วันพฤหัสบดีที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2562

รีวิว Baby Bright Lip & Cheek Summer Limited Edition มันจี๊ดมาก!!! | MG-Review

Baby Bright 
Lip & Cheek 
Summer Limited Edition



สวัสดีค่าทุกคน ถึงฤดูร้อน จะผ่านมาแล้วแต่ทุกฤดูของประเทศไทยก็ยังร้อนอยู่ค่ะ ฮ่าๆ รีวิวนี้เลยเป็นอะไรที่สีสันจี๊ดจ๊าดหน่อย ตามสีลิปเลยค่ะ เพราะมิ้วจะมารีวิว Baby Bright Lip & Cheek รุ่น Summer Limited Edition นั่นเอง สีสันจะสดใสตาม แพคเกจหรือไม่อย่างไรนั้น ไปชมกันเลยจร้า






Baby Bright Lip & Cheek Summer Limited Edition เป็นลิปแมทเนื้อมูสออกกำมะหยี่ มีความนุ่มลื่น เกลี่ยง่าย กลิ่นหอม ทาได้ทั้งตา แก้ม แล้วก็ปาก แถมไม่ดูแห้งเลยค่ะ เพราะมีสารบำรุงหลายตัวมากไม่ว่าจะเป็น
- Dictyopteris Oil จากสาหร่ายทะเลสีน้ำตาล
- Astaxanthin จากสาหร่ายทะเลสีแดงใต้ท้องทะเลลึก
ที่ช่วยเพิ่มชุ่มชื่นแบะคงความยืดหยุ่นให้ริมฝีปากอวบอิ่มตึงกระชับ
- Vitamin B ช่วยเพิ่มคอลลาเจนให้ริมฝีปากดูอวบอิ่ม พร้อมยังปกป้องผิวปากจากแสงแดด

โดยมิ้วเลือกซื้อมาด้วยกันทั้งหมด 3 สีค่ะ (จริงๆมีด้วยกันถึง 10 สีเลย)


- 01 Pineapple สีเหลือง เหมือนสับปะรดเลย
- 07 Mala Chili สีส้มสดปนแดงนิดๆ
- 08 Watermelon สีแดงอมชมพู ทำให้นึกถึงแตงโมจริงๆค่ะ มองไกลๆแล้วเด่นมาก

ซึ่งมาในแพคเกจคล้ายๆรุ่นเก่าค่ะ แต่ตัวหลอดจะเป็นเนื้อด้าน(ซึ่งมิ้วชอบมาก) ฝามาเป็นแบบหมุน สีสันจะจี๊ดจ๊าด เนื้อสีจะสดกว่ารุ่นเก่ามาก ส่วนตัวฝาก็มีสีสันสดใส สีฟ้า และสีส้ม (ซึ่งมิ้วถามทางแบรนด์มาแล้วนะคะว่า สีของฝาทั้งสองต่างกันยังไง คำตอบก็คือไม่ต่างกันจร้า แค่เป็นแฟชั่นเฉยๆ)

มาในปริมาณ 2.4 กรัม ราคา ไม่เกิน 100 บาท แล้วแต่สถานที่ซื้อค่ะ

ซึ่งพอมิ้วลองทาลิปลงบนแขนเพื่อทดสอบสี ก็เห็นว่าสีมีความสด แบบสดมาก ขุ่นพระ กลิ่นก็หอมสดชื่นแบบลูกอมรสผลไม้ค่ะ เท่าที่มิ้วรู้สึกนะคะ


แถมเนื้อก็เกลี่ยง่ายมากๆ เนื้อนุ่มลื่น หลังทาแล้วไม่แห้งผาก ไม่หนักปาก ไม่เหนียวปากด้วยค่ะ


เมื่อลองปาดสีลงที่แขนแล้วจะเห็นว่าสีมันชัดมากจริงๆค่ะ มิ้วชอบมากๆเลย ยกเว้นสีเหลือง เบอร์ 01 ที่อาจจะดูสดชัด แต่พอเกลี่ยๆไล่สีดูแล้วก็อาจจะดูจางๆไปนิดนึงค่ะ


