แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ คุมมัน แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ คุมมัน แสดงบทความทั้งหมด

วันจันทร์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564

รีวิว คุชชั่น JOVINA เบอร์ 06 Golden Honey สีเข้มแค่ไหน ติดทนนานไหม จากในสาวผิวสีน้ำผึ้ง ผิวผสมค่อนมัน | MG_

JOVINA 
Everyday Perfecting Cushion Long Wear SPF25 PA+++
No. 06 Golden Honey


วัสดีค่ะทุกคน รีวิวนี้ใครที่อยากรู้ว่าสีคุชชั่นเบอร์เข้มสุดของ JOVINA นั้นเป็นอย่างไร เข้มแค่ไหน มิ้วมีเปรียบเทียบกับตัวอื่นด้วยค่ะ แถมมาบอกด้วยว่าผิวอย่างมิ้วนั้นใช้แล้วเป็นอย่างไร รายละเอียดจะเป็นอย่างไรบ้างนั้น ไปชมกันเลยจ้า


มีแบบคลิปให้ดูด้วยนะคะ


JOVINA Everyday Perfecting Cushion Long Wear SPF25 PA+++
No. 06 Golden Honey 
ปริมาณ 15 กรัม ราคา(ปกติ) 690  บาท 
เป็นคุชชั่นกึ่งเนื้อแมท ที่มีคุณสมบัติ ช่วยให้ผิวเรียบเนียน ด้วยเทคโนโลยี Blurring effect ช่วยรักษาสมดุลของน้ำมันด้วย Astragalus membranaceus และใบบัวบกที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ลดการระคายเคืองผิว ผิวดูเล่นแสง ไม่เป็นคราบ แถมมีกันแดด และผิวแพ้ง่าย สามารถใช้ได้ด้วยค่ะ 



ซึ่งรุ่นนี้มีด้วยกันทั้งหมด 6 สีค่ะ
No.01 Creme                  สีขาว อมเหลืองอ่อนๆ
No.02 Light Beige          สีขาว อมเหลืองขึ้นมานิดนึง
No.03 Warm Ivory          สีเนื้ออ่อนๆ
No.04 Natural                 สีเนื้ออ่อนๆ ใกล้เคียงกับ 03 แต่เข้มกว่านิดนึงค่ะ
No.05 Sand                     สีเนื้อเข้มขึ้นมาอีกนิดออกโทนชมพู
No.06 Golden Honey      สีเนื้ออมส้ม อมเหลือง (จะเข้มที่สุดในนี้ค่ะ)


ตลับมีความสวยงามตั้งแต่ด้านบน โลโก้มีความเล่นแสงสวยมากๆ ขอบสีทองอ่อนๆทำให้ดูหรูหราดูแพง กระจกใหญ่พอดี ตลับจะแบนกว่าคุชชั่นทั่วไปค่ะ ด้านล่างตลับเป็นชื่อสีบอกชัดเจน



พอเปิดตัวตลับขึ้นมา (ใช้วิธีการงัดนะคะ ไม่มีตัวให้กดเปิดฝา) ก็จะเจอกับพัฟและกระจก ซึ่งกระจกนี้มันจะมัวๆก่อนตอนแรก เราต้องลอกพลาสติกออกก่อนใช้นะคะ จะได้ชัดเจนขึ้น


ในส่วนของตัวพัฟจะมีความนุ่มฟู เนื้อเป็นออกกำมะหยี่ผสมฟองน้ำนิดๆ (จากความรู้สึกของมิ้วนะคะ) ไม่หนามาก ใช้กับหน้าแล้วไม่บาดผิวค่ะ  แต่ถ้าคนมือใหญ่ๆอาจจะรู้สึกว่ามันเล็กไปนิดนึง แต่สำหรับมิ้วกำลังพอดีค่ะ


