วันศุกร์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

รีวิวแป้งสีเข้มสุดทั้งหมดที่มี ผิวแทน ผิวสี ผิวมัน ต้องดู!!!

รีวิวแป้ง สีเบอร์เข้มสุด ทั้งหมดที่มี


สวัสดีค่าทุกคน รีวิวนี้มิ้วเอาใจสาวผิวสีเข้มเลยค่ะ ด้วยความที่มิ้วเป็นอีกคนนึงที่มีแป้งสีเข้ม เบอร์เข้มสุดอยู่หลายตัวมาก วันนี้เลยรวบรวมเอามาเม้ามอยให้ฟัง แต่ละตัวจะเป็นอย่างไร มิ้วใช้แล้วรู้สึกอย่างไรบ้างนั้น ไปชมกันเลยจร้า






โดยมิ้วจะไล่ราคาจาก น้อยไปหามากนะคะ เอาแบบสั้นๆง่ายๆได้ใจความก็แล้วกัน จะได้ดูไม่ยืดเยื้อค่ะ

1. Butae Super oil control powder
No.3 Golden Brown
ราคา 25- 75 บาท


เป็นแป้งตัวแรกๆที่มิ้วใช้เลยก็ว่าได้ และเป็นสีเข้มมากสุดที่มิ้วมี ข้อเสียจะเป็นที่พัฟมันดูใช้ยากสักหน่อย เวลาใช้จริงอาจจะซื้อพัฟแยกก็ได้ค่ะ


ตอนทาก็ค่อนข้างทาง่ายอยู่ค่ะ แต่ก็จะมีเศษฝุ่นผงแป้งร่วงลงมาบ้าง ก็ตามราคานะคะ
หลังทาเสร็จ สีเข้มเท่าแขนเลยทีเดียว แล้วหน้าก็แมทสนิทค่ะ แต่ก็ไม่ได้คุมมันมากนักอย่างว่านะคะ ราคาไม่ได้สูงมาก แต่ถือว่าดีเลยค่ะในระดับราคาเท่านี้

คำแนะนำ ถ้ารู้สึกว่าซื้อมาแล้วสีเข้มกว่าหน้ามากเกินไป ก็ใช้เป็นเฉดดิ้ง เอามาปัดที่กรอบหน้าได้ก็ช่วยให้หน้าเราดูมีมิติมากขึ้นค่ะ


เหมาะกับ คนงบน้อย คนที่เพิ่งเริ่มหัดแต่งหน้า นักศึกษา คนผิวหน้ามัน



2. Eglips Blur powder pact
เบอร์ 23 ราคา 2xx บาท


ตัวนี้แอบไม่ใช่สีเข้มสุดในตอนนี้นะคะ เพราะมันมีเบอร์ 25 ออกมาแล้ว ส่วนตัวแล้วชอบพัฟอันนี้มากเวลาใช้ดูเข้ากับเนื้อแป้งสุดๆ (เนื้อพัฟดูเป็นกำมหยี่นุ่มๆ)


ตอนทาก็รู้สึกว่าแป้งไม่เป็นฝุ่นผงออกมามากนัก ทาเดี่ยวแล้วหน้าก็ไม่ลอยมากค่ะ แต่ถ้าคนสีผิวเข้มกว่ามิ้วอาจจะเห็นชัดกว่า แต่ที่ชอบก็คือ รูขุมขนดูเบลอจริงๆค่ะ คุมมันก็ดีเลยทีเดียว ไม่เป็นคราบด้วย

คะแนะนำ เวลาทามิ้วจะใช้คู่กับรองพื้นที่สีเข้มๆค่ะ ก็คือหลังจากที่เราทารองพื้นสีเข้มแล้ว ก็เซทด้วย ตัวนี้ ก็คือชอบมากๆ