อย่างที่บอกไว้ตอนแรกว่า ลิปตัวนี้เอามาทาได้ทั้ง ตา แก้มและก็ปาก มิ้วเลยเอาสี เบอร์ 07 มาทาที่แก้มให้ดูกันค่ะ


เวลาทามิ้วใช้สีแค่เพียงนิดเดียวเท่านั้นค่ะ เพราะสีมันชัดมากจริงๆ มิ้วก็เอามาแต้มที่แก้ม แล้วเกลี่ยให้ทั่วๆค่ะ (เวลาเกลี่ย อย่าให้มันต่ำกว่าปีกจมูกนะคะ ไม่งั้นแก้มจะดูย้อย) หลังเกลี่ยแล้วสีมันก็ดูเป็นธรรมชาติมากๆเลย ดูฉ่ำๆค่ะ แต่พอทาแป้งไปอีกชั้นนึงสีแก้มก็จะดูดรอปลงค่ะ หน้าก็ดูแมทขึ้น ดูธรรมชาติมากขึ้นค่ะ


จากนั้นมิ้วก็เอาลิปมาแต่งสีตาต่อค่ะ  
มิ้วก็เอาสีเบอร์ 07 สีส้มๆมาลงให้ทั่วเปลือกตาแล้วเกลี่ยให้ทั่วค่ะ ทาที่ตาล่างด้วย

ต่อมาก็ใช้สี แดง เบอร์ 08 มาแต้มที่หางตา (ใช้เพียงนิดเดียวนะคะ เพราะสีมันเข้มมากจริงๆ) เอามาทาเป็นรูป < > เพื่อให้สีตาดูมีมิติมากขึ้นค่ะ (ตามันจะแดงๆหน่อย อย่าเพิ่งตกใจ ยังแต่งไม่เสร็จ ฮ่า) จากนั้นเกลี่ยให้ดูฟุ้งๆค่ะ



ต่อมาใช้สี เบอร์ 01 เอามาแต้มที่ กลางตาแล้วเกลี่ยให้ทั่ว มันจะทำให้สีเปลือกตาเราอ่อนลงมานิดนึงค่ะ สีมันไม่ได้เหลืองชัดเจนแบบในขวดขนาดนั้นค่ะ


เพิ่มประกายที่เปลือกตาด้วยสีทองที่มีชิมเมอร์ค่ะ ตาจะได้ดูไม่น่ากลัวจนเกินไป แถมมีมิติมากขึ้น แล้วก็ทาที่หัวตาด้วยสีชิมเมอร์สีอ่อนๆ (ที่เส้นสีเหลือง)
จากนั้นก็เขียนอายไลน์เนอร์ให้ชิดขอบตา
แล้วเขียนขอบตาล่างด้วยดินสอสีน้ำตาลเข้ม (ที่เส้นสีแดง)
ดัดขนตา ปัดขนตา ก็เป็นอันเสร็จแล้วค่ะ



เมื่อดวงตาเสร็จแล้วก็มาดูที่ปากกันบ้างค่ะ


เริ่มด้วยสีเหลือง เบอร์ 01 มิ้วคิดว่ามันไม่เหมาะกับการทาเดี่ยวๆนะคะสำหรับมิ้วนะ ฮ่าๆๆ
อาจจะต้องเอาไปผสมกับสีอื่นๆแทนจะดีกว่าค่ะ 
สีเหลืองอ่อนไป ปิดปากคล้ำไม่มิด (ก่อนหน้านี้มิ้วทารองพื้นและทาแแป้งทับที่ปากด้วยนะคะ แต่ก็ยังเอาไม่อยู่)



สีเบอร์ 07 คือสวยมากสำหรับมิ้ว ชอบมาก เนื้อสีชัด
ทาแบบไล่สี ก็สวย กลบปากคล้ำได้มิด ดูเป็นธรรมชาติ (ขนาดมิ้วไม่ได้ทารองพื้นที่ปากเลย)
ทาเต็มปาก สียิ่งชัด แน่น สวยเด่นเลยค่ะ เหมาะกับสาวผิวสีน้ำผึ้งอย่างมิ้วมากๆ

