รีวิว เซรั่มปลูกผม Omni Cosmic Hair Peptide Serum ผม คิ้ว เครา เส้นขนเราสุขภาพดี MG-Review

 OMNI COSMIC
Hair Peptide Serum

สวัสดีค่าทุกคน รีวิวนี้ ใครที่อยากมีผมหนา คิ้วสวย เคราที่งามแล้วล่ะก็เข้ามาถูกแล้วจ้า เพราะมิ้วจะมาแนะนำไอเท็มตัวใหม่ ที่ทำให้ทั้ง ผมและคิ้วของมิ้วมีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้นตัวนี้ก็คือ  Omni Cosmic Hair Peptide Serum นั่นเองจ้า ดีงามมากจริงๆ รายละเอียดจะเป็นอย่างไรบ้างนั้น ไปชมกันเลยค่ะ

 Omni Cosmic Hair Peptide Serum 

เป็นเซรั่มปลูกผม ของคนไทย ที่มีสารสกัดมากจากธรรมชาติ มีความอ่อนโยน ช่วยในการกระตุ้นให้เซลล์รากขนได้ขึ้นมาใหม่ มีความแข็งแรง หนังศีรษะมีความชุ่มชื้น นอกจากนี้ยังช่วยชะลอการหงอกของเส้นขนด้วยค่ะ โดยมีสารสกัดที่สำคัญเช่น

คาเฟอีน (Cafeeine) 

สารสกัดเมล็ดกาแฟเขียว กระตุ้นให้การเจริญของเส้นขนมีความแข็งแรง กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด

คอปเปอร์ ไตรเปปไทด์ (Copper Tripeptide-1) 

กระตุ้นการเกิดใหม่ของเส้นขน และชะลอการหลุดร่วง

สารสกัดจากข้าวสาเกหมัก (Sake Extract) 

ให้ความชุ่มชื้นกับหนังศีรษะ และให้รากผมแข็งแรงขึ้น

สารสกัดจากรังนก (Swiftlet nest Extract) 

ชะลอความเสื่อมสภาพของเซลล์ผิว ช่วยให้สารสกัดตัวอื่นได้ซึมไวมากขึ้น และออกฤทธิ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เซรั่มนี้นอกจากจะใช้ได้กับผมแล้วนะคะ ก็ยังใช้ได้กับ ขนคิ้ว แล้วก็หนวดเคราได้ด้วยค่ะ เรียกว่าถ้าอยากให้ขนขึ้นด้วยความแข็งแรงที่จุดไหน ก็สามารถใช้ที่ตรงนั้นได้เลยค่ะ

ตัวกล่อง มาในสีเขียวดำ
ด้านหน้า เป็นชื่อแบรนด์
ด้านหลัง เป็นส่วนประกอบ วิธีใช้ ผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่าย
ด้านใต้กล่อง มีวันที่ผลิตและหมดอายุไว้ด้วยค่ะ

ตัวขวด มาเป็นแบบขวดแก้วสีชา ทึบๆหน่อยค่ะ ตัวฝาจะเป็นแบบหัวหลอดบีบ เมื่อหมุนฝาออกมาจะเป็นหลอดแก้วแล้วมีเนื้อเซรั่มใสๆอยู่ค่ะ

มาในปริมาณ 30 มิลลิลิตร ราคา 990 บาท (จากปกติ 1,390 บาท)

เนื้อเซรั่มเป็นสีใส มีกลิ่นหอมอ่อนๆไม่ฉุนค่ะ หลังลองหยดที่หลังมือแล้วเกลี่ยๆดู ก็พบว่าเนื้อเซรั่มซึมเข้าสู่หลังมือได้ไวมากๆ 

ตอนที่มิ้วใช้มิ้วจะใช้ที่หนังศีรษะ กับคิ้วค่ะ โดยการหยดไปที่หนังศรีษะ 1-2 หยด บริเวณที่มีเส้นผมที่บาง เช่น ตรงขมับ ซ้าย-ขวา และช่วงหน้าศรีษะ แล้วใช้นิ้วมือนวดๆให้เนื้อเซรั่มเข้าสู่ผิวค่ะ

