งอน ยาว ราวกับติดขนตา ด้วยมาสคาร่าจาก dejavu

DEJAVU Mascara

สวัสดีค่าทุกคน รีวิวนี้มิ้วภูมิใจนำเสนอมากๆ เพราะมิ้วอยากจะมารีวิวมาสคาร่าที่ปัดแล้วขนตายาว งอน เด้ง  แถมล้างออกง่ายมากๆด้วย ตัวนี้ก็คือ มาสคาร่าจาก dejavu นั่นเองค่า ดีงามมากทีเดียว รายละเอียดเป็นอย่างไรบ้างนั้น ไปชมกันเลยจร้า

เพราะ dejavu เขาออกมาสคาร่าออกมา เขาเรียกประหนึ่งว่า เป็น ขนตาปลอม แบบปัดเลยทีเดียว (เครมแรกมากแม่) งานนี้มาทั้ง 2 แบบ ทั้ง

Dejavu Keep Style Mascara S Jet Black 1 แท่ง มาในราคา 490 บาท และ
Dejavu Tiny Sniper S Pure Black 1 แท่ง มาในราคา 290 บาท

เราไปดูแต่ละตัวกันลเยจร้าว่าเป็นอย่างไรกันบ้าง

Dejavu Keep Style Mascara S Jet Black เป็นมาสคาร่ามาในแท่งสีส้มเงาสวยงาม ขนาดใหญ่กว่าอีกตัวหนึ่ง หัวแปรงเป็นทรงโค้ง ช่วยให้ขนตาหนา งอน และยาว ตั้งแต่ปัดครั้งแรก แถมเขาบอกว่ามันยังกันน้ำอีกด้วย เพราะเป็นสูตรฟิล์มที่ทนต่อ เหงื่อและน้ำนั่นเองค่า นอกจากนี้เขายังมีส่วนผสมของสารบำรุงขนตาด้วยค่ะ

ขนแปรงเป็นแบบซี่ถี่ สลับกับห่าง จึงทำให้เวลาปัดเนื้อมาสคาร่าจะเข้าไปซอกซอนขนตาได้ดีค่ะ

ตัวกล่องก็มาในสีสันสดใส สามารถเห็นตัวแท่งได้อย่างชัดเจนค่ะ

ด้านหลังจะมีคำแปลเป็นภาษไทย มีทั้งสรรพคุณและวิธีใช้ อ่านได้เข้าใจเลยค่ะ แต่พอเปิดเข้ามาอีกชั้นนึงจะเป็นคำอธิบายเป็นภาษาญี่ปุ่นนั่นเอง

Dejavu Tiny Sniper S Pure Black  มาสคาร่าแท่งเล็ก ตัวแท่งมาในสีแดงประกายสวยมาก แถมความพิเศษของตัวนี้คือจะมีหัวแปรงที่หักงอ เล็กน้อย 5 องศา เพื่อให้รับกับดาวตาของเรา แล้วขนาดของแปรงก็มาแบบเล็ก ซึ่งสามารถซอกซอนเข้าไปที่ หัวตา หางตา และขนตาล่างได้ดีค่ะ 

ตัวกล่องก็มีความคล้ายกับ ตัวแรกจร้า เห็นตัวมาสคาร่าได้ชัดเจน มีคำอธิบายเป็นภาษาไทยค่ะ

ก่อนที่เราจะปัดขนตา ก็จะต้องทำการดัดขนตาก่อนค่ะ มิ้วเลยมาเสนอวิธีที่จะทำให้การดัดขนตา งอนเด้งกว่าที่เคยนั่นก็คือ

มิ้วจะดัด 3 สเต็ป ก็คือ ที่โคนขนตา กลางขนตา และปลายขนตา โดยตอนที่ดัดนั้นให้ยกที่ดัดขนตาขึ้นเล็กน้อย เพื่อขนตาจะได้งอนขึ้นกว่าปกตินั่นเองจร้า