แนะนำ สีปากแบบนี้ แต่งตาสีอ่อนๆ จะยิ่งดูสวยหรูดูแพงค่ะ




สีเบอร์ 08 แดงอมชมพู สีนี้ก็ดีอีกเช่นกัน คือ ไม่เสียใจเลยค่ะที่ซื้อมา สีชัดมากๆ
ทาแบบเบลอๆ ก็ดูสวยแบบธรรมชาติมาก เป็นแดงที่ดูไม่หลอกค่ะ ดูเหมือนปากแดงจริงๆ
ทาแบบเต็มปาก ก็สวยปัง เริ่ด เด่นมาตั้งแต่ปากซอบเลยจร้า ดูเข้ากับสีผิวน้ำผึ้งแบบเราอยู่ทาแล้วดูฟันขาว ยิ่งคนผิวขาวทาก็จะดูปังเข้าไปใหญ่ค่ะ สุดจริงสีนี้!!!

แนะนำ สีปากแบบนี้ถ้าทาเต็มปาก ควรแต่งตาสีอ่อนๆ เช่นสีทอง สีชมพูอ่อน น้ำตาลอ่อน ส้มอ่อน จะได้ดูสวยแพง ผู้ดีมากๆ



เมื่อนำมาเปรียบเทียบกันทุกสี ก็ยิ่งเห็นเลยว่าสีมันชัดจริง แน่นจริง ยกเว้นสีเหลืองค่ะ


เมื่อลองเอา สีเบอร์ 01 มาผสม กับเบอร์ 08 อย่างละเท่าๆกัน จะได้สีออกส้มกลางๆ (สีนี้จะอ่อนกว่าเบอร์ 07 ค่ะ) ก็ดูละมุนไปอีกแบบ



ส่วนสองรูปนี้ มิ้วผสม ทั้ง 3 เบอร์ อย่างละเท่าๆกัน ทาให้ทั่วปาก 
แล้วเอาสี เบอร์ 08 มาทาด้านในปาก ให้สีมันไล่กันค่ะ สีปากก็ดูมีมิติไปอีกแบบ



ความติดทน

หลังจากที่เวลาผ่านไป ประมาณ 7 ชั่วโมง ค่ะ อากาศค่อนข้างร้อนเลยทีเดียว(หน้าก็คือมันมาก ฮ่าๆ) แล้วก็กินข้าวแบบจัดหนักจัดเต็ม จากที่เห็นในรูปสีตามีความอ่อนลงนิดนึงค่ะ แต่ก็ยังคงเห็นชัดอยู่ 
ส่วนสีแก้มก็ยังคงเห็นอยู่นิดๆค่ะ
สีปากดูลกลงไปเกือบครึ่ง แต่ก็ยังคงเห็นสีอยู่บ้างค่ะ


ความกันน้ำ

เมื่อลองทดสอบเอาน้ำมาฉีดดูก็เห็นว่ามันไม่หลุดลอกแต่อย่างใดค่ะสียังคงชัดอยู่ แต่พอเริ่มเอานิ้วมาถูเบาๆ สีก็เริ่มหลุดทีละนิดๆ แต่ไม่มีความเป็นขุยแต่อย่างใด
สีเหลืองเริ่มหลุดไปเป็นสีแรก ตามมาด้วยสีส้ม และสีแดงที่ติดทนมากที่สุดค่ะ


หลังซับด้วยทิชชู่ แล้วเอาทิชชู่ถูแรงๆ ผลที่ได้ก็คือสีแทบจะไม่เหลืองเลยจร้า ตามภาพเลย แต่ที่เห็นได้ชัดคือยังมีสีแดงหลงเหลืออยู่นั่นเอง