เหมาะกับ คนที่มีรูขุมขนกว้างมากๆ ผิวมัน นักเรียน นักศึกษา


3. Chao Nang Perfest bright UV 2 Way powder Foundation SPF20 PA+++
No.03 ราคา 2xx - 3xx บาท


แป้งตัวนี้เป็นอีกตัวนึงที่มิ้วชอบมากค่ะ ทั้ง ตัวตลับ สีแป้ง เนื้อแป้ง ทำได้ดีเลยทีเดียว พกใส่กระเป๋าอยู่ช่วงนึงเลยทีเดียวค่ะ บิวตี้บล็อคเกอร์ หลายๆคนก็การันตีมาด้วยว่างานดีมาก แต่พัฟเขาอาจจะแข็งไปในช่วงแรกๆเมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่น แต่ใช้ไปสักพักมันจะนุ่มขึ้นค่ะ กลิ่นแป้งมีกลิ่นหอมอ่อนๆ


ตอนทาก็รู้สึกว่าทาง่ายใช้ง่าย เพราะพัฟค่อนข้างใหญ่ ไม่มีฝุ่นร่วงลงมาให้กวนใจ
หลังทาก็รู้สึกว่าหน้าเนียนมาก ไม่เป็นคราบ ปกปิดดีเลยค่ะ ใช้แค่แป้งเดี่ยวๆก็ยังรอด คุมมัน ติดทนดีเลยค่ะ

คะแนะนำ สามารถใช้ได้ทั้งแบบเปียก(เอาพัฟมาชุบน้ำแล้วไปแตะที่แป้ง) และแบบแห้ง โดยที่แบบเปียกจะกันน้ำได้มากว่า ติดผิวมากกว่า และดูธรรมชาติมากกว่าค่ะ แต่ถ้าเอาว่าเร็วและความถนัดก็ ใช้แบบแห้งจะสะดวกกว่า

เหมาะกับ คนผิวมัน นักศึกษา คนที่มีเวลาแต่งหน้าน้อย ทำกิจกรรมเยอะ จริงๆเหมาะกับทุกคนค่ะ


4. Mr. Wat 1-minite whitening cake powder founfation SPF18 pa++
เบอร์ C2 ราคา 2xx - 3xx บาท


เป็นแป้งที่ออกมานานแล้วค่ะ ตัวนี้ก็ช่วยเบลอรูขุมขนได้ดีเลยทีเดียว แถมปกปิดก็อยู่ในระดับทีดีค่ะ แต่เสียดาย สียังขาวไปเล็กน้อยถ้าเอามาทาเดี่ยวๆ เนื้อแป้งมี กลิตเตอร์ผสมอยู่นิดๆค่ะ พัฟก็นุ่มกำลังดี


ตอนทาก็ทาง่าย ไม่มีฝุ่นผงร่วงลงมา หลังทาก็ไม่เป็นคราบแต่อย่างใดค่ะ สีก็ไม่ค่อยลอยมาก แต่เบลอผิวได้ดีจริงๆค่ะ

คำแนะนำ ถ้าใช้ทาเดี่ยวๆแล้วหน้ายังขาวไป ลองใช้เฉดดิ้งทาที่กรอบหน้าดูค่ะ หรือไม่ก็ใช้คู่กับรองพื้นที่มีสีเข้ม เซทหลังทารองพื้นเสร็จ จะช่วยให้สีหน้าดูพอดีกับแขนมากขึ้นค่ะ

เหมาะกับ คนที่มีรูขมขนกว้าง สีผิวขาวเหลือง ผิวมัน คนที่ใบหน้าหมองคล้ำ(ทาบริเวณหน้าผาก สันจมูก คาง และหน้าแก้ม)


5. Rebecca Keep a srcret Flawless Dream Powder SPF 25 pa+++
No.03 ราคา  3xx - 4xx บาท


เป็นแป้งอีกตัวที่ให้ความเนียนกับผิวมากๆ ตลับก็สวย สีแป้งก็ดีเข้ากับผิวมิ้วมากๆค่ะ ทุกวันนี้พกไว้ในกระเป๋า เอาไว้เติมระหว่างวัน หน้าก็ไม่เป็นคราบ หน้าไม่ดูแห้งจนเกินไปค่ะ ชอบอีกอย่างคือพัฟค่ะ มีความนุ่มมากๆ