พอเปิดฝาคุชชั่นอีกชั้นนึงก็จะเจอแผ่นพลาสติกกั้นไว้ เป็นข้อความและพลังดีๆจากทางแบรนด์ที่หวังจะให้คุชชั่นตัวนี้เป็นไอเท็มที่ทุกคนชอบ :) มีความดีเทลไปอีก 
พอแกะพลาสติกออกก็จะเจอกับตัวฟองน้ำที่เก็บคุชชั่นไว้ มิ้วลองใช้นิ้วจิ้มๆดูคือมันเนื้อนุ่มมาก ยืดหยุ่นๆเหมือนถุงน่อง หรือมัชเมลโล่เลย ฮ่าๆ(เท่าที่มิ้วรู้สึกนะคะ) ต่างจากฟองน้ำคุชชั่นทั่วๆไป รู้สึกว่าตัวนี้จะเก็บเนื้อคุชชั่นได้เยอะกว่าค่ะ 


มาดูที่สีกันบ้างค่ะ จากที่มิ้วลองป้ายกับที่หลังมือดู พบว่าสีเข้ากับหลังมือมิ้วมาก น่าจะเข้ากับสีผิวมิ้วค่ะ พอมาปาดที่ข้อมือซึ่งขาวกว่า ก็จะเห็นว่าเนื้อคุชชั่นค่อนข้างเข้มเลย 
ทีนี้มิ้วมีรองพื้นสีเข้มสุดของ JOVINA พอดี (สี 04) เลยเอามาเปรียบเทียบสักหน่อย ซึ่งพบว่าสีก็ใกล้เคียงกันอยู่ค่ะ แต่ คุชชั่นสีดูอมส้มมากกว่า สีรองพื้นจะดูเหลืองกว่าค่ะ




ต่อมาเปรียบเทียบกับสีรองพื้นสีเข้มที่มิ้วมีอยู่บ้าง สามารถไปดูรีวิวแยกได้นะคะ

รองพื้น JOVINA 04: https://www.youtube.com/watch?v=jcBvltbZ44o&t=239s
รองพื้น ศรีจันทร์ 130: https://www.youtube.com/watch?v=sH9Zn5p_JPA&t=1s
Calella Cream Foundation 03: https://www.youtube.com/watch?v=tq8bMHxKBG4

สังเกตได้ชัดเจนเลยค่ะว่า รองพื้นของ JOVINA 04 เป็นสีที่เข้มสุด รองมาก็คือคุชชั่ช 06 นั่นเอง
ทำให้เห็นว่า JOVINA เป็นอีกแบรนด์ที่กล้าทำงานผิวสีเข้มออกมาเพื่อผิวคนไทย ให้คนไทยได้ใช้กันทั่วถึงไม่ว่าเราจะสีผิวเข้มก็ตามค่ะ เริ่ดมากๆ




สี เนื้อ ตอนทา




สภาพผิวก่อนทา สีน้ำผึ้ง มีรอยคล้ำใต้ตา มีจุดด่างดำ มีผิวผสม ค่อนมัน
ตอนทา เนื้อคุชชั่นมีความเกลี่ยง่าย ไม่เป็นคราบ การปกปิดปานกลาง แต่ใต้ตายังไม่ค่อยจางหายไปเท่าไหร่ ต้องทาคอนซิลเลอร์หรือ รองพื้นสว่างๆเพิ่มเข้าไปอีกชั้นนึงค่ะ
หลังทา ผิวดูสีสม่ำเสมอขึ้น สีอาจจจะเข้มกว่าหน้านิดนึง แต่เข้ากับสีตัวมากค่ะ ผิวดูฉ่ำ แต่ไม่มันเยิ้ม เล่นแสงพอดี ผิวดูเนียนกว่าก่อนทา แต่คนผิวผสม ผิวมันต้องเซทด้วยแป้งเพิ่มค่ะ หน้าจะได้ไม่มันเพิ่ม



ทางมิ้วเลยเพิ่มเนื้อคุชชั่นที่ใต้ตาโดยการใช้นิ้วนางเกลี่ยลงไป เพราะพัฟมันเข้าไม่ค่อยถึงใต้รอบดวงตาเท่าไหร่



ผลที่ได้ก็จะเป็นประมาณนี้ค่ะ สีดูเสม่ำเสมอ เรียบเนียน แต่ดูเข้มกว่าหน้า ผิวดูเล่นแสง ดูไม่แมท ดูชุ่มชื้น ไม่เป็นคราบ