โดยสรุปแล้ว คะแนนโดยรวมเป็นดังนี้ค่ะ

สีชัด 10/10 (ยกเว้นสีเหลือง เอาไป 5/10)
ความติดทน 7/10
ความกันน้ำ 8.5/10

สิ่งที่มิ้วชอบใน Baby Bright Lip & Cheek Summer Limited Edition ก็คือ
- สีชัด(มาก)
- เนื้อลื่น เกลี่ยง่าย
- ทาแล้วไม่หนักปาก ไม่เป็นขุย ไม่เหนียว เนื้อลิปไม่ตกร่อง นั่นเองค่ะ


ดูรีวิวเต็มๆแบบนี้แล้วหวังว่าจะชอบกันนะคะ ใครที่อยากได้ลิปสีแจ่มๆ แต่ทาแล้วสบายปากมิ้วก็แนะนำเลยค่ะ น้องๆนักเรียนนักศึกษา ก็สามารถซื้อหากันได้เลย มีขายที่ เซเว่นด้วยแหละ แต่มีบางสีเท่านั้นนะคะ ยังไงก็ไปลองดูกันค่ะ 

สุดท้ายนี้ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านกันนะคะ ถ้าชอบฝากกดแชร์ บทความนี้ เผื่อจะเป็นประโยชน์ต่อคนอื่นๆด้วย ขอบคุณมากๆค่ะ <3



วันศุกร์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

กักเก็บน้ำให้กับผิวด้วย Smooto Aloe & Tomato Mineral Spray

Smooto
Aloe & Tomato Mineral Spray


สวัสดีค่าทุกคน รีวิวนี้ใครที่กำลังมองหาสเปรย์น้ำแร่ ในเซเว่นอยู่ละก็ มาถูกทางละจร้า เพราะมิ้วมี ผลิตภัณฑ์ใหม่จากแบรนด์ Smooto มาแนะนำ นั่นก็คือ Smooto Aloe & Tomato Mineral Spray ซึ่งนอกจากจะเป็นสเปรย์น้ำแร่ที่ช่วยให้ความชุ่มชื้นแล้ว ก็ยังมีคุณประโยชน์อีกมากมายเลยทีเดียว มิ้วใช้แล้วจะเป็นอย่างไร มีอะไรน่าสนใจบ้างนั้น ไปชมกันเลยจร้า


Smooto Aloe & Tomato Mineral Spray เป็นสเปรย์น้ำแร่ที่นอกจากจะอุดมไปด้วยแร่ธาตุที่หลากหลายแล้ว ก็ยังมีผสมของว่านหางจระเข้ ไฮยาลูรอนิค แอซิด อัลลันโทอิน ช่วยในเรื่องของความชุ่มชื่น กักเก็บน้ำและความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ช่วยให้ผิวเนียนนุ่ม เรียบเนียน ให้การแต่งหน้าติดทนนานยิ่งขึ้น และก็ยังมีส่วนผสมจากมะเขือเทศ ที่ช่วยให้ผิวกระจ่างใสอีกด้วยค่ะ 

หรือเรียกได้ว่า เป็นสเปรย์น้ำแร่ล็อคเมคอัพ ที่ช่วยบำรุงผิวชุ่มชื้นตลอดวัน นั่นเองค่ะ

 
เขาบอกว่ามาด้วยกันถึง 5 คุณประโยชน์ใน 1 เดียว นั่นก็คือ
1. ฉีดก่อนแต่งหน้า ช่วยเตรียมผิวให้ได้รับการบำรุง
2. ฉีดหลังแต่งหน้า ช่วยให้การแต่งหน้าติดทนนาน
3. ฉีดระหว่างวัน ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะ
4. ช่วยให้ผิวผ่อนคลาย เย็นสดชื่น
5. สเปรย์ผิวหลังออกแดด ช่วยปลอบประโลมผิวได้ดี

และสเปรย์ก็ยังมีความสดชื่นไม่ระคายเคืองต่อผิว ผิวแพ้ง่ายก็ใช้ได้ค่ะ



ตัวกระป๋องมาในขนาดกระทัดรัด ปริมาณ 50 ml. มีสีสันน่ารัก พกพาไปใส่กระเป๋าเครื่องสำอางได้สบายค่ะ 
ฝามีสีเขียวสะดุดตา นอกจากจะทำให้หาง่ายแล้วก็ยังทำให้รู้สึกสดใสทุกครั้งที่ได้มองด้วย 
เปิดมาจะเจอหัวที่เป็นสเปรย์ค่ะ