ตอนทาก็คือทาง่าย ไม่มีฝุ่นร่วงลงมาอีกเช่นกันหน้าดูเนียนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด หน้าก็ไม่แห้งจนเกินไป ที่สำคัญ ไม่เป็นคราบด้วยค่ะ

คำแนะนำ พอใช้แป้งไปสักพัก ต้องระวังตอนเปิดด้วยค่ะ ตัวที่กดมันอาจจะดูหลวมๆไปสักหน่อย เลยทำให้แป้งเปิดตอนที่เราไม่ได้ใช้ค่ะ จะพกไปก็ระวังตลับแป้งเปิดด้วยนะคะ

เหมาะกับ คนที่พอมีงบหน่อย สาวๆวัยทำงาน คนผิวมัน มีเวลาแต่งหน้าน้อย


6. Beneficial Ultimate coverage foundation powder
เบอร์ 06 Honey ราคา 575 บาท


เป็นแป้งที่ราคาแพงสุดที่มิ้วมีค่ะ ตัวตลับสวยเก๋ แตกต่าง ชั้นใส่พัฟจะอยู่ด้านบนของตลับแป้ง ตอนเปิดไม่ต้องกลัวตลับจะเปิดเอง เพราะมีแม่เหล็กด้วยทำให้ตัวตลับปิดสนิทแน่นอนค่ะ


ตอนทาแอบมีฝุ่นแป้งร่วงลงมานิดๆ หน้าจะดูแมทขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด แต่สีอาจจะดูขาวกว่าแขนไปสักหน่อย แต่เรื่องความปกปิดถือว่าทำดีเลยค่ะ

คำแนะนำ ตัวนี้สามารถทาเดี่ยวๆ ทาออกงานได้เลย เวลาเรารีบๆค่ะ(ยิ่งใช้คอนซิลเลอร์มาปกปิดก่อนก็จะเริ่ดกว่าค่ะ) แต่ก็ต้องใช้เฉดดิ้งปัดที่กรอบหน้าด้วย หน้าจะได้ดูไม่ลอยนั่นเอง

เหมาะกับ คนที่พอมีงบหน่อย สาวๆออฟฟิต คนที่มีเวลาแต่งหน้าน้อย


7. Beneficial All day sun protection foundation powder SPF 50 PA++++
สี Honey ราคา 575 บาท


ตัวนี้ก็เป็นอีกตัวนึงที่มิ้วชอบค่ะ เวลารีบๆตัวนี้ตัวเดียวก็เอาอยู่ จุดเด่นของตัวนี้คือ มีความเล่นแสงมากแบบสวยทุกแสงอย่างที่เขาบอกจริงๆค่ะ เพราะเขามีตัวที่ช่วยกระจายแสงอยู่ในแป้ง พัฟนุ่มกำลังดี

ตัวนี้จะแตกต่างจากรุ่นที่แล้ว ก็คือ หลังทาหน้าจะดูเป็นผิวมากกว่า คุมมันมากกว่าค่ะ


ตัวนี้ตอนทาก็มีฝุ่นผงร่วงลงมาอีกเช่นกัน ทาง่าย เกลี่ยง่าย ด้วยความที่พัฟเขาเป็นวงรีจึงซอกซอนเข้าไปที่แคบๆได้ดีกว่าพัฟลักษณะกลมค่ะ หลังทาเสร็จหน้าดูสวยฉ่ำเล่นแสง แต่หน้าไม่มันเยิ้ม ดูแมทกำลังดีค่ะ ไม่เป็นคราบแต่อย่างใด

