แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ออร่า แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ออร่า แสดงบทความทั้งหมด

วันพฤหัสบดีที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2562

ผิวออร่ากระจ่างใสใน 2 สัปดาห์ ด้วย Ridella Skincare

Ridella Skincare


สวัสดีค่าทุกคน รีวิวนี้ใครที่อยากมีผิวออร่ากระจ่างใสสวยจบครบในแบรนด์เดียวมิ้วก็มีสกินแคร์แบรนด์ หนึ่งมาแนะนำ จะบอกว่ามีความดีงามมากๆ ผิวดีขึ้นจนรู้สึกได้ภายใน 2 อาทิย์เลยค่ะ จะมีรายละเอียดอย่างไรบ้างนั้น ไปชมกันเลยจร้า


สกินแคร์ที่มิ้วพูจถึงนี่ก็คือแบรนด์ Ridella นั่นเองค่ะ มิ้วได้ลองใช้อยู่ 2 ตัว นั่นก็คือ
1. Ridella Advanced Formula White Aura Serum 
2. Ridella Silky Smooth Sunguard Mousse SPF50/PA+++

ซึ่งแต่ละตัวก็มีคุณสมบัติในการบำรุงผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพเลยค่ะ

เรามาดูกันที่ตัว เซรั่มกันก่อนเลยจ้า

Ridella Advanced Formula White Aura Serum 


เป็นเซรั่มที่ช่วยในเรื่องของปัญหาผิวได้ดีค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องริ้วรอย ผิวหมอง แห้ง หน้าหยาบกร้าน ฝ้า กระ จุดด่างดำต่างๆนั่นเองค่ะ เพราะมีส่วนผสมที่บำรุงผิวมากมายไม่ว่าจะเป็น

Camu Camu
ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระมากกว่า ส้มถึง 30 เท่า

Hyaluron (ซึ่งเล็กกว่า ไฮยารูลอนปกติถึง 100 เท่า)
ช่วยให้ความชุ่มชื้น ยาวนาน 72 ชั่วโมง

อัลฟา อะบูติน
ช่วยยับยั้งการเกิดฝ้าและจุดด่างดำ

โปรติเอส
ช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน ไม่ทำให้ผิวบาง

ไวตามินซี
ช่วยให้ผิวขาวกระจา่งใส

รกกุหลาบ (สารสกัดสเต็มเซลจาก “รก” กุหลาบสายพันธุ์ Rosa Damascena หรือที่เรียกกันว่า Damask Rose)
ช่วยในการผลัดเซลล์ผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ให้ผิวมีความยืดหยุ่น และมีความชุ่มชื่น

เพนตาวิทิน
ช่วยลดผิวที่หยาบกร้าน และปกป้องจากการสูญเสียน้ำ

Niacinamide
ช่วยให้ผิวกระจ่างใสเทียบเทาไฮโดรควินโนน ไม่ทพำให้ระคายเคืองผิว





ตัวกล่องก็มาในสีเงิน สวยหรูดูแพง ผู้ดีมากๆเลยค่ะ ด้านหลังจะเป็น สรรพคุณ และวิธีใช้ ด้านข้างจะเป็นส่วนผสม ส่วนประกอบต่างๆค่ะ


เมื่อเปิดกล่องออกมาก็จะพบกับขวดของเซรั่มค่ะ ซึ่งขวดเซรั่มจะมาเป็นขวดแก้วทึบแสงสีน้ำเงิน ส่วนตรงฝาจะเป็นแบบหัวหลอดหยดเพื่อง่ายต่อารใช้งานค่ะ



ในส่วนเนื้อของเซรั่มนั้น จะออกสีขาวขุ่นนิดค่ะ เมื่อหยดลงบนหลังมือ ก็จะเห็นว่าเนื้อมีความเหลวแต่ไม่ข้นมากนัก กลิ่นหอมกำลังดีค่ะ ไม่ฉุนเลย เมื่อทาเสร็จแล้วผิวไม่แห้ง ดูชุ่มชื้นขึ้นกว่าก่อนทา แล้วก็ไม่เหนียวเหนอะหนะเลยค่ะ