ส่วนที่คิ้วมิ้วก็เอาที่หลอดบีบมาแตะๆที่คิ้วเท่านั้นค่ะ ไม่ต้องบีบเนื้อเซรั่มเลย ทาไปที่คิ้วให้พอชุ่มชื้น แล้วก็เอานิ้วมือนวดๆที่ขนคิ้วไป แต่มิ้วจะเน้นๆเซรั่มที่หางคิ้วค่ะ เพราะเป็นส่วนที่มีขนคิ้วค่อนข้างบาง

ขณะนวดเนื้อเซรั่มด้วยนิ้วมือ ก็รู้สึกว่ามีความเย็นๆเกิดขึ้นค่ะ ยิ่งใช้ตอนหลังสระผมเสร็จหมาดๆก็คือ

จะฟินมาก กลิ่นหอมสดชื่น ไม่ฉุนเลยค่ะ

มิ้วจะใช้วันเว้นวัน ช่วงก่อนนอนก็ได้ค่ะ หรือถ้าผ่านไปสักระยะนึงแล้วไม่เห็นผลก็ลองเปลี่ยนเป็นใช้ช่วงเช้า และเย็น แทน

ผลลัทธิ์หลังผ่านการใช้ไป ประมาณ 1 เดือน 

ในส่วนของคิ้ว

ก่อนใช้ ขนคิ้วของมิ้วมีความบางช่วงหางคิ้วค่ะ โดยรวมคิ้วไม่ดกหนามาก แต่พอใช้เซรั่มมาประมาณ 1 เดือนมีความรู้สึกว่าขนคิ้วมีความหนามากขึ้นกว่าเมื่อก่อน แบบรู้สึกได้เลยค่ะ เพราะมิ้วส่องกระจกทุกวัน ทำให้เวลาเขียนคิ้วตอนแต่งหน้าก็ไม่ต้องเน้นคิ้วมากค่ะ ใช้เวลาเขียนคิ้วไม่เยอะเท่าเมื่อก่อนแล้ว

ในส่วนของหนังศรีษะ

ก่อนใช้ มิ้วก็พอมีผมที่ขมับอยู่บ้างไม่ได้โล้น หรือ บางอะไรมากนัก แต่เป็นคนผมเส้นเล็กและตรงค่ะ ปัญหาส่วนใหญ่จะเป็นผมขาดหลุดร่วงมากกว่า

แต่หลังจากที่มิ้วใช้ เซรั่มและหยดๆเฉพาะช่วงด้านหน้ามากกว่า แล้วผลที่ได้ก็คือ รู้สึกว่ามีเส้นผมเกิดใหม่มากขึ้น ลูกผมมากขึ้นนั่นเอง แล้วก็มาเติมเต็มตรงส่วนขมับที่บางๆนั่นเองจร้า ดีงามมากๆเลย

แล้วที่สำคัญเลยก็คือใช้แล้ว ไม่แสบ ไม่คัน ผิวไม่แพ้ด้วยค่ะ เริ่ดมากๆ

โดยสรุปแล้ว สิ่งที่มิ้วชอบในตัวเซรั่มนี้ก็คือ

- มีความใช้ง่ายๆ แค่หยดแล้วก็นวดๆ

- มีกลิ่นหอมสดชื่น ไม่ฉุน

- ขณะนวดก็มีความเย็นนิดๆ

- หลังใช้แล้วก็ไม่แพ้ ไม่แสบ ไม่คันค่ะ

- พกง่าย ขึ้นเครื่องบินก็ได้ค่ะ (แต่ต้องปิดฝาให้แน่นๆกันเนื้อเซรั่มหกนะคะ)

