วันศุกร์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2561

เครื่องสำอางแบรนด์ไทย ความภูมิใจจากล้านน้า Kay Exotic Lanna Beauty | MG-Review

 Kay 

Exotic Lanna Beauty


ปัจจุบันเครื่องสำอางแบรนด์ไทย เริ่มมีให้เห็นมากมายตามท้องตลาด แต่ละแบรนด์ก็คัดสรรค์สิ่งพิเศษต่างๆมาให้ผู้ใช้อย่างเราได้ทดลองใช้กันอย่างมากมาย แต่จะมีสักกี่แบรนด์กันที่เอา ถั่งเช่า สมุนไพรอันล้ำค่ามาใส่ในเครื่องสำอาง แบรนด์ เคย์ เป็นหนึ่งในนั้นค่ะ ยิ่งถ้าเราได้รู้ความเป็นมาของแบรนด์แล้วจะยิ่งอินกับเครื่องสำอางเหล่านี้มากขึ้น เหมือนที่่มิ้วกำลังอินอยู่ตอนนี้ค่ะ จะเป็นอย่างไรบ้างนั้น ไปชมกันเลยจร้า



มิ้วเป็น blogger อีกหนึ่งคนที่ได้มีโอกาสได้เข้าร่วม Work shop กับทางแบรนด์ เคย์ ซึ่งพี่เก๋ เจ้าของแบรนด์ก็มาพบเจอเราด้วยตัวเองค่ะ พี่เก๋เล่าถึงชีวิตของตัวเองที่ต่อสู้กับโรคร้ายต่างหลายโรค ไม่ว่าจะเป็นมะเร็ง ต้องตัดมดลูกทิ้งไม่สามารถมีลูกได้ เส้นเสียงเป็นอัมพาต แต่ด้วยกำลังแรงใจที่มีทำให้พี่เก๋ ฮึดสู้และสามารถเอาชนะโรคร้ายด้วยตัวเอง จนหายเป็นปกติได้

นั่นจึงเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เกิดแบรนด์ เคย์ขึ้นมา เพราะเครื่องสำอางของแบรนด์นี้มาจากธรรชาติ ทุกสภาพผิวสามารถใช้ได้ แม้กระทั้งคนผิวแพ้ง่ายก็ตาม เป็นอีกแบรนด์ที่เป็นออแกนิค และรักษ์โลกมากๆเลยค่ะ


Blogger ที่เข้าร่วม workshop กับทางแบรนด์ เคย์ ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนคร้าบบรรยากาศเป็นกันเองสุดๆเลย


ถ่ายกับพี่ๆ Blogger ที่ชื่นชอบเสียหน่อย


ถ่ายกับพี่เก๋เจ้าของแบรนด์ เพิ่งรู้ว่า พี่เขาก็จบ ธรรมศศาสตร์เหมือนมิ้วด้วย บังเอิญจริงๆ ค่ะ


ผลิตภัณฑ์ที่มิ้วได้มาลองใช้ก็จะเป็นแป้งฝุ่น โปร่งแสง กับลิปแมทจิ้มจุ่มค่ะ


แค่ดูแพคเกจจิ้งก็สื่อถึงความเป็นไทยมากๆแล้วค่ะ


เดี๋ยวเราไปดูรีวิวกันดีกว่าค่ะว่ามิ้วใช้แล้วจะเป็นอย่างไร

Cordyceps Light Setting Translucent Powder


เริ่มกันที่แป้ง โปร่งแสง ที่มีชื่อว่า Cordyceps Light Setting Translucent Powder มีส่วนผสมของ 
สารอินทีรย์จากแป้งข้าวบาร์เลย์ 
สารสกัดจากผงเห็ดถั่งเช่าสีทอง
ว่านหางจระเข้ 
มีส่วนช่วยในการปกป้องผิวจากมลภาวะ ต่อต้านอนุมูลอิสระ ยับยั้งแบคทีเรีย ควบคุมความมันไม่อุดตัน แล้วก็ยังป้องกันรังสี UVA และ UVB อีกด้วย แถมยังไม่มีพาราเบนที่เป็นสารก่อมะเร็งด้วยค่ะ

ราคาเต็ม 1,250 บาท (ราคาอาจะเปลี่ยนไปตามโปรโมชั่นค่ะ)

มีอยู่ 2 สูตรให้เลือกด้วยกัน ก็คือ
กล่องสีทอง เป็นสูตรเพื่อผิวแพ้ง่าย ไม่มีแร่ทัลลัม และน้ำหอม
กล่องสีดำ เป็นสูตรเพื่อผิวธรรมดา