ส่วนรูปนี้จะเป็นอีกวันที่มิ้วใช้คุชชั่นทาทั้งหน้าค่ะ หลังแต่งหน้าเสร็จแล้วลองถ่ายรูปในแสงต่างๆ ทั้งกล้องหน้าและหล้องหลัง (ความเนียนของหน้าจะขึ้นอยู่กับกล้องที่ถ่ายด้วยค่ะ)

โดยรวมแล้วผิวดูสม่ำเสมอ ไม่เป็นคราบ หน้าไม่ลอยไม่วอก สีดูพอดีกับหน้าค่ะ่ หลังแต่งหน้าเสร็จ แต่กล้องหลังจะให้แสงที่จริงมากกว่ากล้องหน้าค่ะ (สีจะดูเข้มจริงค่ะ) แต่หน้าจริงไม่ได้เนียนขนาดนี้นะคะ ยังเห็นรูขุมขนอยู่ แต่ก็ดีกว่าก่อนทาคุชชั่นมากค่ะ 



ส่วนรูปนี้จะเป็นการเปรียบเทียบ ระหว่าง คุชชั่นตัวใหม่ 06 กับรองพื้น 04 ของ Jovina สีเข้มสุดทั้งคู่ค่ะ
ผลที่ได้คือออกมาสีใกล้เคียงกันเลย แต่ ผิวด้านคุชชั่นจะดูฉ่ำกว่า ส่วนด้านรองพื้นจะแมทไม่เงาเท่าค่ะ ส่วนความปกปิด รองพื้นทำได้ดีกว่า นิดนึงค่ะ แต่หลังเซทแป้งและแต่งหน้าเพิ่ม ก็ดูไม่ต่างกันเลย แยกไม่ออกเลยค่ะว่าด้านไหนใช้อะไร





ความติดทน



ความติดทนตคุชชั่นก็ทำได้ดีมากค่ะ ส่วนตัวมิ้วเป็นคนผิวมันปานกลาง จากภาพวันนั้นร้อนมาก เหงื่อออกเยอะ อากาศร้อน หน้ามันนิดหน่อย แต่คุชชั่นก็เอาอยู่ค่ะ 7 ชั่วโมงผ่านไปก็ยังติดอยู่ แต่ส่วนที่เริ่มหลุดไปคือ สันจมูก จากการที่เราใส่หน้ากากค่ะ


ส่วนภาพนี้เป็นอีกวันนึงค่ะ มิ้วทดสอบไปถึง 10 ชั่วโมง แต่วันนั้นอากาศแห้ง เย็นๆ แต่แดดร้อนค่ะ ระหว่างวันไม่เป็นคราบเลย คุชชั่นเข้ากับสีผิวดีมาก เหงื่อ ออกไม่มาก หน้าเลยไม่ค่อยมันเท่าไหร่ มิ้วเลยทดสอบไปถึงชั่วโมงที่ 10 ก่อนจะลบหน้า พบว่า ช่วงสันจมูก และหน้าผาก มีคุชชั่นที่หลุดออกไปจนเห็นได้ชัด แต่ในรูปดูไม่ค่อยออกเพราะสีคุชชั่นใกล้เคียงกับผิวค่ะ ความมันอยู่ที่ปานกลางค่ะสำหรับมิ้ว






ติดหน้ากากไหม


จากภาพเห็นว่ามีคุชชั่นติดออกมาช่วงสันจมูกที่เราต้องถูกับหน้ากากบ่อยๆ ส่วนอื่นไม่ค่อยมีคุชชั่นติดออกมาค่ะ






สิ่งที่ชอบ ในตัวคุชชุ่น
สีเข้มสะใจมากค่ะ
ทาง่ายเกลี่ยงายมาก
หลังทาผิวเล่นแสง ไม่เป็นคราบจริง
พกพาสะดวกจริงประหยัดพื้นที่ไม่ต้องพกรองพื้นขวดแก้วใหญ่ๆหนักไปเลยค่ะ
สำหรับมิ้วใช้แล้วไม่แพ้ค่ะ