มิ้วจะใช้เซรั่มหลังจากที่อาบน้ำเสร็จค่ะ มิ้วจะบีบหลอดหยดออกมาจากขวด แล้วบีบลงบนฝ่ามือเพียงแค่ครึ่งปั๊มเท่านั้นก็ทั่วหน้าแล้วค่ะ จากนั้นก็ถูลงบนฝ่ามือจะเป็นการช่วยวอร์มเซรั่มไปในตัวค่ะ แล้วก็ทาแบบวนออกด้านข้างเป็นการนวดหน้าด้วยนั่นเองค่ะ แล้วก็ทาที่คอแบบลากขึ้นด้านบนต้านแรงโน้มถ่วงค่ะคอเราจะได้ไม่เหี่ยวด้วย


ตอนทารู้สึกว่า เนื้อเซรั่มทาง่ายมากๆเกลี่ยง่ายและซึมไวมากๆค่ะ

หลังทาทันทีก็รู้สึกว่า หน้าดูชุ่มชื่น แต่ไม่มัน ไม่เยิ้ม และไม่เหนียวเหนอะหนะค่ะ พอหลังตื่นมาอาบน้ำในตอนเช้า ตอนล้างหน้า หน้ารู้สึกนุ่มลื่นขึ้นมากๆเลย



ความรู้สึกหลังใช้ไป 14 วันก็รู้สึกว่า
1. ผิวมีความเนียนละเอียดขึ้นจนรู้สึกได้เลยค่ะ โดยเฉพาะตรงบริเวณหน้าแก้มและจมูก ที่ตอนแรกจะมีพวกสิวเสี้ยนอยุ่เยอะมากๆ
2. ผิวก็ดูเรียบลื่นขึ้น
3. แต่งหน้าง่ายขึ้นอีกด้วยค่ะ
4. ที่สำคัญคือผิวมิ้วไม่ลอก ไม่แสบด้วยค่ะ

หลังจากที่เราทาเซรั่มกันไปแล้ว ในตอนกลางวันจำเป็นอย่างมากที่ต้องทาครีมกันแดดด้วยค่ะ เพราะแดดนี่แหละเป็นตัวการที่ทำให้ผิวเราหยาบกร้าน และคล้ำเสีย แถมผลเสียอย่างร้ายแรงก็คือเป็นมะเร็งผิวหนังเลยนะคะ เราจึงต้องทากันแดดก่อนออกจากบ้านทุกครั้งค่ะ ทั้งผิวกายและผิวหน้า แล้วกันแดดที่  Ridella ส่งมาให้มิ้วได้ลองใช้นั่นก็คือ

Ridella Silky Smooth Sunguard Mousse SPF50/PA+++


ซึ่งเป็นกันแดดที่มีถึง 6 คุณสมบัติในหลอดเดียวเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็น
1. กันแดด้วย SPF 50/PA+++
2. ปกป้องจากมลภาวะ ฝุ่น PM 2.5
3. ช่วยกักเก็บน้ำให้อยู่ในผิว คงความชุ่มชื้น
4. ช่วยต่อต้านอนุมูลิสระ
5. เป็นไพรเมอร์ ช่วยให้แต่งหน้าได้ดีขึ้น
6. ช่วยฆ่าเชื้อสิว



ตัวกล่องมาเป็นสีเงินเหลือบสีรุ้ง สวยหรูดูแพงมาก มาในขนาดไม่เล็กและไม่ใหญ่ไป พกไปเที่ยวได้เลยค่ะ ด้านหลังเป็นสรรพคุณและวิธีใช้ ด้านข้างจะเป็นส่วนผสม และข้อมูลติดต่อค่ะ


มาในปริมาณ 30 ml.