หลังจากนั้น มิ้วก็จะใช้ Dejavu Keep Style Mascara S Jet Black ปัดที่ขนตาบน โดยวิธีการปัดแบบซิกแซ็กซ้ายขวาแล้ว เนื้อมาสคาร่าจะได้เข้าไปในขนตามากยิ่งขึ้นค่ะ

หลังปัดก็จะเห็นว่า เหมือนเรามีขนตาปลอมขึ้นมาแบบไม่รู้ตัวเลยค่ะ ชอบมากๆ ฮ่าๆ แถมใช้เวลาปัดไม่นานด้วยเพราะตัวแปรงค่อนข้างใหญ่ค่ะ

ก่อนปัดกับ หลังปัด เราสามารถเห็นผลได้อย่างชัดเจนเลยค่ะ ว่า ด้านที่ปัดนั้นขนตามีความหนา และเส้นสีดำชัดเจนกว่า ตอนที่ไม่ปัดขนตามากๆเลยค่ะ

หลังจากนั้นเราก็มาปัดขนตาล่าง และย้ำตรงที่หางตา และหัวตาด้วย Dejavu Tiny Sniper S Pure Black 

นั่นเองค่ะ

โดยการปัดแบบซิกแซกอักเช่นเดียวกันค่ะ ด้วยหัวแปรงที่เล็กก็ซอกซอนเข้าไปยังขนตาได้ง่ายกว่า มากคาร่าทั่วไปมาก นอกจากนี้เขายังมี ไฟเบอร์ ช่วยเพิ่มขนตาให้ดูหนามากขึ้นด้วยค่ะ

หลังจากทีเ่ราปัดขนตาด้านล่างแล้ว มิ้วก็มาดัดขนตาด้านบนอีกครั้งเพื่อเพิ่มความงอนให้อยู่กับเราไปทั้งวันค่ะ

หลังดัดขนตาก็รู้สึกว่า ขนตานั้นงอนมากกว่าตอนปัดครั้งแรกมากๆค่ะ ถือว่าเป็นเคล็ดลับสำคัญ ที่ทุกคนเอาไปใช้ได้เลยค่า

ส่วนในเรื่องของความติดทนนั้น ก็มีความว่าติดทนมากเลยค่ะ ขนาดผ่านไป 8 ชั่วโมงก็มีมีเลอะ ไม่แพนด้า (แต่อย่าเอามือไปขยี้ที่ดวงตานะคะ คือถือไม่เอามือไปถูมันก็จะไม่เลอะเลยค่ะแล้วก็กันน้ำอีกด้วย) แถมยังงอนอยู้ดีด้วย (แต่อาจจะตกลงมานิดๆค่ะตามปกติของขนตา)

คราวนี้มิ้วมาทดสอบการลบมาสคาร่าด้วยน้ำอุ่น ว่าจะลบง่ายอย่างที่เขาบอกหรือเปล่า ผลออกมาคือมันออกจริงๆค่ะ ออกมาเป็นเส้นๆชัดเจนเลย ล้างออกง่ายดีงามมากๆ 

โดยรวมแล้ว สิ่งที่มิ้วชอบมากๆเลยก็คือ

มาสคาร่าปัดง่าย สีดำ ทำให้ขนตาดูหน้าและงอนได้จริง 

ล้างออกง่าย ติดทน ไม่เลอะเป็นแพนด้า

คุ้มค่า คุ้มราคามากๆ

ใครที่เป็นคนขนตาตก ไม่ค่อยมีขนตา ก็เหมาะมากๆเลยสำหรับ รุ่น Keep style ส่วนใครที่หามาสคาร่าที่สามารถซอกซอนส่วนเล็กๆได้ ก็จัดรุ่น Tiny Sniper ได้เลยจร้า

ซึ่งทั้งคู่ก็มีสารบำรุงขนตาไปด้วยนะคะ เป็นมาสคาร่าที่สวยจบครบในตัวเดียวเลยทีเดียวค่า

และใครที่สนใจ มาสคาร่าจาก Dejavu ไม่ว่าจะรุ่นไหนก็ตาม สามารถเข้าไปสอบถามรายละเอียด และสั่งซื้อที่ มาสคาร่ากันน้ำ  ได้เลยจร้า