คำแนะนำ
มิ้วว่าใครใต้ตาคล้ำแบบมิ้ว ต้องเพิ่มคอนซิลเลอร์ที่ใต้ตาหน่อยค่ะถึงจะเริ่ด
ผิวมันหลังทาคุชชั่น ควรเซทด้วยแป้งฝุ่นหน้าจะได้ไม่มันเกินค่ะ
ใครที่สีผิวแทน หรือเข้มกว่ามิ้ว หลังใช้คุชชั่นตัวนี้ อาจจะต้องคอนทัวร์เพิ่มที่กรอบหน้า หน้าจะได้ดูมีมิติมากขึ้นค่ะ
ก่อนซื้อใครที่ยังไม่มั่นใจว่าเราควรใช้สีไหน ก็ลองสอบถามแอดมินได้ค่ะ จะได้คุชชั่นตรงสีกับเรามากที่สุด





คุชชั่น JOVINA เหมาะกับใคร
คนที่มีผิวแพ้ง่าย
คนที่มีสีผิวเข้ม
ใช้ได้ทั้งผิวมัน และผิวแห้ง
คนที่อยู่ในวัยทำงาน หรือพอมีงบ และต้องการความรวดเร็วในการแต่งหน้า





คนที่ใช้ของถูกและดีควรมีไหม
มิ้วคิดว่าเป็นอะไรที่น่าลองค่ะ คนที่เป็นนักเรียน นักศึกษา หรือสาวงบน้อย เราอาจจะเก็บตังดูแล้วสั่งมาลองก่อนได้ค่ะ มิ้วคิดว่าเป็นคุชชั่นอีกตัวที่น่าใช้น่าลอง และคุ้มค่ากับผลที่ได้มากค่ะ 


และใครที่สนใจ อยากลองคุชชั่น JOVINA ก็สามารถไปสั่งซื้อได้เลยค่ะที่

พิกัด สั่งซื้อ

หรือถ้าอยากจะสอบถามแอดมินเรื่องสี หรือสั่งซื้อสินค้าตัวอื่น ก็สามารถเข้าไปดูได้ที่
IG:                   https://www.instagram.com/jovina.cosmetics/
LINE@:           https://lin.ee/mnxvVNE


สุดท้ายนี้ก็หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์ และชอบกันนะคะ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันค่า ไว้เจอกันรีวิวหน้านะคะ สวัสดีค่ะ






























วันพฤหัสบดีที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2563

[ลองของ] sasi MOUSSE MELLOW แป้งเบลอผิว คุมมันได้ จริงดิ??? | MG-Review

 SASI

MOUSSE MELLOW 

Foundation Powder

สวัสดีค่ะทุกคน รีวิวนี้มิ้วจะมาท้าพิสูจน์ แป้งตัวใหม่ของ sasi ที่มีชื่อว่า MOUSSE MELLOW Foundation Powder ที่เขาร่ำลือกันว่า เป็นแป้งที่ช่วยเบลอผิวรูขุมขน ทั้งยังช่วยคุมมันได้ยาวนานถึง 12 ชั่วโมงอีกด้วย เครมแรงขนาดนี้ต้องมาลองดูกันแล้วค่ะว่าจะจริงอย่างที่ว่ามาหรือไม่ มิ้วใช้แล้วจะเป็นอย่างไร รายละเอียดจะเป็นอย่างไรบ้างนั้น ไปชมกันเลยค่า


แป้ง sasi MOUSSE MELLOW Foundation Powder เป็นทั้งแป้งพัฟคุมมัน แป้งเบลอผิว แป้งเบลอรูขุมขน ตัวใหม่ล่าสุดจาก sasi ที่มีคุณสมบัติ Magic Blur Powder ช่วยเบลอรูขุมขน และผิวหน้าให้ดูเรียบเนียน สวย รวมไปถึงมีเทคโนโลยี Oil Catcher Technology ที่ช่วยควบคุมความมันได้ยาวนานถึง 12 ชั่วโมง อีกด้วยค่ะ นอกจากนี้ยังมี วิตามัน E ที่ไม่ทำให้หน้าแห้ง และ SPF30 PA+++ ช่วยให้หน้าเนียนสวยตลอดวันด้วยค่ะ