พอเปิดกล่องออกมาก็จะเป็นตัวหลอดครีมกันแดดที่มีสีเงิน ดูเก๋ไก๋มาก มาเป็นแบบฝาเกลียวค่ะ เวลาจะใช้เราก็บีบหลอดออกมาได้เลยสะดวกมากๆ


เนื้อครีม เมื่อบีบออกมาจะมีสีเนื้ออ่อนๆ ลักษณะเป็นเนื้อใยไหม หรือมูสๆในแบบที่มิ้วรู้สึกนะคะ ไม่ใช่เนื้อครีมทั่วไป มีกลิ่นหอมอ่อนๆ แบบผู้ดีมาก


เมื่อเกลี่ยแล้วจะเห็นว่าหลังมือของเรามีความชุ่มชื้นขึ้นมานิดนึง สีสว่างขึ้นมานิดเดียวเท่านั้น แถมมีความลื่นขึ้นและเรียบเนียนขึ้นด้วยค่ะ เติมเต็มร่องที่ผิวหนังได้ดีมาก


มิ้วก็จะใช้ครีมกันแดดต่อจากที่เราทาเซรั่มเลยค่ะ โดยบีบมา 1 ข้อนิ้ว แล้วแต้มไปที่ 5 จุดก็คือ หน้าผาก แก้ม 2 ข้าง จมูก และคาง จากนั้นก็เกลี่ยวนๆ ออกจากใบหน้าเป็นการนวดหน้าไปในตัวค่ะ แล้วก็อย่าลืมทาที่คอด้วยจะได้กันแดดที่คอด้วยจ้า

ความรู้สึกตอนทาก็คือ
เนื้อกันแดดมีความลื่น เกลี่ยง่ายมากๆ ไม่เหนอะหนะผิวเลยค่ะ

หลังทาเสร็จก็รู้สึกว่า
หน้ามีความเรียบลื่นขึ้น ไม่มันไม่เยิ้ม ไม่เหนียวเหนอะหนะ พร้อมรับการแต่งหน้าต่อได้เลยจร้า 


ความรู้สึกตอนที่มิ้วแต่งหน้าก็คือแต่งหน้าได้ง่ายขึ้น เกลี่ยรองพื้นกับทาแป้งง่ายขึ้น เพราะใบหน้ามีความเรียบเนียนขึ้น นั่นเองค่ะ แถมหน้ามันช้ากว่าที่เคย และยังแต่งหน้าติดทนมากขึ้นกว่าการที่เราไม่ได้ทาครีมกันแดดตัวนี้ด้วย


แถมยังรู้สึกว่า ระหว่างวันหน้าไ่ม่ค่อยมันด้วยค่ะ ทั้งๆที่อากาศวันนั้นคือค่อนข้างร้อนเลยทีเดียว ผิวหน้ายังติดทนดี แต่ปากที่ลบไปคือ มีการกินข้าวกินน้ำ ด้วยนั่นเอง




โดยรวมแล้วนะคะ สิ่งที่มิ้วชอบใน สกินแคร์ของ Ridella เลยก็คือ
1. เนื้อทั้งสองตัวมีความเกลี่ยง่าย ซึมไว ไม่เหนียวเหนอะหนะ แต่ผิวก็ยังคงผิวชุ่มชื้นอยู่ค่ะ
2. กลิ่นมีความเป็นผู้ดีสูงมาก หอมแบบไม่ฉุนเลยค่ะ
3. ตัวกล่องมีความสวยงาม เป็นเอกลักษณะ
4. ตัวขวดและ หลอดครีมกันแดด มีขนาดไม่ใหญ่เกินไป พกพาใช้ไปเที่ยวได้
5. ตัวกันแดดช่วยให้ ผิวลื่นและแต่งหน้าง่าย ติดทนมากขึ้นจริงๆค่ะ
6. ผิวหน้าหลังใช้ผลิตภัณฑ์ทั้งสอง มีความเรียบเนียนมากขึ้น หน้าดูกระจ่างใสขึ้น และชุ่มชื่นมากขึ้นค่ะ