แล้วมิ้วคิดว่า Omni Cosmic Hair Peptide Serum ตัวนี้นะคะเหมาะกับ

- คนที่มีผิวแพ้ง่าย

- คนที่ผมบาง

- คนที่หัวล้าน

- คนที่คิ้วบาง

- คนที่อยากให้เคราดกดำ สวยงาม

- คนที่มีผมแหว่ง เว้าเป็นดวง

- ผู้ใหญ่ วัยรุ่น คนวัยทำงาน และทุกเพศ ก็ใช้ได้เลยค่ะ

เรียกได้ว่าเป็นเซรั่มที่ ดีต่อใจ สำหรับคนที่มีผมบาง คิ้วบางมากๆค่ะ เป็นตัวช่วยที่เพิ่มความมั่นใจให้ได้มากมายเลยทีเดียว 

แต่ทั้งนี้ก็ต้องใช้ระยะเวลาในการเห็นผลนะคะ จริงๆขึ้นอยู่กับปัจจัยภายนอกด้วยเช่น ฮอร์โมนของเรา การกิน(ไม่ควรกินอาหารที่ใส่ผงชูรสมาก) ความเครียด อารมณ์ ต้องช่วยกัน ทำควบคู่กันไปทั้งภายนอกและภายในค่ะ แล้วเราก็จะมีเส้นขนที่สุขภาพดีได้อย่างแน่นอน

และสำหรับใครที่ต้องการจะเพิ่มความมั่นใจมากขึ้น โชว์ผม คิ้ว เครา ได้มากขึ้น ก็มาลอง Omni Cosmic Hair Peptide Serum ตัวนี้ได้เลยค่ะ สามารถ ลองไปติดต่อสอบถามได้ที่

เว็บไซด์:   https://www.omnicosmic.net/hairpeptide
Facebook: https://www.facebook.com/omnicosmic01/
Line:         https://lin.ee/m80uWpg
Lazada:    https://s.lazada.co.th/s.0gO2l

รีวิว แป้งน้ำรองพื้น Happy ถูกและดี หน้าแมท ใช้ได้ทุกสีผิว

แป้งน้ำรองพื้น
Happy

สวัสดีค่าทุกคนรีวิวนี้มิ้วคิดว่าเหมาะมากๆเลยสำหรับใครที่กำลังหารองพื้นถูกและดี แถมหาซื้อได้ง่าย ปกปิดได้ดี คุมมันก็เริ่ดมากๆเลยค่ะ นั่นก็คือ แป้งน้ำรองพื้น Happy นั่นเอง รายละเอียดจะเป็นอย่างไรบ้างนั้น ไปชมกันเลยจ้า

แป้งน้ำรองพื้น Happy หรือแป้งน้ำ Happy เป็นแป้งรองพื้นสูตรน้ำ ที่เป็นแป้งผสมมากับน้ำ มาในขวดแก้วใส สีเนื้อ มีกลิ่นหอมละมุนมาก ตัวขวดเป็นแบบฝาหมุน ใช้งานง่ายค่ะ รองพื้นเนื้อบางเบา เกลี่ยง่าย

มาในปริมาณ 100 มิลลิลิตร ราคา 50 บาท 

ตัวแป้งน้ำมาเป็นเนื้อเหลวๆเลยค่ะ แต่พอเทน้ำออกมาอีกครึ่งนึง ตัวรองพื้นก็จะมีความเข้มข้นขึ้นมาอีกนิดนึงค่ะ

เมื่อมิ้วลองป้ายตัวแป้งน้ำลงบนหลังมือ ก็จะยิ่งเห็นได้ชัดเลยค่ะว่า ขวดที่เทน้ำออกครึ้งนึงจะเห็นตัวสีได้ชัดกว่า

เวลาใช้ มิ้วก็จะเขย่าขวดแก้วให้น้ำกับแป้งผสมกันได้ดีก่อนค่ะ จากนั้นมิ้วก็เอามาเหยาะลงบนฝ่ามือ ทีละนิด แล้วค่อยๆเอาไปตบๆวนไปที่หน้าเบาๆค่ะ