ราคา 129 บาท จำหน่ายที่ 7-11


เมื่อลองฉีดสเปรย์ลงบนหลังมือแล้วลองดูที่หัวสเปรย์ก็จะเห็นว่า ละอองมีความกระจายเป็นวงกว้างดีงาม มากๆ ผิวรู้สึกเย็นสดชื่น หลังมือดูชุ่มชื้นขึ้นกว่าก่อนฉีดสเปรย์ค่ะ


เมื่อเวลาผ่านไปสักพัก ด้านที่ฉีดสเปรย์ดูมีความชุ่มชื้นกว่าก่อนฉีดสเปรย์นั่นเอง


เมื่อมิ้วลองสเปรย์ลงบนฝ่ามือดูนานๆ เพื่อดูเนื้อ ก็จะเห็นว่าเนื้อสเปรย์มีสีขาวขุ่นๆค่ะ เนื่องจากมีส่วนผสมที่ได้บอกไปเมื่อตอนแรกนั่นเอง ส่วนกลิ่นก็หอมอ่อนๆค่ะ ไม่เหม็น ไม่ฉุนแต่อย่างใด


เมื่อเปลี่ยนฉากเป็นสีดำ ยิ่งเห็นได้ชัดเลยว่า ละอองสเปรย์มีการกระจายดีมากๆค่ะ



มิ้วจะใช้สเปรย์ก่อนแต่งหน้า ก็คือหลังทาสกินแคร์เสร็จแล้ว หรือก่อนเราจะลงสกินแคร์ก็ได้ค่ะ 


หลังฉีดสเปรย์มิ้วรู้สึกว่า ใบหน้า เย็นสดชื่นขึ้น ผิวดูชุ่มชื้นขึ้นมากกว่าก่อนฉีดสเปรย์นั่นเอง


หลังแต่งหน้ามิ้วก็ฉีดสเปรย์ทับอีกครั้งนึงเพื่อให้ผิวหน้าดูชุ่มชื่นขึ้น และเมคอัพติดทนยิ่งขึ้นค่ะ หรือเวลาที่เรารู้สึกว่าหลังทาแป้งแล้วหน้าดูแห้งเกินไป ก็สามารถฉีดสเปรย์เพื่อให้ผิวหน้าดูชุ่มชื่นเพิ่มขึ้นได้อีกเช่นกันค่ะ


หลังฉีดสเปรย์ก็รูสึกว่าใบหน้าดูชุ่มชื้นขึ้นมากขึ้นทีเดียวค่ะ ยิ่งช่วงนี้อากาศร้อน ยิ่งช่วยให้ใบหน้าดูสดชื่นเข้าไปใหญ่ค่ะ


และในระหว่างวัน ตอนที่เรารู้สึกว่าหน้าดูเหนื่อย อากาศร้อน ก็สามารถฉีดสเปรย์ทับระหว่างวันได้เลยค่ะเพื่อเพิ่มความสดชื่นและป้องกันมลภาวะไปในตัวด้วยนั่นเอง 



เรียกได้ว่า Smooto Aloe & Tomato Mineral Spray ช่วยให้ผิวหน้าของเราเพิ่มความสดชื่น ได้ดีมากๆเลยค่ะ แล้วยิ่งช่วงนี้อากาศร้อนด้วย การที่เรามีสเปรย์ไว้ฉีดระหว่างวันก็เป็นการช่วยให้ผิวของเรารู้สึกดีขึ้นมากๆเลยค่ะ แถมลดความเหนื่อยล้าด้วยค่ะ