หาซื้อได้ที่ : Matsumoto, Tsuruha, Eveandboy, Donki, @Cosme, Multy, Cosmobeaute,
Watson, Beautrium
สั่งซื้อทางออนไลน์ : Shoppee, Lazada, Konvy

ถ้าจะลงทุนกับ มาสคาร่าสักเบรนด์ ที่เป็นทุกอย่างให้เราแล้ว มิ้วก็แนะนำ Dejavu Mascara เลยค่ะ ไม่ผิดหวังแน่นอน

ผิวสวยใส รวมไว้ในกระปุกเดียว DR.Ci: Labo Aqua Collagen Gel

Dr.Ci:Labo
AQUA-COLLAGEN-GEL ENRICH LIFT EX

ทุกวันนี้เรื่องเวลาเป็นสิ่งสำคัญมากๆ ยิ่งถ้าวันไหนตื่นสายแล้วต้องมาบำรุงหน้าในขั้นตอน 1 2 3 4 ก็เกรงว่าจะไม่ทันรถติดอย่างแน่นอน รีวิวนี้เลยตอบโจทย์มากๆกับคนที่ต้องการบำรุงผิวแบบตัวเดียวจบ ทาแล้วออกจากบ้านได้เลย แถมมีผิวสวย แลดูอ่อนเยาว์อีกด้วย ตัวที่มิ้วจะมาแนะนำนั่นก็คือ Dr.Ci:Labo AQUA-COLLAGEN-GEL ENRICH LIFT EX เป็นเจลครีมบำรุงผิวที่ช้วยให้ใบหน้าของเราสวยสดใสได้ ในกระปุกเดียวค่ะ รายละเอียดจะเป็นอย่างไรบ้างนั้น ไปชมกันเลยจร้า

Dr.Ci:Labo AQUA-COLLAGEN-GEL ENRICH LIFT EX เป็นเจลครีมบำรุงผิวหน้า ที่เหมือนรวมทุกการบำรุงไว้ในกระปุกเดียว ไม่ว่าจะเป็น 

1.โลชั่น
2.โลชั่นน้ำนม
3.เอสเซ็นส์
4.ครีม
5.มากส์
6.เมคอัพเบส
7.อายครีม
8.ครีมนวดหน้า

ซึ่งรวมสารสกัดจากธรรมชาติไว้มากมาย เช่น สารสกัดจากเมล็ดแอลมอนด์ เปลือกต้นโอ๊ค น้ำมันข้าวโอ๊ต โดยรวมแล้วจะเข้าไปช่วยในใบหน้าของเรามีความยกกระชับ ลดเลือนลิ้วรอยผิวดูเปล่งปลั่ง ชุ่มชื้น ให้ผิวแข็งแรงมากยิ่งขึ้นอีกด้วยค่ะ

นอกจากนี้ยังเป็นครั้งแรกของโลกที่มีส่วนผสมของคอลลาเจนหมัก จึงช่วยให้เนื้อเจลครีมซึมซาบลงสู้ผิวได้อย่างล้ำลึก 

(คอลลาเจนหมักคือ การนำไฮโดรไลเซท คอลลาเจนที่มีโมเลกุลเล็กอยู่แล้วมาหมักเพื่อให้พันธะเล็กลงเข้าไปอีก จึงทำให้คอลลาเจนสามารถซึมเข้าผิวได้ดีกว่าเดิม)

ตัวกล่องมาในสีทองสวยงาม ตัวอักษรเป็นภาษาญี่ปุ่น แต่ก็มีฉลากเป็นภาษาไทยทำให้เราอ่านเข้าใจง่ายค่ะ ด้านในก็จะมีใบคำแนะนำเหมือนกัน แต่เป็นภาษาญี่ปุ่นทั้งหมดค่ะ

ตัวกระปุกก็มาในสนทองสวยงามมาก มาในปริมาณจุใจ 50 กรัม เลยทีเดียว

พอเปิดฝามาก็จะเจอไม้พาย เอาไว้ตักเจลครีม แล้วก็มีตัวกั้นเนื้อเจลครีมเอาไว้ไม่ให้หกเลอะเทอะค่ะ