ผิวก่อนทา หน้าจะมีความมันมาก สีผิวดูไม่สม่ำเสมอ มีรอยคล้ำใต้ตาและจุดด่างจำที่แก้ม
ขณะทา      ผิวรู้สึกเย็นขึ้นมาเลยค่ะ แล้วแป้งก็มีกลิ่นหอมละมุนด้วย (นึกถึงแป้งสมัยก่อนที่รุ่นแม่เคยใช้ แต่มิ้วชอบนะ) เกลี่ยง่ายมากๆ แต่อาจจะต้องรีบๆเกลี่ยเพราะถ้าน้ำมันระเหยไปหน้าจะแมททันทีค่ะ
หลังทา       รู้สึกว่าหน้าแมททันที แต่ผิวไม่เป็นขุยนะคะ เพราะมิ้วมีผิวผสมค่อนไปทางมันค่ะ

ต่อมามิ้วลองทาแป้งน้ำแบบเทน้ำออกครึ่งขวดดู เพื่อเอามาเปรียบเทียบกับเต็มขวดค่ะและนี่คือผลที่ได้

รู้สึกว่า ด้านที่ทาครึ่งขวดนั้นปกปิดได้ดีกว่า แล้วผิวก็แมทสนิทไปเลยค่ะ สีผิวหน้าดูสม่ำเสมอมากขึ้น ผิวดูสว่างขึ้น ประมาณ 2 ระดับค่ะ

มาดูกันอีกทีค่ะ ว่าก่อนทานั้น หน้ามันมากจริงๆ แต่พอหลังทาแล้วผิวก็จะแมทสนิทไปเลย ส่วนความเป็นคราบนั้นก็มีน้อยมากๆแค่บริเวณซอกจมูกเท่านั้นเองค่ะ

พอแต่งหน้าเสร็จก็พบว่า ถ้าอยากให้หน้าดูมีมิติมากยิ่งขึ้น มิ้วก็จทาคอนทัวร์สีเข้มไปปบริเวณกรอบหน้าและข้างจมูกแล้วจากนั้นก็เพิ่ม ไฮไลท์ลงไปบริเวณสันจมูกและโหนกแก้มค่ะ 

จากนั้นมิ้วก็ทดสอบความติดทนโดยการออกไปใช้ชีวิตข้างนอกค่ะ วันนั้นอากาศค่อนข้างร้อนแห้งๆ แต่ผลที่ได้คือ หน้ายังติดทนอยู่ค่ะขุ่นพระไม่คิดว่ามันจะติดทนขนาดนี้ 

แต่จะมีคราบแป้งอยู่ที่ตรงช่วงหนวดที่ปากของเราค่ะ พอรับได้ไม่น่าเกลียดเท่าไหร่ จะบอกว่ามิ้วไม่ได้ซับหน้าระหว่างวันเลยนะคะ การคุมมันถือว่าดีเลยทีเดียวแถมติดทนขนาดนี้คือเวอร์ เกินราคามากไปแล้ววว

โดยรวมแล้วสิ่งที่มิ้วชอบเลยก็คือ

- แป้งเนื้อแมท คุมมันดีมาก

- หลังทาเสร็จแล้วไม่หนักหน้าเลยค่ะ

- ปกปิดปานกลาง แต่ถือว่าดี เมื่อเทียบกับราคา 50 บาทค่ะ

- กลิ่นหอมไม่ฉุน

- สีเข้ากับผิวมิ้ว แต่ถ้าอยากให้ดูมีมิติมากกว่านี้ก็ต้องคอนทัวร์บริเวณกรอบหน้าจะดีมากค่ะ

มิ้วเลยคิดว่าคนที่เหมาะกับ แป้งน้ำรองพื้น Happy นี้ก็คือ 

- คนที่ผิวไม่ค่อยมีปัญหามากนัก ถ้าคนมีสิวต้องใช้คอนซิลเลอร์ลงปิดสิวไปก่อนแล้วค่อยตามด้วยแป้งน้ำค่ะ