แล้วแป้งตัวนี้เขาก็ยังบอกอีกว่าไม่มี แอลกอฮอล์ และพาราเบนด้วย คนผิวแพ้ง่ายใช้ได้เลยค่ะ


ตัวกล่อง


ตัวกล่อง มาในกล่องกระดาษสีชมพูขาว ลายน่ารักมากๆค่ะ 


ด้านหน้าเป็นชื่อแบรนด์ ด้านหลังจะมีสรรพคุณ วิธีใช้ สถานที่ผลิต ช่องทางการติดต่อ
และมาในปริมาณ 8.5 กรัม ราคา 159 บาท


ด้านฝากล่องจะเป็นชื่อสี ซึ่งสีที่มิ้วได้มาก็คือ 03 Honey ค่ะ ส่วนด้านข้างของกล่องอีกด้านหนึ่งก็จะบอกเอาไว้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่ทดลองในสัตว์ด้วย ดีงามมากๆเลย


ตัวตลับและสีแป้ง


ตัวตลับก็จะเป็นสีชมพูเนื้อด้านค่ะน่ารักมาก ขนาดเท่าฝ่ามือมิ้ว ไม่เล็ก ไม่ใหญ่เกินไปพกพาใส่กระเป๋าไปได้สบายๆ 


สีที่มิ้วได้มาก็จะเป็นเบอร์เข้มสุดของรุ่นนี้ก็คือเบอร์ 03 Honey ซึ่งเหมาะกับคนผิวสีน้ำผึ้ง ผิวเข้ม
เบอร์ 01 Vanilla วานิลลา เหมาะสำหรับสาวผิวขาว
เบอร์ 02 Late ลาเต้ สำหรับสาวผิวสองสีไปจนถึง ผิวกลาง


ตัวตลับด้านล่างจะมีรูระบายอากาศช่วยให้พัฟไม่อับชื้นอีกด้วยค่ะ


โดยตัวตลับจะแบ่งเป็น 2 ชั้น เปิดมาชั้นแรกจะเป็นเนื้อแป้ง มาพร้อมกระจก ที่ส่องได้พอดีหน้าค่ะ ไม่เล็กไม่ใหญ่ไป พอเปิดออกมาอีกชั้นก็จะเห็นพัฟสีขาวน่ารักนอนอยู่ในนั้นค่ะ


พัฟก็จะมีความแน่นแต่นุ่มน่ารัก เหมือนเนื้อมัชเมลโล่ ขนมที่เราคุ้นชื่อกันเลย มีความยืดหยุ่นดี แต่ไม่ได้หนามากค่ะ

ลักษณะ เนื้อ สี กลิ่น


เนื้อแป้งมีความละเอียดมาก สีไปในโทนเหลืองผิวคนไทย แถมมีกลิ่นหอมขนมนิดๆด้วยค่ะ ตอนแตะเนื้อแป้งออกมาก็ไม่ค่อยมีฝุ่นแป้งร่วงให้เป็นเลยทางแบรนด์น่าจะอัดแป้งมาค่อนข้างแน่นค่ะ ถือเป็นอะไรที่ดีมาก


หลังจากที่มิ้วลองใช้พัฟกดๆลงไปที่หลังมือก็พบว่าผิวด้านที่ทาดูละเอียดขึ้น และกระจ่างใสมากขึ้นกว่าด้านที่ยังไม่ได้ทาค่ะ สีออกแนวโทนเหลืองๆไม่ทำให้ผิวของมิ้วเทาแต่อย่างใด แถมยังกลบสีเส้นเลือดของมิ้วได้ดีเลยทีเดียว