คำแนะนำ ควรใช้คู่กับคอลซิลเลอร์จะสวยปังกว่า แล้วปัดด้วยเฉดดิ้ง แค่นี้ก็สวยได้โดยไม่ง้อรองพื้นแล้วค่ะ หรือใช้คู่กับแปรง เพื่อเซทรองพื้นก็ดูสวยเล่นแสงดีค่ะ

เหมาะกับ คนผิวมันที่อยากให้หน้าดูฉ่ำสวย คนที่พอมีงบหน่อย อยากได้ใบหน้าที่ดูเล่นแสง สวยแบบเป็นผิวสุขภาพดีค่ะ


เปรียบเทียบแป้งแต่ละตัวให้ดูกันค่ะ




เรียงลำดับความปกปิดจาก มากไปหาน้อยได้ดังนี้
6>7>5>3>4>2>1


เมื่อปาดสีลงบนแขน


เมื่อเปรียบเทียบสีกันจะเห็นได้ว่า เบอร์ 1 สีเข้มสุดจริงๆค่ะ สีสว่างที่สุดจะเป็นเบอร์ 2 และ 4 นั่นเอง



การกันน้ำ



เมื่อลองเอาน้ำมาผ่านๆดูก็เห็นว่ามันก็ยังคงติดที่ผิวเกือบทุกเบอร์นะคะ ยกเว้น เบอร์ 4 ที่จะจางกว่าเพื่อน

การกันน้ำได้จากที่มิ้วเห็น เรียงลำดับจากมากไปน้อยก็คือ
5>7>6>3>1>2>4


หลังผ่านน้ำแล้วเอากระดาษทิชชู่มาซับดูก็พบว่าแป้งยังพอหลงเหลือสีอยู่บ้างค่ะ แต่ถ้าเอามือมาถูอีกรอบนึงแป้งก็เริ่มจางหายไปเกือบทุกแบรนด์ค่ะ




ก็ต้องบอกก่อนว่า แต่ละตัวอาจจะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป แต่ถ้าถามว่ามิ้วชอบตัวไหนมากที่สุดก็จะเรียงลำดับจากชอบมากที่สุดไปน้อยที่สุด ได้ดังนี้ค่ะ (เป็นความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้นนะคะ) ตัดสินจากภาพรวมความคุ้มค่า สีที่พอดีกับผิว และคุณสมบัติการปกปิดติดทนค่ะ

3>5>7>6>2>1>4

แต่จะบอกว่าแป้งทุกตัวมิ้วก็สลับกันใช้ไปในแต่ละวันนะคะ เพราะคุณสมบัติบางอย่างไม่เหมือนกัน

ถ้าอยากได้ความเบลอผิว
ก็จะใช้แป้ง 2,4 แต่ต้องใช้รองพื้นที่มีสีเข้มทาก่อน จะได้พอดีกับผิวค่ะ

ถ้าอยากได้ความเนียนไปกับผิว ก็แนะนำเป็น
3,5,6,7 ค่ะ เพราะเป็นแป้งที่ทาแล้วไม่เป็นคราบ ทาเดี่ยว โดยไม่ต้องลงรองพื้นก็ได้ค่ะ

ถ้าอยากได้สีพอดีกับผิวตัว หรือ ทาเป็นสีเฉดดิ้งแบบธรรมชาติ ก็แนะนำเป็น
1 นั่นเองค่ะ


หวังว่าจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือก ในการตัดสินใจในการซื้อแป้ง สำหรับสาวผิวสีนะคะ เลือกที่เหมาะกับสีผิว และสภาพผิวของเราให้มากที่สุดค่ะ



วันจันทร์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

คิ้วสวยด้วย เจ้านาง Slim Waterproof eyebrow | MG-Review

CHAONANG
Slim Waterproof eyebrow


สวัสดีค่าทุกคน รีวิวนี้มิ้วจะพาทุกคนไปรู้จักกับที่เขียนคิ้วแบรน เจ้านาง ซึ่งเป็นแบรนด์ของคนไทยนี่เองค่ะ แค่เห็นกล่องและแพคเกจก็สวย และน่าสนใจมากๆแล้ว รายละเอียดจะเป็นอย่างไร มิ้วใช้แล้วจะเป็นอย่างไรบ้างนั้น ไปชมกันเลยจร้า