เนื้อเจลครีมมีสีเหลืองอ่อนๆ ลักษณะเป็นเจลกึ่งครีมอย่างที่เขาบอกเลยค่ะ ไม่ข้น ไม่เหนียว มีความเด้งๆเหมือนพุดดิ้งเลย กลิ่นก็มีความหอมสดชื่น ไม่ฉุนเลยค่ะ

เมื่อลองทาเนื้อครีมที่หลังมือแล้วเกลี่ย ก็พบว่า เนื้อครีมมีความว่าเกลี่ยง่าย ซึมไวอย่างที่เขาบอกจริงๆค่ะ หลังทาที่หลังมือก็พบว่าหลังมือดูชุ่มชื่นดีค่ะ

เวลามิ้วทาก็จะใช้พายตักเนื้อเจลครีมออกมาจากกระปุกปริมาณก็แล้วแต่ขนาดใบหน้าของเราเลยค่ะ จากนั้นก็มาปาดกับที่หลังมือ หรือที่ฝ่ามือก็ได้ จากนั้นมิ้วก็ทำการวอร์มกับฝ่ามือ แล้วเอามานาบกับใบหน้าอบ่างเบามือค่ะ

มิ้วจะนาบไปที่หน้าแก้ม ข้างแก้ม แล้วก็หน้าฝาก จากนั้นค่อยเกลี่ยเนื้อครีมแบบวนๆแล้วยกขึ้นค่ะ เป็นการนวดหน้าไปในตัวด้วย วนไปตามแก้ม สันจมูก หน้าผากให้เนื้อครีมซึมเข้าผิวค่ะ จากนั้นค่อยมาลูบที่คอ โดยการลูบขึ้นไปตามใบหน้า คอเราจะได้ไม่เหี่ยวนะคะ

หลังทาเสร็จทันทีก็รู้สึกว่า หน้าดูชุ่มชื่นขึ้นทันที แต่ไม่มัน ไม่เยิ้ม ไม่เหนียวเหนอะหนะค่ะ พร้อมรับการบำรุงต่อได้เลย หรือว่าจะจบเพียงเท่านี้ก็ได้ค่ะ แต่ถ้าในตอนกลางวัน ต้องทาครีมกันแดดด้วยนะคะ ผิวเราจะได้ไม่เป็นฝ้า กระ

หลังใช้มาสักพักนึงก็รู้สึกว่า ผิวหน้าดูเรียบเนียนขึ้น กระจ่างใสขึ้น กว่าเมื่อก่อนมากๆค่ะ เรื่องสิวไม่ต้องพูดถึงเพราะมิ้วไม่ค่อยมีอยู่แล้ว สิ่งที่รู้สึกได้ชัดขึ้นก็คือหน้าดูนุ่มนิ่มขึ้นมากค่ะ ตอนจับหน้าตัวเองเมื่อก่อนรู้สึกว่าผิวหน้าหยาบกร้านกว่านี้มาก ตอนนี้ดีขึ้นกว่าแต่ก่อนเยอะเลยฮ่าๆ ดีใจมากค่ะ

โดยรวมแล้วสิ่งที่มิ้วชอบในตัว Dr.Ci:Labo AQUA-COLLAGEN-GEL ENRICH LIFT EX ก็คือ

1. เนื้อเจลครีมมีลักษณะที่ไม่เหมือนใคร

ประทับใจเนื้อที่เป็นเจลกึ่งครีมของเขา เวลาเกลี่ยก็ง่ายมากๆ เป็นเนื้อที่แปลกๆดีค่ะเพราะไม่เคยลองเนื้อแบบนี้ แต่มิ้วรู้สึกชอบมากค่ะ

2. เนื้อครีมซึมไว ไม่เหนียวเหนอะหนะ 

มิ้วเป็นคนผิวผสมค่อนไปทางมันค่ะ หลังทาก็ไม่รู้สึกว่าหน้าเหนียวแต่อย่างใด ส่วนคนหน้าแห้งก็จะไปช่วยให้ผิวหน้าของเราชุ่มชื่นขึ้นค่ะ 