ยิ่งลองทาที่หลังมือความแตกต่างก็จะชัดเจนยิ่งขึ้นค่ะ  มิ้วลองแบ่งฝั่งด้วยการเขียนอายไลน์เนอร์สีดำ จะเห็นได้ว่า ฝั่งที่ทาผิวดูกระจ่างใสขึ้นมาเลย ดูเรียบเนียนกว่าด้านที่ไม่ได้ทา แต่ความปกปิดนั้นจะบางเบา หรือสีของอายไลน์เนอร์อาจจะเข้มเกินกว่าที่แป้งจะปกปิดได้ค่ะ


ลองทาดูบนใบหน้า

ลักษณะผิว : ผิวผสมค่อนไปทางมันบริเวณ คาง จมูก หน้าผาก ผิวไม่แพ้ง่าย

บริเวณที่มีปัญหา : รอยคล้ำใต้ตา รอยกระ จุดด่างดำ


เวลาที่มิ้วใช้ ก็จะใช้หลังจากที่ทาสกินแคร์แล้วค่ะ โดยในรูปมิ้วจะแบ่งฝั่งก็คือจะมีด้านที่ ทาคอลซิลเลอร์(ที่ตาซ้ายก็คือด้านที่มิ้วถือแป้ง) แล้วก็ด้านที่ไม่ทาอะไรเลยค่ะ เปรียบเทียบกัน  


มิ้วก็จะกดแป้งออกมาจากตลับ แล้วกดซับไปที่ใต้ตาก่อนอันดับแรก เกลี่ยออกไปด้านข้างค่ะ เพราะการกดซับจะทำให้เนื้อแป้งติดผิวของเรามากกว่าการปาดๆไปนั่นเอง 
จากนั้นก็มาทาที่หน้าแก้ม คาง และหน้าผาก แล้วก็มาทาที่คอค่ะ สีผิวจะได้เท่ากันทั้งใบหน้าและคอนั่นเอง




หลังทาเสร็จแล้วก็จะเห็นได้ชัดเลยค่ะว่าฝั่งที่ทาแล้วหน้าดูแมทมากแต่ก็ดูไม่แห้งจนเป็นขุย เมื่อเทียบกับด้านที่ไม่ได้ทา ผิวดูเรียบเนียนขึ้นผิวดูสม่ำเสมอมากขึ้น กระจ่างใสมากขึ้น และที่สำคัญหน้าก็ไม่เป็นคราบด้วยค่ะ


เมื่อแต่งหน้าเสร็จแล้วก็จะได้เป็นประมาณนี้เลยค่ะ แต่งหน้าง่ายขึ้น ไม่เป็นคราบไม่เป็นขุยอีกด้วย


ส่วนความปกปิดก็อยู่ในระดับปานกลาง สามารถกดแป้งทาซ้ำได้ในบริเวณที่ต้องการปกปิดเป็นพิเศษโดยที่ไม่ดูหนาเกินไปค่ะ


นอกจากนี้มิ้วก็ได้ลองใช้ sasi MOUSSE MELLOW Foundation Powder ในแต่ละวันแต่งออกมาได้หลายลุคเลย แถมยังออกไปทำกิจกรรมทดสอบประสิทธิภาพของแป้งกันอีกด้วย ไปดูดีกว่าว่ามิ้วไปไหนมาบ้าง




วันที่1 มิ้วทาแป้ง sasi MOUSSE MELLOW แล้วพาทุกคนไปทำบุญที่ศาลพระกาฬ และทำบุญโลงศพให้ศพไร้ญาติ ที่มูลนิธิ ในตัวเมืองลพบุรีค่ะ อากาศมวันนั้นก็คือร้อนสมใจอยากเลยจะได้ทำสอบได้ดี หลังจากทำบุญเสร็จก็กลับบ้านมาแล้วพบว่าหน้าก็ยังอยู่เหมือนเดิม แต่มีความมันขึ้นมานิดนึงค่ะ


วันที่ 2 มิ้วใช้แป้ง sasi MOUSSE MELLOW แล้วไปตลาดนัดค่ะ ไปช่วงเย็น แต่ว่าทาแป้งตั้งแต่เช้าแล้ว ดูสิขนาดตอนเย็นแล้วแดดยังร้อนอยู่เลย ฮ่าๆ แต่หน้าก็ยังสวยสู้แสงแดดอยู่นะคะ