ลักษณะกล่องมีความสวยงามบ่งบอกความเป็นไทย วาดโดยอาจารย์พิสิษฐ์ ไชยล้อม หนึ่งในศิลปินแห่งขัวศิลปะเชียงราย รวมไปถึงโลโก้ ต่างๆบนหน้ากล่องด้วยค่ะ

โลโก้แบรนด์ เป็นตัว K ที่มีขนนก สื่อถึงการโบยบินเพื่อสร้างสันติภาพ และแรงบันดาลใจให้คนอื่นต่อไปค่ะ

ดอกสีเหลืองๆบนหน้ากล่องนั่นก็คือ ดอกสุพรรณิการ์ หมายถึง การมองโลกในแง่ดี มีความสุข มีพลังงาน ความสดชื่น บริสุธิ์ กระตือรืร้น อบอ่น แต่ชัดเจน

และผู้หญิงที่เห็นบนหน้ากล่องนั่นก็คือ แม่หญิงสุพรรณิการ์ ที่สื่อถึงผู้หญิงที่มีความดีทั้งกายและใจ แต่ก็ยังมีความมุ่งมั่น และมั่นใจในตัวเองค่ะ




ตัวตลับแป้งมาในขนาดเล็กกระทัดรัด ปริมาณ 15 กรัม ทำให้พกพาไปเที่ยวได้สะดวก พัฟมีความนุ่มสบายผิว เนื้อแป้งมีความละเอียดมากๆค่ะ




มิ้วจะใช้ในวันที่ มิ้วลงรองพื้นลงบนใบหน้า เพื่อเป็นการเซทรองพื้น ซับความมันบนใบหน้า ไม่ให้หน้าดูหนาจนเกินไป 

เนื้อแป้งมีความเนียนละเอียด สีเนื้ออ่อนๆ แทบจะไม่มีกลิ่นเลยค่ะ


หลังจากลงบนหลังมือแล้วก็พบว่า หลังมือข้างที่ลงนั้นมีความสว่างขึ้นมานิดนึง แต่ผิวดูไม่แห้งค่ะ

โดยเราสามารถใช้ได้ทั้งพัฟและแปรงค่ะ ก็คือเมื่อเราต้องการเซทรองพื้น มิ้วก็จะเทแป้งลงบนฝ่ามือ หรือฝาของแป้งก็ได้ แล้วใช้พัฟกดไปที่แป้ง แล้วมากดซับให้ทั่วใบหน้าไปตาม จมูก แก้ม หน้าผาก แล้วเกลี่ยให้ทั่วด้วยแปรงใหญ่ๆให้ทั่วใบหน้า วิธีนี้จะช่วยให้หน้าเราไม่ดูแห้งจนเกินไป เพราะแป้งจะเกาะอยู่บนหน้าเราในปริมาณที่พอดีค่ะ  

หรือจริงๆเราก็ใช้พัฟกดซับให้ทั่วใบหน้าได้ตามปกติเลยค่ะ


หลังลงแป้งเสร็จ หน้าก็ดูแมทเลยค่ะ แต่ไม่ได้ดูแห้ง กลิ่นแป้งก็ไม่ฉุน แถมแป้งไม่ไปเน้นรูขุมขนให้ดูกว้างขึ้นด้วยค่ะ  



Toothsome Cordyceps Matte Lipstick



ต่อมาเป็น Toothsome Cordyceps Matte Lipstick ลิปสติกที่ไม่ทำให้ปากแห้ง เพราะมันไม่มีส่วนผสมของน้ำนั่นเอง นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมของ 
ไขมันธรรมชาติที่ได้จากมะม่วง ช่วยทำให้ริมฝีปากชุ่มชื่น 
สารสกัดจากถั่งเช่าสีทอง ช่วยเสริมสุขภาพ
ใช้สีที่มีความปลอดภัย เป็นเกรดอาหาร ปราศจากสารก่อมะเร็ง
ไม่มีพาราเบน ไม่มีทัลลัม 
มีกลิ่นหอมผลไม้ช่วยบำรุงสุขภาพ
เนื้อลิปมีความบางเบา นุ่มลื่นติดทน แต่ไม่เหนียวเหนอะหนะค่ะ

ด้วยส่วนผสมของลิปและสีที่ใช้จึงทำให้ลิปตัวนี้กินได้ หมายถึง  ตอนที่เราทาลิปตัวนี้แล้วไปกินน้ำ กินข้าวก็จะไม่มีสารอันตรายเข้าสู่ร่างกายของเรานั่นเองจร้า