โดยรวมแล้วสิ่งที่มิ้วชอบใน Smooto Aloe & Tomato Mineral Spray ก็คือ
- ละอองสเปรย์มีความกระจายดีมากฉีดไม่นานก็ทั่วหน้าแล้วค่ะ
- หลังฉีดสเปรย์ผิวน้าดูชุ่มชื่นดีค่ะ หน้าไม่เปียกจนเกินไป (เพราะสเปรย์บางตัวหัวฉีดดูใหญ่เกินไป อาจจะทำให้เนื้อออกมาเยอะเกินหน้าเราจะเปียกแล้วเปลืองเนื้อผลิตภัณฑ์ด้วยค่ะ)
- ง่ายต่อการพกพาค่ะ เพราะกระป๋องมีขนาดกระทัดรัดแถมสีสันสะดุดตาหาได้ง่ายด้วยค่ะ
- ซื้อหาง่ายด้วยค่ะ เพราะมีขายใน 7-11 นั่นเอง


เป็นยังไงกันบ้างคะ สำหรับ รีวิว Smooto Aloe & Tomato Mineral Spray ที่มิ้วเอามารีวิวให้ดูในวันนี้ หวังว่าจะถูกใจคนที่กำลังมองหาสเปรย์น้ำแร่ ที่ช่วยให้ความชุ่มชื้นและบำรุงไปในตัว แถมปกป้องมลภาวะไปด้วย ครบจบในตัวเดียวแบบนี้ แต่หาซื้อได้ง่ายมากๆเลยค่ะ ถ้าใครสนใจก็อย่าลืมไปหาซื้อกันได้นะคะที่ เซเว่นทุกสาขาค่ะ




วันเสาร์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

จากถั่วมะแฮะ สู่เซรั่มหน้าเด็ก Helios Face Serum | MG-Review

Helios Face Serum

สวัสดีค่ะทุกคน รีวิวนี้มิ้วก็มีสกินแคร์ดีๆมาฝากันอีกแล้ว เป็นของคนไทยทำเองด้วยมันน่าภูมิใจตรงนี้ ตัวที่มิ้วจะพูดถึงนั่นก็คือ Helios Face Serum นั่นเองค่ะ เซรั่มที่มีสารสะกัดมาจาก ถั่วมะแฮะ รายละเอียดจะเป็นอย่างไรบ้างนั้น ไปชมกันเลยจร้า







Helios Face Serum เป็นเซรั่ม ที่มีสารสกัดจากถั่วมะแฮะ 


ซึ่งถั่วมะแฮะเป็นพืชตระกูลถั่วชนิดหนึ่ง สารที่ได้สกัดนี้ได้มาจากเมล็ดของถั่วมะแฮะ ก็คือ สารเป็บไทด์ ซึ่งมีคุณสมบัติ
- มีฤทธิ์การตุ้นการสร้างคอลลาเจนในเซลล์
- ยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานีน
- มีฤทธิ์ต่อต้านเชื้อที่เป็นสาเหตุของสิว
- มีฤทธิ์ต่อต้านอนุมูลอิสระสูง


และด้วยคุณสมบัติที่กล่าวมาจึงทำให้ Helios Face Serum มีส่วนช่วยในเรื่องของ
- ช่วยยับยั้งการสลายตัวของคอลลาเจนและอิลาสติน
- ช่วยลดริ้วรอย เติมเต็มร่องลึก
- ช่วยยกกระชับ
- ช่วยลดฝ้า กระ 
- ช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์ 

ผิวแพ้ง่ายก็สามารถใช้ได้ค่ะ


ตัวขวด มาในสีทองดูสวยหรูดูแพง ตัวฝาเป็นเหมือนหลอดหยด เวลาใช้ให้กดที่ด้านบนค่ะ


ตัวขวดด้านล่าง ทำมาจากแก้ว มีสีใสทำให้สามารถเห็นปริมาณเนื้อเซรั่มด้านในได้สะดวก ด้านหน้าเป็นตัวโลโก้แบรนด์ค่ะ








 เมื่อทำการกดที่ฝาด้านบน ก็จะมีเนื้อเซรั่มออกมาจากหลอด เนื้อเซรั่มจะมีสีเหลืองอ่อนๆ ค่อนข้างเหลว แต่ที่มิ้วชอบมากๆก็คือ มีกลิ่นที่หอมอ่อนๆ ละมุนมากๆเลยค่ะ