- ใชได้ดีกับคนที่มีผิวมัน ผิวผสมค่อนมัน

- นักเรียนนักศึกษา ที่งบน้อยแต่อยากได้รองพื้นปกปิด ใช้ได้ในชีวิตประจำวัน

- จริงๆมิ้วว่าใช้ได้ทุกสีผิวนะคะ เพราะมันเป็นการทำให้ผิวเราดูกระจ่างใสขึ้นมาสองระดับ แต่ถ้าคนผิวเข้มลองคอนทัวร์เพิ่มดูค่ะอย่างที่มิ้วบอกเลยนะ

- ส่วนคนผิวแห้งถ้าใช้เดี่ยวๆเลยอาจจะทำให้หน้าเป็นขุย เลยต้องโบกสกินแคร์ให้หน้าชุ่มชื้นก่อนแล้วค่อยลงแป้งน้ำนะคะ

คำแนะนำ 

หลังทาเสร็จช่วงแรกหน้าอาจจะดูแมทไปหน่อย แต่พอผ่านไปสัก 5 นาที เอามือเกลี่ยๆผิวอีกทีผิวก็จะดูเนียนยิ่งขึ้นค่ะ

พลาดไม่ได้เลยนะคะคือมิ้วชอบมากจริงๆ ไม่คิดว่าจะทำหน้าที่ได้ดีขนาดนี้ ถือได้ว่าเป็นรองพื้นถูกและดี ทั้งคุมมัน ปกปิด ติดทน แถมาราคาก็ไม่แพง แค่ 50 บาทเท่านั้น เรียกว่าเป็น รองพื้น Happy รีวิว เลยก็ว่าได้ค่ะ ใครที่สนใจก็สามารถหาซื้อได้ที่ เซเว่นทุกสาขา Tesco Lotus , Big C, CJ Express, Tops, The Mall, Family Mart และร้านค้าทั่วไป

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/happybrand1955

กระจ่างใส ไกลจุดด่างดำ ด้วย NIVEA Extra White C&A Vitamin Lotion

NIVEA 
Extra White 
C&A Vitamin Lotion

สวัสดีค่าทุกคน ใครๆก็รู้ว่าแดดในประเทศไทยร้อนไม่เบา ไหนจะรังสียูสีที่ทำให้ผิวเราคล้ำเสีย สีผิวไม่สม่ำเสมอ แถมบางครั้งก็มีจุดด่างดำตามมาด้วย แต่ตอนนี้หายห่วงได้เลยค่ะ เพราะตอนนี้ เป็นครั้งแรกที่มีวิตามินเออยู่ในโลชั่น นั่นก็คือ NIVEA Extra White C&A Vitamin Lotion นั่นเองค่า รายละเอียดจะเป็นอย่างไรบ้างนั้น ไปชมกันเลย

นีเวีย C&A เป็นโลชั่นผิวขาว หรือ วิตามินโลชั่น ที่มีส่วนผสมของ วิตามินเอ 100 เท่าจากเชอรี่มิ้นท์สกัดสูตรเย็น นอกจากนี้ก็ยังมีสารสกัดจากเมล็ดองุ่น และวิตามินซีด้วย จึงช่วยให้ผิวมีความกระจ่างใส ใน7 วัน แล้วก็ลดเลือนจุดด่างดำ และก็ป้องกันแดดไปด้วยนั่นเองค่า

ตัวขวดมาคล้ายๆกับรุ่นก่อนที่เป็นวิตามินซี แต่ตัวนี้จะมีสีชมพูสวยน่ารักน่าใช้มากๆเลยค่ะ
ด้านหน้ามีรูปเชอรี่ชัดเจน
ส่วนด้านหลังจะเป็น สรรพคุณและสารสกัดต่างๆ วิธีใช้ คำเตือน ส่วนประกอบ 

มาในประมาณ 180 มิลลิลิตร ราคา 139 บาท

ลักษณะเนื้อครีมมาในสีขาว เนื้อบางเบา กลิ่นหอมเชอรี่มิ้นท์มากๆแถมหลังทาที่หลังมือก็รู้สึกว่าเย็นๆด้วยค่ะและที่สำคัญคือ เกลี่ยง่ายมากเลยขุ่นพระ ประทับใจตรงนี้