3. ใช้ได้กับทุกสภาพผิว แม้กระทั้ง ผิวแพ้ง่าย

เพราะเขาบอกมาว่า ไม่มีน้ำหอม สีสังเคราะห์, มิเนรัล ออย, พาราเบน

4. บำรุงจบ ครบในตัวเดียว

ไม่ต้องทาครีมตัวอื่นให้เสียเวลาค่ะ บางคนอาจจะมีขั้นตอน 1 2 3 4 แต่พอมีตัวนี้ ก็ลดขั้นตอน ลดเวลาบำรุงผิวไปได้เยอะเลยค่ะ มีเวลาไปทำอย่างอื่นได้เลย

5. มีไม้พายมาให้ตักครีมด้วย

 ช่วยให้มือไม่ไปโดนเนื้อครีมในกระปุกลดการปนเปื้นของเชื้อโรคค่ะ

เหมาะกับใคร

มิ้วคิดว่า ตัว Dr.Ci:Labo AQUA-COLLAGEN-GEL ENRICH LIFT EX นี้เหมาะมากๆกับคนที่เริ่มจะมีริ้วรอย อยากจะกันเอาไว้ก่อน หรือแม้กระทั้งคนที่มีริ้วรอย หรือมีความเครียด นอนน้อยต่างๆ น่าจะเห็นผลลัทธิ์ได้ดีกว่าค่ะ ตัวอย่างเช่น น้องๆที่ใกล้จบมหาวิทยาลัย คนวัยทำงาน หรือผู้ใหญ่ที่ขาดการดูแลผิวหน้าเป็นต้น

อย่างตัวมิ้ว ซึ่งอยู่ในวัยรุ่น ตอนปลาย (20 ปลายๆ) ก็เริ่มรู้สึกว่ามีริ้วรอยแล้ว ยิ่งใช้กันไว้ก่อนก็จะดีมากๆเลยค่ะ

แต่ถึงอย่างไรก็ตามการทาครีมก็เป็นอีกตัวช่วยหนึ่งที่ช่วยให้ผิวของเราดีขึ้นเท่านั้น เราต้องดูแลผิวในทางอื่นควบคู่กันไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นการล้างหน้าให้สะอาด การกินอาหารดีๆ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกาย ก็จะช่วยให้ผิวของเรา สวยงามจากภายในสู่ภายนอกได้ดีกว่ามากเลยค่ะ

แต่ถ้าใครสนใจ เจลครีมยกกระชับผิวดีๆแบบนี้ ลองเข้าไปสอบถามรายละเอียด หรือ สั่งซื้อได้ที่

https://www.facebook.com/drcilabo.thailand/  ได้โดยตรงนะคะ ย้ำกันอีกครั้งว่า 

มาในปริมาณ 50 กรัม ราคา 1,890 บาทค่ะ  ผิวดีผิวสวยกันทั่วหน้าทุกคนนะคะ

หลงรักเข้าไปใหญ่!!! Argan Remix oils ออกแพคเกจใหม่ไฉไลกว่าเดิม

N&A Beauty SkincareArgan Remix Oils Pure Essential 100%

สวัสดีค่าทุกคน หลังจากที่มิ้วได้รีวิว Face oil จากแบรนด์ N&A Beauty Skincare มาแล้วจาก บทความที่ผ่านมา ตอนนี้ทางแบรนด์ได้มีแพคเกจใหม่ออกมาละค่า น่ารักน่าใช้มากๆเลย รายละเอียดจะเป็นอย่างไรบ้างนั้นไปชมกันเลยจ้า

สำหรับใครที่ยังไม่รู้จัก Face Oil ตัวนี้มิ้วก็ขอรีวิวคร่าวๆว่า Argan Remix Oils Pure Essential 100% เป็น การรวมตัวของน้ำมันสกัดเย็น ถึง 3 ชนิด คือ
1. น้ำมันอาร์แกน
2. น้ำมันโรสฮิป
3. น้ำมันเมล็ดองุ่น