วันที่ 3 มิ้วใช้แป้ง sasi MOUSSE MELLOW ไปตลาดอีกเช่นเคย แต่ครั้งนี้ไปตอนกลางวันค่ะ แดดเปรี้งเลยนี่แหละ หน้าก็สวยสู้แสงตอดทั้งวัน


จากนั้นก็ไปทำกิจกรรมตลอดทั้งวันค่ะ หลังจากผ่านไป 12 ชั่วโมง แบบไม่ซับหน้าเลย ผลที่ได้ก็จะออกมาเป็นประมาณนี้ค่ะ สีปากเริ่มหายไปแล้ว แต่ผิวหน้ายังมีแป้งติดอยู่(แต่ตรงช่วงจมูก คางหน้าผากแป้งจะเริ่มหายไปแล้ว) ความมันมีขึ้นมาแต่ยังอยู่ในระดับที่ไม่ได้มันเยิ้ม กำลังฉ่ำๆผิวค่ะ (อากาศตอนเย็นครึ้มฟ้าครึ้มฝนด้วยเลยไม่ร้อนเท่าไหร่) ผิวหน้ายังดูเรียบเนียนอยู่ด้วย




สรุปได้ว่า สิ่งที่มิ้วชอบใน แป้ง sasi MOUSSE MELLOW ตัวนี้ก็คือ

1. แพคเกจเป็นเนื้อด้าน ทำให้ไม่เกิดรอยนิ้วมือได้ง่าย เริ่ด!

2. เนื้อแป้งทาง่าย เกลี่ยง่าย ไม่เป็นคราบ

3.หลังทาทำให้ผิวเรียบเนียน และเบลอผิวได้จริง

4. ความคุมความมันได้จริง (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศของวันนั้นๆด้วย)

5. หลังทาแป้งหน้าดูแมทแต่ผิวไม่แห้งจริงค่ะ

6. คนที่แพ้แอลกอฮอล์  หรือ พาราเบนก็ใช้ได้

คำแนะนำ

1. ก่อนทาแป้งควรฉีดสเปรย์น้ไแร่เพื่อทำให้หน้าชุ่มชื้นก่อน จะทาแป้งติดผิวดีค่ะ

2. ถ้าอยากปกปิดมากกว่านี้ควรใช้คอลซิลเลอร์ทาไปก่อนแล้วค่อยกดซับด้วยแป้งค่ะ


แป้ง sasi MOUSSE MELLOW Foundation Powder เหมาะกับใคร

1. นักเรียนนักศึกษา มือใหม่ที่อยากลองแต่งหน้า เพราะมาในราคาเพียง 159 บาทเท่านั้น

2. คนที่แพ้แอลกอฮอล์ พาราเบน

3. คนที่มีผิวหน้ามัน

4. คนที่แต่งหน้าบ่อยๆ แต่ไม่อยากใช้ของแพง 

5.คนที่ต้องออกจากบ้านไปเจอแสงแดด เพราะแป้งตัวนี้ก็มีกันแดด SPF30 PA+++ เลยค่ะ


เนี่ยยยยยย เป็นยังไงกันบ้างคะ กับการ  รีวิว แป้งพัฟศศิ MOUSSE MELLOW Foundation Powder ตัวนี้ หวังว่าจะชอบและหลงรักแบบมิ้วนะคะ ควรมีมากๆเพราะมาในราคาที่ไม่แพงเลย แค่ 159 บาทเท่านั้น เป็นเริ่ด!! ถ้าใครสนใจอยากได้รีวิว หรือข้อมูลเพิ่มเติมก็สามารถสอบถามได้ที่ 

Website : https://www.sasicosmetics.com/th
Facebook : https://www.facebook.com/sasidiary/

สามารถหาซื้อได้ที่ EVEANDBOY, Watsons, Beautrium และร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศ
SHOPEE: https://invol.co/cl29j29
หรือช้อปออนไลน์ได้ที่ https://www.sasicosmetics.com/th