มิ้วจะใช้ในเช้าหลังจากอาบน้ำเช็ดตัวหมาดๆค่ะ แล้วก็บีบครีมมาประมาณเหรียญสิบ หรือแล้วแต่เราได้เลย จากนั้นก็เอามาวอร์มๆถูเบาๆที่มือ หรือจะแตะลงบนผิวเลยก็ได้ค่ะ จากนั้นก็เกลี่ยให้ทั่วผิว ทั้งขาและแขนหรือส่วนอื่นๆของร่างกาย

ผิวก่อนทา ดูแห้งขาดน้ำ 

ขณะทา เนื้อครีมเกลี่ยง่ายมากๆ กลิ่นก็หอม คือแบบเริ่ดมากค่ะ 

หลังทา ผิวก็ดูชุ่มชื่นขึ้น ไม่เหนียวเหนอะหนะ กลิ่นหอมน่าดมค่ะ อิอิ

รูปนี้เป็นแขนที่มิ้วถ่านเอาไว้ตั้งแต่ก่อนทาครีมในวันที่ 1 แล้วก็เช็คผลมาเรื่อยๆจนไปถึงวันที่ 7 เลยค่ะ ระหว่างทางอาจจะไม่ค่อยเห็นการเปลี่ยนแปลง แต่เมื่อเทียบระหว่าง วันที่ 1 กับ 7 แล้วจะเห็นว่าผิวดูกระจ่างใสขึ้นจริงๆค่ะ ดีงามมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

สิ่งที่มิ้วชอบในตัว NIVEA Extra White C&A นั่นก็คือ

1. เนื้อครีมมีความบางเบาเกลี่ยง่ายและไม่เหนียว 

ครีมบางตัวอาจมีเนื้อที่หนักเกินไปทำให้ผิวเหนียวเวลาเหงื่อออก แต่ตัวนี้ไม่เป็นค่ะ

2. หลังทาเสร็จผิวมีความเย็นสดชื่น

ชอบมากๆเลยค่ะ ยิ่งช่วงอากาศร้อนๆ หรือใครที่มีผิวตัวที่ร้อนแบบมิ้วแล้วล่ะก็ ต้องลองตัวนี้เลยค่ะ ผิวเย็นสดชื่นมากๆ

3. กลิ่นหอมมากๆ

เป็นกลิ่นเชอรี่ผสมมิ้นท์ออกเย็นๆ ดมแล้วสดชื่นค่ะ ใช้ได้ทั้งชายและหญิงเลย

4. ช่วยให้ผิวกระจ่างใสได้จริง

มิ้วชอบตัว ก่อนหน้านี้ที่เป็นรุ่น วิตามิน C อยู่แล้วเพราะช่วยให้ผิวใสขึ้นจริง ยิ่งมาลองตัวนี้ที่ผสมวิตามิยเอด้วย ก็ยิ่งชอบมากขึ้นไปอีกค่ะ

ใครที่เหมาะและควรใช้

- คนที่ชอบให้ผิวมีความเย็นสดชื่น

- คนที่ออกแดดบ่อย ผิวไม่สม่ำเสมอ

- คนที่อยากมีผิวกระจ่างใส ไกลจุดด่างดำ

เป็นยังไงกันบ้างคะทุกคน หวังว่าจะชอบกับครีมดีๆที่มิ้วเอามาฝากนะคะ อยากให้ไปลอง เพราะเหมาะกับอากาศร้อนๆของประเทศไทยมากมายจริงๆ แถมช่วยให้ผิวกระจ่างใสขึ้นตามที่เขาบอกด้วยค่ะ

คำแนะนำ 

ถ้าอยากให้เห็นผลไวในเรื่องความกระจ่างใส มิ้วแนะนำสูตรผิวขาวมาฝากกันค่ะ
ให้เริ่มตั้งแต่การอาบน้ำเลยค่ะ  ก็คือ

-ใช้ครีมอาบน้ำที่ช่วยให้ผิวกระจ่างใส 

- ใช้สครับขัดผิว ที่ช่วยให้ผิวกระจ่างใส ขัดตัวเบาๆ อาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง (เว้น 3 วันค่อ่ยขัดทีก็ได้ค่ะ)