เจ้านาง Slim Waterproof eyebrow เป็นดินสอเขียนคิ้วแบบหมุนไม่ต้องเหลา มีหัวเล็กเพียง 1.5 มิลลิเมตร มีคุณสมบัติกันน้ำ กันเหงื่อ สีชัด ติดทนตลอดวัน มาพร้อมแปรงปัดคิ้วในตัวค่ะ 
มาในปริมาณสุทธิ 0.12 กรัม 
ราคา 199 บาท (ราคาที่กล่อง)


ตัวกล่อง ด้านหน้า มาในสีขาวลายหินอ่อน สวยหรูดูแพงมากๆค่ะ เห็นโลโก้แบรนด์เจ้านางชัดเจน
ด้านข้าง เป็นรูปตัวแท่งดินสอทำให้เราเห็นภาพตัวแท่งมากขึ้นค่ะ
ด้านหลังกล่องเป็นคำอธิบาย วิธีใช้ ส่วนประกอบ เลขที่รับแจ้ง สถานที่ผลิต สถานที่นำเข้า ช่องทางการจัดจำหน่าย




ตัวแท่งก็มาแบบพลาสติดสีขาวสวยเด่นมาก แท่งเรียวเล็ก ด้านหนึ่งเป็นดินสอเรียวเล็ก ขนาด 1.5 มิลลิเมตร มาพร้อมแปรงปัดในตัวค่ะ







เมื่อลองเขียนลงบนหลังมือสิ่งแรกที่รู้สึกเลยก็คือ เนื้อลื่นเขียนง่ายมากๆ สีก็ชัดดีเลยค่ะ ลืมบอกไปว่า มิ้วเลือกสีเบอร์ 03 Almond Brow  สีจะออกเป็น น้ำตาลอมแดงๆ เหมาะกับสีผมโทนแดงๆนั่นเองค่ะ
ส่วน เบอร์ 01 espresso brow (เอสเพรสโซ่ บราวน์) จะเป็นสีน้ำตาลอมเทา
เบอร์ 02 caramel brow (คาราเมล บราวน์) สีน้ำตาลอมทอง

ก่อนที่เราจะเขียนคิ้ว สำหรับคนที่ไม่เคยเขียนคิ้วมาก่อน มิ้วก็แนะนำให้ไปกันคิ้วที่ร้านก่อนนะคะ (ราคาไม่แพงมาก หรือจะให้คนที่กันคิ้วเป็นกันให้ก็ได้ค่ะ) เพื่อความสวยงามและเห็นโครงคิ้วที่ชัดเจน บอกเขาว่าเอาขนคิ้วส่วนเกินออกก็พอค่ะ และเอาหางคิ้วไว้ด้วยนะคะ ฮ่าๆๆ  จากนั้นเราก็ไปวัดคิ้วและเริ่มเขียนคิ้วกันค่ะ



ก่อนที่เราจะเขียนคิ้วสำหรับมือใหม่ มิ้วก็แนะนำให้เราวัดคิ้วก่อนเขียนคิ้วค่ะ เพื่อความสวยงามมากขึ้นไปอีก โดยสามารถใช้ดินสอเขียนคิ้ว วัดคิ้วได้เลยค่ะ (ดูตามภาพก็ได้ค่ะ)

หัวคิ้ว ให้ใช้ดินสอเขียนคิ้วตั้งตรงตำแหน่งปีกจมูกให้ผ่านปลายตาดำไปถึงหัวคิ้ว
จุดสูงสุดของคิ้ว ให้ดินสอเขียนคิ้วเอียงผ่านปีกจมูก แล้วก็ก็ผ่านกึ่งกลางตาดำไป
หางคิ้ว วัดจากดินสอเขียนคิ้วผ่านปีกจมูก ไปยังหางตาของเราค่ะ