ซึ่งโดยรวมแล้วผลที่ได้ก็จะช่วยในเรื่องของ การ ทำให้ผิวแข็งแรง ลดเลือนริ้วรอย ผิวเนียบนุ่ม ชุ่มชื้น ควบคุมความมัน ลดการอักเสบของผิว

สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิวแม้ผิวแพ้ง่าย นอกจากนี้ยังสามารถทาได้ทุกส่วนของร่างกายอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น แขน ขา เล็บ ผม แค่เอามาผสมคู่กับครีมที่ใช้อยู่ 2-3 หยด ก็ได้ค่ะ

หรือจะเอามาผสมกับรองพื้นของเรา เพิ่มความฉ่ำวาวให้รองพื้น สำหรับคนที่ผิวแห้ง หรืออยากมีผิวโกลว์ก็ได้เลยค่า

แล้วหลังจากที่มิ้วใช้ Face Oil ตัวนี้ไปก็รู็สึกได้เลยว่า ผิวดูแข็งแรงขึ้น สิวลดลง (จากที่ไม่ค่อยเป็นสิวอยู่แล้ว) หน้าดูเรียบเนียน แต่งหน้าง่ายและติดทนมากขึ้นค่ะ แถมหน้ายังไม่ค่อยมันด้วย ทั้งๆที่ปกติ ช่วง T โซนตรง หน้าผาก จมูก คาง ของมิ้วจะมันง่ายมาก แต่พอมีน้ำมันเสริมเข้ามา มันก็เข้าไปเติมความชุ่มชื้นที่อยู่ในผิว ทำให้น้ำมันใต้ผิวผลิตออกมาน้อยลง หน้าจึงมันน้อยลงนั่นเองจ้า

แถมตอนทาก็ทาง่าย ซึมไว ไม่เหนียวเหนอะหนะด้วยค่ะ

แล้วตอนนี้เขาก็ได้ตัวขวดแบบใหม่ออกมา มิ้วก็เลยไม่ลังเลที่จะเอามาลองใช้และรีวิวให้ทุกคนได้ดูค่ะ เรามาดูกันว่า เป็นอย่างไรบ้าง

ตัวกล่องเขามาในสีขาว เขียวแบบธรรมชาติ มีสรรพคุณและวิธีใช้คร่าวๆ รวมไปถึงช่องทางการสั่งซื้อและสอบถาม ที่สำคัญ ด้านหน้ากล่องมีตรา USDA ORANIC ด้วย ก็คือเป็นตรารับรองอาหารและผลิตภัณฑ์ออแกนิคของสหรัฐอเมริกาซึงสินค้าจะต้องได้มาตรฐานระบุไว้ถึงจะสามารถติดตรานี้ได้นั่นเองค่า มีความดีงามมากๆเลย

ตัวขวดมาในปริมาณ 15 ml. เท่าขวดเดิม เพิ่มเติมก็คือ มีความเป็นหัวปั๊ม ใช้งานได้สะดวกกว่าตัวที่แล้วมากๆค่ะ ขวดเป็นขวดแก้วเหมือนเดิม แต่เป็นผิวใส ไม่ใช้ผิวด้านเหมือนรุ่นที่แล้ว มีลายของขวดที่ล้อไปกับตัวกล่อง รู้สึกมีความเป็นธรรมชาติมากๆค่ะ

พอมาดูที่เนื้อ สี กลิ่น ของ ออยล์ ก็รู้สึกว่า สีเหมือนเดิม แต่กลิ่นมีความดีขึ้นกว่ารุ่นที่แล้ว และเนื้อก็ทาง่ายกว่ารุ่นที่แล้วค่ะ

หลังทาทันทีก็จะเห็นว่า หลังมือมีความชุ่นชื้นชึ้นอย่างเห็นได้ชัดค่ะ

ตอนทามิ้วก็จะกดมาประมาณ ครึ่งปั๊ม และวนๆที่ฝ่ามือ จากนั้นเอามานาบที่ แก้ม หน้าผาก ลำคอ และนวดๆวนๆ ให้ทั่วใบหน้าค่ะ