เป็นอย่างไรกันบ้างคะสำหรับ สกินแคร์ ของ Ridella ที่มิ้วมาแนะนำในวันนี้ ใครที่อยากผิวออกร่า กระจ่างใส ดูเรียบเนียนมากขึ้น ก็ลองเข้าไปสอบถามรายละเอียด กันได้เลยนะคะที่

Facebook: https://www.facebook.com/MissDivaThailand/
Line@: @MissDiva


วันจันทร์ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

อัศจรรย์แห่งการปรนนิบัติผิว ด้วย Gooseberry Intensive Cream | MG-Review

Gooseberry Intensive Cream

Feel Skincare


สวัสดีจ้าทุกคน หลายๆคนยังไม่รู้ว่า กูสเบอรรี่ (Gooseberry) นั้นก็สามารถนำมาทำเป็นครีมหรือสกินแคร์ได้ ซึ๋งมิ้วก็คือเพิ่งรู้มาไม่นานนี้เหมือนกัน แล้ววันนี้มิ้วเลยหยิบครีมจากกูสเบอร์รรี่ ที่เป็นแบรรนด์ของคนไทย เอามาให้ทุกคนได้รู้จักกันค่ะ มีรายละเอียดเป็นอย่างไรบ้างนั้น ไปชมกันเลยจร้า








โดยครีมกูสเบอรรี่ที่มิ้วพูดถึงนี้ก็มีชื่อเต็มๆว่า Gooseberry Intensive Cream จากแบรนด์ Feel นั่นเองจร้า เป็นแบรนด์ไทยในบ้านเรานี่เอง แต่ถึงจะเป็นแบรนด์ไทย คุณภาพ รวมไปถึงตัวกระปุกนี่ก็งานดีไม่แพ้ ของนำเข้าจากต่างประเทศเลยเด้อ 

 โดยทางแบรนด์ Feel ได้นำเอา คุณค่าของผลกูสเบอรี่ มาผสมกับส่วนผสมอันล้ำค่าต่างๆ จนได้ออกมาเป็น  Gooseberry Intensive Cream ที่มีส่วนช่วยในการปรนนิบัติผิวของเราให้สวยสดใสอ่อนวัยอยู่เสมอค่ะ

ด้วยคุณค่าจาก

เเทนนิน ในผลของ Gooseberry ที่ช่วยให้ผิวของเรามีความกระจ่างใส เปล่งประกายออร่าอย่างเป็นธรรมชาติ


วิตามิน C ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน ช่วยให้ผิวหน้าของเรานั้นเต่งตึง ยืดหยุ่น


Mulberry Extract หรือ สารสกัดใบหม่อน ช่วยฟื้นบำรุง เเละ ปลอบประโลมผิวของเรา ให้ผิวหน้าให้เรียบเนียน ชุ่มชื้น


Pueraria Extract หรือ สารสกัดกวาวเครือขาว ช่วยให้ผิวหน้าเต่งตึง ดูกระชับอ่อนวัย




ตัวกล่อง


ตัวกล่อง มาในกล่องกระดาษสีดำทอง เรียบหรูดูแพง
ด้านบน เป็นชื่อแบรนด์ ด้านหน้าเป็นชื่อแบรนด์ และมีคำอ่านภาษาไทย
ด้านหลัง เป็นสรรพคุณแบบคร่าวๆ วิธีใช้ วันที่ผลิต วันที่หมดอายุ และเลขที่จดแจ้ง
ด้านข้าง เป็น ส่วนประกอบ และช่องทางการสั่งซื้อต่างๆ

มาในปริมณ 30 กรัม ราคา 790 บาท (จากปกติ 948 บาท)


ตัวกระปุก


มาในกระปุกพลาสติกใส ฝาสีขาว ด้านหน้าเป็นชื่อแบรนด์และผลิตภัณฑ์แต่ขนาดกระปุกอาจจะใหญ่ไปหน่อยสำหรับการพกพาไปเที่ยวต่างจังหวัด 