ส่วนความหนาของคิ้วก็ดูให้พอดีกับคิ้วเดิม หรือดูตามความเหมาะสมกับโครงหน้าค่ะ



หลังจากนั้นก็มาเริ่มเขียนคิ้วกันค่ะ ก่อนอื่นมิ้วก็จะใช้แปรงมาปัดขนคิ้วให้ดูเรียงเส้นกันก่อน
จากนั้น ให้หมุนดินสอออกมาทีละนิดค่ะ อย่าหมุนยาวเกินไป มันจะหักนั่นเอง

เวลาเขียนคิ้ว มิ้วเริ่มจากการเขียนฐานคิ้วก่อน แล้วก็ไล่ไปถึงหางคิ้ว เวลาเขียนก็ใช้การเขียน สะกิด เป็นเส้นสั้นๆ เพื่อให้ดูเป็นธรรมชาติค่ะ

แล้วก็ค่อยๆเติมคิ้วให้เต็มตามความหนาของคิ้ว เทคนิคของมิ้วคือมิ้วจะเติมจากหางคิ้วก่อนแล้วค่อยๆไล่ไปถึงหัวคิ้วตามที่เรากำหนดไว้นั่นเองค่ะ

จากนั้นก็ใช้แปรงที่ติดมากับที่เขียนคิ้ว ปัดขนคิ้วให้เรียงเส้นอีกครั้ง โดยปัดให้ขนคิ้วดูตั้งๆขึ้น คิ้วก็จะดูหนาและเป็นธรรมชาติมากๆเลยค่ะ จริงๆแค่นี้ก็เป็นอันเสร็จค่ะ 

แต่ถ้าใครมีขนคิ้วที่สีเข้มมากๆ ก็อย่าลืมใช้มาสคาร่าปัดคิ้วเพื่อให้สีคิ้วดูอ่อนลงด้วยนะคะ


หลังเขียนคิ้วก็จะออกมาเป็นประมาณนี้ค่า ดูสวยเป็นธรรมชาติมากๆเลย


ความรู้สึกก่อน - หลังใช้
ก่อนเขียนคิ้ว มิ้วพอจะมีขนคิ้วอยู่บ้างค่ะ คิ้วก็พอจะเป็นทรงอยู่แล้ว แต่คิ้วทั้งสองข้างมันไม่เท่ากัน (ซึ่งเป็นเรื่องปกติค่ะ)

ระหว่างเขียนคิ้ว รู้สึกว่า Slim Waterproof eyebrow เป็นดินสอที่ เนื้อลื่น เขียนง่ายมาก ไม่ต้องใช้แรงกดเยอะด้วยค่ะ แถมเนื้อยังซอกซอนเข้าไปในขนคิ้วค่อนข้างง่าย เพราะหัวมันเล็กมากๆนั่นเอง

หลังเขียนคิ้ว ก็รู้สึกว่าคิ้วดูเต็มขึ้น ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้นกว่าก่อนเขียนนั่นเองค่ะ



ลุคหลังเขียนคิ้วเสร็จแล้วเรียบร้อยค่า ดูละมุนละม่อม ผู้ชายเห็นแล้วไม่ตกใจ ฮ่าๆๆ ส่วนความติดทนนั้นไม่ต้องพูดถึง อยู่ตั้งแต่เช้าจรดเย็นค่า สำหรับมิ้วนะ (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ สภาพผิวของแต่ละคนด้วยนะคะ) 

แนะนำว่า เวลามีเหงื่อไหล ให้ใช้ทิชชู่ค่อยๆซับเหงื่อ แทนการใช้มือปาดนะคะ คิ้วจะอยู่ทรงติดทนทั้งวันแน่นอน


