให้ดูหรูหราดูแพง กระจกใหญ่พอดี ตลับจะแบนกว่าคุชชั่นทั่วไปค่ะ ด้านล่างตลับเป็นชื่อสีบอกชัดเจน



พอเปิดตัวตลับขึ้นมา (ใช้วิธีการงัดนะคะ ไม่มีตัวให้กดเปิดฝา) ก็จะเจอกับพัฟและกระจก ซึ่งกระจกนี้มันจะมัวๆก่อนตอนแรก เราต้องลอกพลาสติกออกก่อนใช้นะคะ จะได้ชัดเจนขึ้น


ในส่วนของตัวพัฟจะมีความนุ่มฟู เนื้อเป็นออกกำมะหยี่ผสมฟองน้ำนิดๆ (จากความรู้สึกของมิ้วนะคะ) ไม่หนามาก ใช้กับหน้าแล้วไม่บาดผิวค่ะ  แต่ถ้าคนมือใหญ่ๆอาจจะรู้สึกว่ามันเล็กไปนิดนึง แต่สำหรับมิ้วกำลังพอดีค่ะ


พอเปิดฝาคุชชั่นอีกชั้นนึงก็จะเจอแผ่นพลาสติกกั้นไว้ เป็นข้อความและพลังดีๆจากทางแบรนด์ที่หวังจะให้คุชชั่นตัวนี้เป็นไอเท็มที่ทุกคนชอบ :) มีความดีเทลไปอีก 
พอแกะพลาสติกออกก็จะเจอกับตัวฟองน้ำที่เก็บคุชชั่นไว้ มิ้วลองใช้นิ้วจิ้มๆดูคือมันเนื้อนุ่มมาก ยืดหยุ่นๆเหมือนถุงน่อง หรือมัชเมลโล่เลย ฮ่าๆ(เท่าที่มิ้วรู้สึกนะคะ) ต่างจากฟองน้ำคุชชั่นทั่วๆไป รู้สึกว่าตัวนี้จะเก็บเนื้อคุชชั่นได้เยอะกว่าค่ะ 


มาดูที่สีกันบ้างค่ะ จากที่มิ้วลองป้ายกับที่หลังมือดู พบว่าสีเข้ากับหลังมือมิ้วมาก น่าจะเข้ากับสีผิวมิ้วค่ะ พอมาปาดที่ข้อมือซึ่งขาวกว่า ก็จะเห็นว่าเนื้อคุชชั่นค่อนข้างเข้มเลย 
ทีนี้มิ้วมีรองพื้นสีเข้มสุดของ JOVINA พอดี (สี 04) เลยเอามาเปรียบเทียบสักหน่อย ซึ่งพบว่าสีก็ใกล้เคียงกันอยู่ค่ะ แต่ คุชชั่นสีดูอมส้มมากกว่า สีรองพื้นจะดูเหลืองกว่าค่ะ




ต่อมาเปรียบเทียบกับสีรองพื้นสีเข้มที่มิ้วมีอยู่บ้าง สามารถไปดูรีวิวแยกได้นะคะ

รองพื้น JOVINA 04: https://www.youtube.com/watch?v=jcBvltbZ44o&t=239s
รองพื้น ศรีจันทร์ 130: https://www.youtube.com/watch?v=sH9Zn5p_JPA&t=1s
Calella Cream Foundation 03: https://www.youtube.com/watch?v=tq8bMHxKBG4

สังเกตได้ชัดเจนเลยค่ะว่า รองพื้นของ JOVINA 04 เป็นสีที่เข้มสุด รองมาก็คือคุชชั่ช 06 นั่นเอง
ทำให้เห็นว่า JOVINA เป็นอีกแบรนด์ที่กล้าทำงานผิวสีเข้มออกมาเพื่อผิวคนไทย ให้คนไทยได้ใช้กันทั่วถึงไม่ว่าเราจะสีผิวเข้มก็ตามค่ะ เริ่ดมากๆ