เมื่อลองนำมาทาที่หลังมือก็รู้สึกว่า เนื้อเซรั่มเกลี่ยง่าย ซึมไว ไม่เหนียวเหนอะหนะ หลังทาก็จะเห็นว่าหลังมือดูชุ่มชื่นขึ้น กว่าก่อนทาค่ะ




 มิ้วใช้ Helios Face Serum เป็นสกินแคร์ตัวแรก หลังจากที่อาบน้ำเสร็จ โดยการหยดเซรั่มลงบนฝ่ามือ 1-2 ปั๊ม (แล้วแต่ขนาดใบหน้าของแต่ละคนค่ะ) แล้วเอามาวอร์มกับฝ่ามือ แล้วก็ทาไปที่ใบหน้าโดยการวนออกใบหน้าค่ะ อย่าลืมทาที่คอด้วยเพื่อการบำรุงที่ทั่วถึง

สภาพผิว: ผิวมันบริเวณ หน้าผาก คาง และจมูก ไม่ค่อยมีสิว มีใต้ตาคล้ำ กระนิดหน่อย

 ตอนทารู้สึกว่า เนื้อเซรั่มทาง่ายมากๆ กลิ่นของเซรั่มก็หอมรู้สึกสดชื่นมากค่ะ 
หลังทาก็รู้สึกว่าผิวหน้าดูฉ่ำ แต่ไม่มัน ไม่เยิ้ม พร้อมทาครีมบำรุงตัวต่อไปได้เลย


มิ้วใช้ทุกวันค่ะ ทุกเช้าก่อนแต่งหน้า และก็ก่อนนอน หลังใช้มาสักพักมิ้วก็รู้สึกว่า หน้านุ่มขึ้น ผิวดูเรียบเนียนขึ้น รูขุมขนดูกระชับขึ้นกว่าแต่ก่อนค่ะ สิวก็ขึ้นน้อยลง แต่อาจจะวัดไม่ได้เท่าไหร่ เพราะมิ้วก็ไม่ค่อยเป็นสิวอยู่แล้วนั่นเอง ทำให้แต่งหน้าได้ง่ายขึ้นมากๆ แถมผิวไม่แสบไม่ลอก (มิ้วไม่ค่อยแพ้อะไรอยู่แล้วค่ะ)



โดยรวมแล้วสิ่งที่มิ้วชอบในตัว Helios Face Serum นี้ก็คือ
- เนื้อเซรั่มมีความเกลี่ยง่าย ซึมไว 
- กลิ่นหอมละมุนมากๆ
- หลังทาก็ผิวหน้าก็ไม่เหยียวเหนอะหนะแต่อย่างใด


คนที่เหมาะกับ เซรั่มตัวนี้ก็คือ 
- คนที่เริ่มมีริ้วรอยแห่งวัยต่างๆ 
- คนที่ต้องแต่งหน้าทุกวัน ใช้หน้าทุกวัน 
- ผู้ใหญ่วัยทำงานที่มีใบหน้าเหนื่อยล้าจากความเครียดต่างๆ 
- ใช้ได้ทั้งผิวมันและผิวแห้ง ผิวแพ้ง่ายก็สามารถใช้ได้ค่ะ 



อยากให้ไปลองกันจริงๆนะคะ สำหรับ Helios Face Serum ตัวนี้ รับรองว่า ลองแล้วจะติดใจเหมือนที่มิ้วเป็นอยู่ตอนนี้แน่นอน ขาดไม่ได้เลยค่ะหลังอาบน้ำคือต้องทาเลย และมีความสุขทุกครั้งที่ได้ทาเพราะกลิ่นมันหอมมากจริงๆค่ะ


และใครที่สนใจ Helios Face Serum ตัวนี้ก็ลองเข้าไปสอบถามรายละเอียด และสั่งซื้อได้ที่

Facebookhttps://www.facebook.com/heliosthiland/
Websidehttps://www.heliosthailand.com/