เรียกได้วว่าเป็นดินสอเขียนคิ้วอีกแบรนด์ ที่มิ้วตกหลุมรักตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้เลยค่ะ นอกจากตัวแท่งจะสีขาวละมุนดูโดดเด่นสวยสะดุดตาแล้ว ยังเนื้อลื่นเขียนง่าย อีกด้วย อยากให้ทุกคนได้ลองจริงๆ จะได้เห็นถึงความรู้สึกของมิ้วตอนนี้ ฮ่าๆ


เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับการรีวิวดินสอเขียนคิ้ว Slim Waterproof Eyebrow จาก แบรนด์ เจ้านาง หวังว่าจะชอบและถูกใจกันนะคะ


ถ้าใครสนใจดินสอเขียนคิ้วแบรนด์ไทยแบรนด์นี้ ก็สามารถสั่งซื้อมาลองใช้กันได้ที่ แฟนเพจ
https://www.facebook.com/Chaonangofficial/

หรือซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป
Lotusโลตัสใหญ่ ทุกสาขา
Tops ท๊อป ซุปเปอร์มาเกต
Eveandboy ทุกสาขา
Konvy
Watsons
บิวเที่ยม
Beauticool
Lashes
Stardust
Suncosmate
Beauty club
Beauty market
CJ Express
และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ





วันอังคารที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2562

ผิวน่า Kiss กับ Nakiz Lively Butt Cream | MG-Review

Nakiz
Lively Butt Cream


สวัสดีค่าทุกคน มิ้วเชื่อว่าลึกๆแล้วหลายคน จะมีปัญหาใต้ร่มผ้าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ความดำ ความคล้ำ เป็นสิว ตุ่มหนังไก่ รอแตกลาย ตาม รักแร้ หรือก้นของเราเป็นต้น แล้ววิธีแก้ก้นดำ รักแร้ดำ ก็มีหลายอย่างเลยค่ะ ขึ้นอยู่กับงบ และความต้องการของเรา ยากง่ายแตกต่างกันไป แต่วันนี้มิ้วมีครีมตัวนึงที่ช่วยลดปัญหาดังกล่าวได้จบในหลอดเดียวเลย นั่นก็คือ Nakiz Lively Butt Cream (ไลฟลี่ บัต ครีม) นั่นเอง รายละเอียดจะเป็นอย่างไร มิ้วใช้แล้วรู้สึกอย่างไรบ้างนั้น ไปชมกันเลยจร้า



Nakiz Lively Butt Cream เป็นครีมบำรุงบั้นท้ายของเรา ช่วยให้ผิวที่มีรอยคล้ำ แห้งกร้าน กลับมาเนียนนุ่มชุ่มชื่น ด้วยสารสกัดจาก
-เปลือกมะนาวบริสุทธิ์เข้มข้น
-วิตามินบี 3 
-สารสกัดจากต้นวิลโลขาว 
-ผลไม้รวม
ช่วยให้ ผิวที่หมองคล้ำดูกระจ่างใสขึ้น รอยแตกลายดูจางลง

-สารสกัดข้าวโอ๊ตสีดำ จากประเทศสวิสเซอร์แลนด์
ช่วยให้ผิวชุ่มชื่น เนียนนุ่ม


-สารสกัดจากต้นคอมเฟรย์ และดอกคาโมมายล์สกัด
เป็นสารปกป้องผิวจากอาการระคายเคือง


โดยรวมแล้วจึงช่วยให้ก้นของเรามีความเนียนนุ่ม ลดผิวแตกลาย ผิวดูขาวกระจ่างใส ลดสิวอีกด้วยค่ะ


ตัวกล่องมาในสีสันสดใส สีสวยสะดุดตา น่าซื้อมาใช้มากๆด้านหน้ากล่อง บอกถึงจุดประสงการใช้ชัดเจน ด้านข้างจะเป็นส่วนประกอบ และสถานที่ผลิต ด้านหลังเป็นสรรพคุณและวิธีใช้ค่ะ