- ใส่เสื้อแขนยาว ใช้ร่ม และหลีกเลี่ยงแสงแดดจัดๆค่ะ ถ้าเป็นไปได้

- ออกกำลังกาย ดื่มน้ำ นอนหลับให้เพียงพอ

*แล้วก็เพิ่ม NIVEA Extra White C&A Vitamin Lotion ทาตามไปด้วยในทุกๆวันค่ะ เพียงเท่านี้เราก็จะมีผิวที่กระจ่างใสจากภายในสู่ภายนอกแล้ว*

แต่ทั้งนี้มันต้องใช้ระยะเวลานะคะ ขอให้ขยันๆทำบ่อยๆรับรองว่าผิวใสขึ้นแน่นอน

และสำหรับใครที่ต้องการจะลอง NIVEA Extra White C&A ก็ลองเข้าไปสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและสั่งซื้อกันได้ที่

WWW    Facebook    Instagram    

Twitter  Youtube

หาซื้อได้ที่: ห้างสรรพสินค้า ร้านค้าชั้นนำทั่วไป
สั่งซื้อทางออนไลน์: LAZADA, Shopee, Watson online

odbo Professional Three color blush เก๋ สวย ชัดเรื่องปัดแก้ม

odbo
Professional Three color blush 

สวัสดีค่าทุกคน รีวิวนี้มิ้วจะมาพูดถึงพาเลทปัดแก้มจาก odbo ที่มีชื่อว่า Professional Three color blush นั่นเอง แค่เห็นสีและตัวแพคเกจก็น่าปัดมากๆเแล้ว แต่มิ้วใช้แล้วจะเป็นอย่างไรบ้างนั้น ไปชมกันเลยจ้า

Professional Three color blush พาเลทบลัชออนสุดชิค เป็นบลัชออนเนื้อฝุ่น เนื้อเนียนละเอียด เกลี่ยง่าย เข้ากับทุกสีผิวค่ะ  มีด้วยกันถึง 3 สี

Prevalent- สีส้มเนื้อด้านสดใส ดูเข้ากับสาวผิวโทนเหลือง

Fairness- สีส้มมีประกายทอง ช่วยทำให้ผิวดูมีมิติ (หรือจะเอามาทาที่เปลือกตาก็ได้)

Fashion- สีชมพูอมส้มนิดๆ ดูเข้ากับผิวโทนชมพู

ตัวแพคเกจมาเป็นแบบตลับที่ทำมาจากกระดาษ ลวดลายกราฟฟิกแนวมากๆค่ะ คือเด่นตั้งแต่ตลับแล้ว

 แถมมีน้ำหนักเบาด้วย น้ำหนักสุทธิ 10.5 กรัม

ด้านหลังเป็นรายละเอียดผลิตภัณฑ์ วิธีปัดแก้มแบบรูปภาพ ส่วนประกอบ สถานที่ผลิตและนำเข้า 

หลังจากที่มิ้วลองทาสีที่หลังมือก็เห็นว่าสีชัดมากเลยทีเดียว เนื้อเกลี่ยง่ายมากๆแถมฝุ่นผงก็ไม่ค่อยร่วงเลอะเทอะด้วยค่ะ

ชอบทุกสีเลยทีเดียว ทุกสีสามารถใช้ได้กับทุกสีผิวเลยค่ะ

รูปนี้มิ้วลองทาทุกสีที่แขนดูค่ะ รวมไปถึง เอาทุกสีในพาเลทมาผสมกันด้วย ปรากฎว่ามันเข้ากันได้ดีทีเดียวค่ะสีดูออกพีชๆ งามมากๆ

เวลามิ้วใช้ ก็จะใช้ปัดแบบสีเดียวหรือผสมสีกันก็ได้เลยค่ะ แปรงปัดแก้มที่ใช้ก็แล้วแต่ขนาดของแก้มแต่ละคนเลย บางคนชอบแปรงอันใหญ่จะได้ปัดเป็นวงกว้าง ถ้าเป็นแปรงขนาดเล็กก็จะค่อยๆปัดค่อยๆลงสีไปที่แก้มได้ง่ายกว่าค่ะ