ลักษณะเนื้อ สี กลิ่น


เมื่อเปิดฝา ก็จะมีตัวที่กั้นครีมไม่ให้หกเลอะเทอะ เมื่อเปิดตัวที่กั้นเนื้อครีมก็จะพบเนื้อครีมสีเหลืองสดใส เมื่อสังเกตดีๆจะมีเม็ดเล็กๆอยู่ ซึ่งนั่นก็คือ เมล็ดของ ผลกูสเบอร์รี่นั่นเองจร้า


เนื้อครีมมีความข้นค่อนข้างสูง แต่เมื่อลองทาที่หลังมือกลับพบว่าไม่ได้เหนียวเหนอะหนะเลย กลับทำให้ผิวจากที่แห้งอยู่ดูชุ่มชื้นขึ้นด้วยซ้ำ แถมหอมกลิ่นของกูสเบอร์รี่ได้อย่างชัดเจน




วิธีใช้


มิ้วจะใช้ทาหลังอาบน้ำในตอนเช้า และก่อนนอนค่ะ โดยแต้มไปที่ 5 จุดบนใบหน้า (แก้ม 2 ข้าง หน้าผาก จมูก และคาง) จากนั้นเกลี่ยแบบ วนออก ให้ทั่วใบหน้า แล้วก็ทาที่คอโดยการลูบขึ้น เป็นทริคของมิ้วที่ช่วยให้คอมีความกระชับมากขึ้นค่ะ จากนั้นก็ทาครีมกันแดดและแต่งหน้าต่อได้เลย

ทริคอีกอย่างหนึ่งของมิ้วค่ะ ในตอนกลางคืนเราสามารถใช้ครีมได้มากกว่าตอนกลางวัน คือนำมาทาเป็นมาส์กก่อนนอนได้เลย ตื่นมาก็ล้างหน้าได้ตามปกติค่ะ


ความรู้สึกหลังใช้


สภาพผิวก่อนใช้ ผิวมิ้วจะมันบริเวณ หน้าผาก คางและสันจมูก ค่ะ

หลังทาทันที มิ้วรู้สึกได้ทันทีว่าใบหน้าดูชุ่มชื้นขึ้นไม่แห้ง ไม่แตก ไม่ลอก ไม่เป็นขุย หน้าไม่มัน ไม่เยิ้ม(ควรใช้ในปริมาณที่เหมาะสมกับแต่ละคนนะคะ) กลิ่นก็หอมสดชื่นมากค่ะ

หลังใช้อย่างต่อเนื่อง รู้สึกว่าใบหน้าดูเรียบเนียนขึ้น นุ่มขึ้น ลื่นขึ้น หน้าดูกระจ่างใสขึ้นมานิดนึง แล้วก็แต่งหน้าได้ติดทนกว่าที่ผ่านมาค่ะ

แต่ผลของการใช้งานก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคนนะคะ ควรใช้อย่างต่อเนื่องเพื่อการเห็นผลได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้นค่ะ



สรุปและคำแนะนำ
มิ้วชอบเนื้อครีมมากค่ะออกแนวเยลลี่ด้วยซ้ำ แล้วก็ชอบที่กลิ่นหอม เกลี่ยง่าย  แต่มิ้วแนะนำว่าควรใช้ครีมปริมาณที่พอเหมาะในตอนกลางวัน เพราะถ้าใช้มากเกินไป อาจทำให้หน้าเยิ้มได้ค่ะ ส่วนในตอนกลางคืนก็สามารถใช้เป็นครีมมาส์กหน้าก่อนนอนได้ค่ะ



ใครที่สนใจอยากเอาไปปรนนิบัติผิวให้สดใสเปล่งปลั่ง กระชับเรียบเนียน ก็สามารถสอบถามและสั่งซื้อได้เลยนะคะที่ 



Line@    : @feelskincare