พอเปิดออกมาก็พบหลอดครีมที่มีสีเหมือนกับตัวกล่อง ซึ่งมาในประมาณ 100 กรัม 


พอเปิดฝาออกมาแล้วบีบครีมลงบนหลังมือดู ก็รู้สึกว่า เนื้อครีมมีความเข้มข้น แต่เกลี่ยง่ายมากๆ เนื้อครีมมีสีขาว มีกลิ่นหอมอ่อนๆ 


หลังจากทาที่หลังมือแล้วไม่เหนียวเหนอะหนะเลยค่ะ กลับทำให้ผิวชุ่มชื่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลย


เวลาใช้ มิ้วจะทาหลังอาบน้ำเสร็จทั้งเช้าและเย็นโดยการ บีบครีมมาให้มีขนาดพอดีกับส่วนที่เราจะทา แล้วก็ทาวนๆไปให้ทั่วก้นค่ะ 


ความรู้สึกตอนทาคือทาง่ายมาก เนื้อไม่เหนียวเกินไป ทำให้ผิวของเราชุ่มชื้นขึ้น กลิ่นก็หอมค่ะ เนื้อครีมซึมไวไม่เหนียวเหนอะหนะ อีกด้วย



หลังจากที่ใช้มาประมาณ 1 สัปดาห์ มิ้วรู้สึกว่าผิวตรงบริเวณก้นมีความเนียนนุ่มมากขึ้นกว่าแต่ก่อน ผิวดูกระจ่างใสมากขึ้น รอยแตกลายดูลดลงค่ะ แต่ก็ต้องใช้ระยะเวลาดูแลรักษากันไปผลก็จะดีขึ้นตามลำดับ


สิ่งที่มิ้วชอบในตัว Nakiz Lively Butt Cream ก็คือ
-เนื้อครีมที่เกลี่ยง่ายมากๆ (เพราะบางยี่ห้อที่มิ้วเคยใช้เนื้อมันหนักไปจนเกลี่ยยากมากๆ)
-กลิ่นที่หอมละมุนดูอ่อนโยน (บางยี่ห้อกลิ่นมันก็หอมนะคะแต่มันอาจจะหอมไป จนทำให้กลายเป็นฉุนได้)



แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น นอกจากมิ้วจะใช้  Nakiz Lively Butt Cream แล้ว ก็ยังต้องสครับผิวบริเวณก้นด้วยค่ะ เพื่อขัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไป โดยมิ้วจะสครับ วันเว้นวัน ตอนอาบน้ำในช่วงเย็น ใช้สครับที่เรามีอยู่ มาขัดวนๆบริเวณก้น รักแร้ ข้อศอก หัวเข่า อย่างเบามือค่ะ ทิ้งไว้ อีก 10 นาที แล้วล้างออก

บางวันถ้าอยากบำรุงผิวให้ล้ำลึกอีก มิ้วก็จะนำครีมมาผสมกับน้ำมันมะพร้าวค่ะแล้วก็ทา น้ำมันมะพร้าวจะช่วยให้ผิวชุ่มชื้น และลดความแห้งกร้านลงได้ค่ะ


หวังว่าจะหายสงสัยนะคะว่า ก้นดำ ทำไงดี รักแร้ดำ แก้อย่างไร แต่ทุกสิ่งทุกอย่างมันต้องใช้เวลาและการดูแลผิวอย่าง สม่ำเสมอค่ะ ถ้าใครชอบและสนใจใน  Nakiz Lively Butt Cream ตัวนี้ก็สามารถไปหาซื้อกันได้ที่ EVEANDBOY, Hej Street, Konvy.com 

โปรโมชั่น : ลด 100 บาทจากปกติ 490 เหลือ 390
สั่งซื้อออนไลน์จากเพจ Nakiz thailand โปร 2 หลอด 750 และ 3 หลอด 1,000 บาท


และสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่