ทิศทางที่ปัด 
 ปัดไปตามหน้าแก้มห้ามต่ำกว่าปีกจมูก จะทำให้ดูแบ๊วๆเหมือนเด็กๆ
ถ้าปัดแบบข้างแก้มและเฉียงขึ้น จะทำให้หน้าดูเฉี่ยวขึ้น เรียวขึ้นค่ะ 

พอมิ้วจิ้มสีมาแล้วก็เคาะๆแปรงออกสักนิดนึงค่ะ สีจะได้ไม่ติดที่แก้มเยอะเกิน แล้วก็จุดไปที่แก้ม แล้วค่อยเกลี่ยค่ะ  ตอนเกลี่ยก็คือเกลี่ยง่ายมากเลย สีติดง่ายด้วยค่ะ

สี Prevalent ทำให้ด้านนี้ดูมีมิติขึ้นกว่าก่อนปัดค่ะ

จากนั้นมิ้วก็ปัดอีกข้างด้วยสี Fashion ค่ะ จะเป็นโทนชมพูที่ ผิวสีอย่างเราก็เอาอยู่ รอดค่ะสีนี้

สีนี้ทำให้ผิวด้านนี้ดูมีความเลือดฝาด อมชมพูเป็นธรรมชาติมากค่ะ

เมื่อหันหน้าตรงแล้วเปรียบเทียบสีทั้งสองด้านจะเห็นว่า สีไม่ได้แตกต่างกันเท่าไหร่เลยค่ะถ้ามองผ่านๆ แต่ถ้าสังเกตดีๆ ด้านสีส้มจะเห็นชัดกว่า

จากนั้นมิ้วลองปัดทับด้วยสี Fairness ที่มีประกายสีทองเพิ่มเข้าไปในแต่ละด้าน

ก็จะเห็นว่าแก้มดูมีมิติมากกว่าเดิมจริงๆค่ะ เพราะมันเป็นสีประกายโทนเหลือง ช่วยให้ผิวโทนเหลืองดูเงาขึ้น มีมิติ ดูไม่แบน ผิวดูสุขภาพดีค่ะ

เปรียบเทียบหน้าตรงให้ชัดๆไปเลยจ้า

เปรียบเทียบให้ดูกันทั้ง 3 สเต็ปเลยว่ายิ่งปัดแก้ม ยิ่งช่วยให้หน้าดูมีสุขภาพดีขึ้น ยิ่งเพิ่มสีที่มีประกายที่แก้มลงไป ก็ช่วยให้หน้าดูมีมิติ หน้ามองมากขึ้นค่ะ

สิ่งที่มิ้วชอบเลยก็คือ เนื้อมีความเกลี่ยง่ายมาก แล้วก็ไม่มีฝุ่นผงหกเลอะเทอะด้วย

ยิ่งเอามาผสมกันก็จะได้สีที่มีความเป็นตัวเองมากยิ่งขึ้นค่ะ

สรุปแล้วเลยก็คือเป็นพาเลทที่ทุกคน ทุกสีผิวควรมี
ใช้ได้กับทุกโอกาส
 ทุกการแต่งหน้า

 พกไปเที่ยวได้เพราะพาเลทค่อนข้างเบา แบนๆ
มีสีให้ปัดแก้มให้ได้เลือกถึง 2 สี

อยากหวานสุขภาพดีก็ปัดด้วยสีชมพู
อยากสนุกๆ เปรี้ยวๆก็ปัดด้วยสีส้ม
อยากให้หน้าดูมีมิติเป็นประกายก็ปัดด้วยสีที่มีประกายเลยจ้า

หวังว่าจะถูกใจนะคะสำหรับใครที่กำลังมองหาสีปัดแก้มถูกและดีคุ้มค่าคุ้มราคาอยู่ ลองไปซื้อหากันได้เลยค่า ไม่ผิดหวังแน่นอน