สี เนื้อ ตอนทา




สภาพผิวก่อนทา สีน้ำผึ้ง มีรอยคล้ำใต้ตา มีจุดด่างดำ มีผิวผสม ค่อนมัน
ตอนทา เนื้อคุชชั่นมีความเกลี่ยง่าย ไม่เป็นคราบ การปกปิดปานกลาง แต่ใต้ตายังไม่ค่อยจางหายไปเท่าไหร่ ต้องทาคอนซิลเลอร์หรือ รองพื้นสว่างๆเพิ่มเข้าไปอีกชั้นนึงค่ะ
หลังทา ผิวดูสีสม่ำเสมอขึ้น สีอาจจจะเข้มกว่าหน้านิดนึง แต่เข้ากับสีตัวมากค่ะ ผิวดูฉ่ำ แต่ไม่มันเยิ้ม เล่นแสงพอดี ผิวดูเนียนกว่าก่อนทา แต่คนผิวผสม ผิวมันต้องเซทด้วยแป้งเพิ่มค่ะ หน้าจะได้ไม่มันเพิ่ม



ทางมิ้วเลยเพิ่มเนื้อคุชชั่นที่ใต้ตาโดยการใช้นิ้วนางเกลี่ยลงไป เพราะพัฟมันเข้าไม่ค่อยถึงใต้รอบดวงตาเท่าไหร่



ผลที่ได้ก็จะเป็นประมาณนี้ค่ะ สีดูเสม่ำเสมอ เรียบเนียน แต่ดูเข้มกว่าหน้า ผิวดูเล่นแสง ดูไม่แมท ดูชุ่มชื้น ไม่เป็นคราบ


ส่วนรูปนี้จะเป็นอีกวันที่มิ้วใช้คุชชั่นทาทั้งหน้าค่ะ หลังแต่งหน้าเสร็จแล้วลองถ่ายรูปในแสงต่างๆ ทั้งกล้องหน้าและหล้องหลัง (ความเนียนของหน้าจะขึ้นอยู่กับกล้องที่ถ่ายด้วยค่ะ)

โดยรวมแล้วผิวดูสม่ำเสมอ ไม่เป็นคราบ หน้าไม่ลอยไม่วอก สีดูพอดีกับหน้าค่ะ่ หลังแต่งหน้าเสร็จ แต่กล้องหลังจะให้แสงที่จริงมากกว่ากล้องหน้าค่ะ (สีจะดูเข้มจริงค่ะ) แต่หน้าจริงไม่ได้เนียนขนาดนี้นะคะ ยังเห็นรูขุมขนอยู่ แต่ก็ดีกว่าก่อนทาคุชชั่นมากค่ะ 



ส่วนรูปนี้จะเป็นการเปรียบเทียบ ระหว่าง คุชชั่นตัวใหม่ 06 กับรองพื้น 04 ของ Jovina สีเข้มสุดทั้งคู่ค่ะ
ผลที่ได้คือออกมาสีใกล้เคียงกันเลย แต่ ผิวด้านคุชชั่นจะดูฉ่ำกว่า ส่วนด้านรองพื้นจะแมทไม่เงาเท่าค่ะ ส่วนความปกปิด รองพื้นทำได้ดีกว่า นิดนึงค่ะ แต่หลังเซทแป้งและแต่งหน้าเพิ่ม ก็ดูไม่ต่างกันเลย แยกไม่ออกเลยค่ะว่าด้านไหนใช้อะไร





ความติดทน



ความติดทนตคุชชั่นก็ทำได้ดีมากค่ะ ส่วนตัวมิ้วเป็นคนผิวมันปานกลาง จากภาพวันนั้นร้อนมาก เหงื่อออกเยอะ อากาศร้อน หน้ามันนิดหน่อย แต่คุชชั่นก็เอาอยู่ค่ะ 7 ชั่วโมงผ่านไปก็ยังติดอยู่ แต่ส่วนที่เริ่มหลุดไปคือ สันจมูก จากการที่เราใส่หน้ากากค่ะ