หลังทาเสร็จทันทีจะเห็นว่าใบหน้าเรามีความชุ่มชื้นมากขึ้น ดูโกลว์ขึ้น ผิวดูมีสุขภาพดีมากๆเลยค่ะ

หลังจากแต่งหน้าเสร็จก็รู้สึกว่าวันนั้นคือหน้าติดทนทั้งวันเลยค่ะ แถมแต่งหน้าได้ง่ายขึ้นมากกว่าที่เคยด้วย

สิ่งที่มิ้วชอบในแพจเกจใหม่นี้นั่นก็คือ 

1.ตัวขวดที่เป็นฝาปั๊มค่ะ 

ชอบจริงๆ เพราะสามารถกดออกมาใช้ได้เลย ถ้าเป็นรุ่นเก่าเราจะต้องเปิดฝาออกมา ซึ่งมิ้วคิดว่าอาจจจะส่งผลต่อเนื้อของออยล์ได้ค่ะ แล้วก็ยังเอาใส่กระเป๋าเดินทาง ไปเที่ยว ใช้ข้างนอกได้ด้วย เพราะเขามีฝาปิดอีกทีนึงนั่นเองค่ะ 

2. กลิ่นที่มีความละมุน และธรรมชาติขึ้น 

จากกลิ่นของรุ่นที่แล้ว ที่มีความธรรมชาติของออยล์อยู่ พอได้มีการปรับปรุงใหม่ กลิ่นก็ละมุนขึ้น มีความสดชื่นขึ้นมากกว่ารุ่นที่แล้วค่ะ

3. มาในปริมาณที่ไม่มาก และไม่น้อยจนเกินไป

บางคนคิดว่าอาจจะน้อยเกินไป แต่สำหรับมิ้วคิดว่าขนาดกำลังพอดีมากๆเลยค่ะ เพราะมันเป็นออยล์ที่มากจากธรรมชาติ 100% ถ้ามันมีปริมาณมากเกินไป ยิ่งนานไปถ้ายังใช้ไม่หมด คุณภาพของน้ำมันอาจจะลดลงและเสื่อมด้วย แถมด้วยความที่มาในปริมาณน้อย ก็สามารถพกพาไปเที่ยวได้สะดวกกว่าด้วยค่ะ

4. ไม่ต้องพกน้ำมันไปหลายขวดเพราะรวมไว้แล้วในขวดเดียว

บางยี่ห้อ อาจจะมีน้ำมันแต่ละชนิดแยกไปแต่ละขวด แต่ตัวนี้มีถึง 3 ตัว ในขวดเดียว ทำให้ไม่ต้องพกน้ำมันไปหลายๆขวด แล้วก็ใช้ได้สะดวกมากยิ่งขึ้นนั่นเองค่ะ

อ่านมาถึงตรงนี้แล้วมิ้วคิดว่า หลายๆคนน่าจะเริ่มสนใจใน Face Oil ตัวนี้ขึ้นมากบ้างแล้วใช่ไหมล่ะคะ ตอนแรกมิ้วก็เป็นเหมือนทุกคน ที่หน้ามันแล้วกลัวการใช้ Face Oil มาก แต่พอมาเปิดใจลองใช้ก็รู้สึกว่า มันดีจริงๆค่ะ ใช้ได้กับทุกสภาพผิวจริงๆ ไม่มันเยิ้มด้วย ตอนนี้คือขาดไม่ได้ต้องใช้ทุกวัน ก็คือหลงรักไปแล้วนั่นเอง ฮ่าๆๆๆๆ

ถ้าใครสนใจก็สามารถลองไปสอบถาม และสั่งซื้อกันได้ที่ 

https://www.facebook.com/na.skincareshopp/

ได้เลยจร้า ย้ำกันอีกครั้งว่า มาในปริมาณ 15 ml. ราคา 550 บาท คุ้มค่ากับการลงทุนทุกประการค่ะ