ส่วนภาพนี้เป็นอีกวันนึงค่ะ มิ้วทดสอบไปถึง 10 ชั่วโมง แต่วันนั้นอากาศแห้ง เย็นๆ แต่แดดร้อนค่ะ ระหว่างวันไม่เป็นคราบเลย คุชชั่นเข้ากับสีผิวดีมาก เหงื่อ ออกไม่มาก หน้าเลยไม่ค่อยมันเท่าไหร่ มิ้วเลยทดสอบไปถึงชั่วโมงที่ 10 ก่อนจะลบหน้า พบว่า ช่วงสันจมูก และหน้าผาก มีคุชชั่นที่หลุดออกไปจนเห็นได้ชัด แต่ในรูปดูไม่ค่อยออกเพราะสีคุชชั่นใกล้เคียงกับผิวค่ะ ความมันอยู่ที่ปานกลางค่ะสำหรับมิ้ว






ติดหน้ากากไหม


จากภาพเห็นว่ามีคุชชั่นติดออกมาช่วงสันจมูกที่เราต้องถูกับหน้ากากบ่อยๆ ส่วนอื่นไม่ค่อยมีคุชชั่นติดออกมาค่ะ






สิ่งที่ชอบ ในตัวคุชชุ่น
สีเข้มสะใจมากค่ะ
ทาง่ายเกลี่ยงายมาก
หลังทาผิวเล่นแสง ไม่เป็นคราบจริง
พกพาสะดวกจริงประหยัดพื้นที่ไม่ต้องพกรองพื้นขวดแก้วใหญ่ๆหนักไปเลยค่ะ
สำหรับมิ้วใช้แล้วไม่แพ้ค่ะ






คำแนะนำ
มิ้วว่าใครใต้ตาคล้ำแบบมิ้ว ต้องเพิ่มคอนซิลเลอร์ที่ใต้ตาหน่อยค่ะถึงจะเริ่ด
ผิวมันหลังทาคุชชั่น ควรเซทด้วยแป้งฝุ่นหน้าจะได้ไม่มันเกินค่ะ
ใครที่สีผิวแทน หรือเข้มกว่ามิ้ว หลังใช้คุชชั่นตัวนี้ อาจจะต้องคอนทัวร์เพิ่มที่กรอบหน้า หน้าจะได้ดูมีมิติมากขึ้นค่ะ
ก่อนซื้อใครที่ยังไม่มั่นใจว่าเราควรใช้สีไหน ก็ลองสอบถามแอดมินได้ค่ะ จะได้คุชชั่นตรงสีกับเรามากที่สุด





คุชชั่น JOVINA เหมาะกับใคร
คนที่มีผิวแพ้ง่าย
คนที่มีสีผิวเข้ม
ใช้ได้ทั้งผิวมัน และผิวแห้ง
คนที่อยู่ในวัยทำงาน หรือพอมีงบ และต้องการความรวดเร็วในการแต่งหน้า





คนที่ใช้ของถูกและดีควรมีไหม
มิ้วคิดว่าเป็นอะไรที่น่าลองค่ะ คนที่เป็นนักเรียน นักศึกษา หรือสาวงบน้อย เราอาจจะเก็บตังดูแล้วสั่งมาลองก่อนได้ค่ะ มิ้วคิดว่าเป็นคุชชั่นอีกตัวที่น่าใช้น่าลอง และคุ้มค่ากับผลที่ได้มากค่ะ 


และใครที่สนใจ อยากลองคุชชั่น JOVINA ก็สามารถไปสั่งซื้อได้เลยค่ะที่

พิกัด สั่งซื้อ

หรือถ้าอยากจะสอบถามแอดมินเรื่องสี หรือสั่งซื้อสินค้าตัวอื่น ก็สามารถเข้าไปดูได้ที่
IG:                   https://www.instagram.com/jovina.cosmetics/
LINE@:           https://lin.ee/mnxvVNE


สุดท้ายนี้ก็หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์ และชอบกันนะคะ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันค่า ไว้เจอกันรีวิวหน้านะคะ สวัสดีค่ะ