ราคาเต็ม 950 บาท (ราคาอาจะเปลี่ยนไปตามโปรโมชั่นค่ะ)


ตัวกล่องก็มีความคล้ายกับกล่องแป้งเลยค่ะ มาแบบสวยหรูดูแพง และสื่อถึงความเป็นไทยมากๆ


ตัวลิปก็มีความสวยงามมากๆ มองผ่านๆคล้ายๆแบรนด์ไฮเอนราคาเป็นพันๆเลยค่ะ มีความสวยหรู ด้วยการไล่สีจากสีดำไปเป็นสีใส จากบนลงล่าง และด้านล่างเห็นสีของลิปได้ชัดเจน ตัวแปรงเป็นแบบกำมะหยี่ มีความนุ่ม แต่สามารถทาไปที่ริมฝีปากได้อย่างง่ายดาย 


เมื่อทาลงไปบนหลังมือก็พบว่า เนื้อสีชัดเจนมากกกก!!! เนื้อออกมูสๆนิดนึง มีกลิ่นหอมบลูเบอร์รี่ สดชื่นทุกครั้งที่ทาเลยค่ะ




โดยมีด้วยกันทั้งหมด 5 สี ซึ่งแต่ละสีก็จะมีกลิ่นต่างกันออกไปค่ะ โทนสีก็มาในโทนชมพู แดง ส้ม ไปจนถึงสีแดงเข้มเลยค่ะ ยังไงก็เลือกให้เหมาะกับสีผิวของเราด้วยนะคะ

โดยสีที่มิ้วเลือกมาก็คือ สี Sour Berry ที่มีสีแดงเข้มอมม่วงนิดๆ ดูเข้ากับสาวผิวสีน้ำผึ้งมากๆค่ะ ทาเมื่อไหร่ก็ดูปัง ดูมีพลังขึ้นมาทันที แถมไม่ต้องแต่งเปลือกตาหน้าก็ดูสวยเด่นแล้วค่ะ


ตัวลิปสามารถทาไปที่ปากได้เลยโดยไม่ต้องลงลิปมันก่อนค่ะ เพราะเนื้อลิปก็มีความชุ่มชื่นเพียงพอแล้ว 
มิ้วจะเริ่มทาที่ริมฝีปากล่างก่อน แล้วไปที่ริมฝีปากบน จากนั้นใช้นิ้วเกลี่ยสีลิปส่วนเกินออกค่ะ หรือจะใช้เป็นแปรงทาลิปโดยเฉพาะก็ได้ปากก็จะดูสวยคมไปอีกขั้น

ตอนทาลิปมิ้วรู้สึกว่ามันเย็นๆด้วยค่ะ อาจจะเป็นเพราะถั่งเช่าหรือส่วนผสมอะไรสักอย่าง รู้สึกดีทาลิปได้แบบเพลินๆกันเลยทีเดียว 

หลังทาเสร็จลิปก็ยังไม่แห้งไปในทันที ต้องให้เวลาเขาสักพัก ไม่เกิน 3 นาทีค่ะ หรือถ้าใครไม่อยากรอก็เอาทิชชู่เม้มไปที่ปากเพื่อซับลิปส่วนเกินออกมาได้เลยค่ะ


หลังทาเสร็จก็จะออกมาเป็นประมานนี้ แดงแบบทรงพลัง สามสไตล์สาวผิวสีน้ำผึ้งไปเลยจร้าา



โดยรวมแล้วมิ้วชอบมากๆเลยค่ะ ทั้งตัวกล่อง ตัวผลิตภัณฑ์ และเรื่องราวกว่าจะมาเป็นแบรนด์เคย์ ทุกขั้นตอนบ่งบอกถึงความใส่ใจในแบรนด์และผู้บริโภคมากจริง

แบรนด์นี้จึงเหมาะมากๆกับคนที่มีผิวแพ้ง่าย เป็นสิวง่าย หรือคนที่ต้องการอยากได้เครื่องสำอางที่ปลอดภัยเอาไปใช้ในชีวิตประจำวัน เพราะทุกวันนี้เราเจอสารเคมีมามากพอแล้วค่ะ การหาเครื่องสำอางที่ทั้งรักษ์โลกและรักผู้บริโภคอยู่ในคราวเดียวกันจึงเป็นสิ่งที่ควรมีติดตัวไว้เป็นอย่างยิ่ง 


ถึงราคาดูเหมือนจะสูงไปสำหรับใครหลายๆคน แต่เมื่อเราเอามาเทียบกับส่วนผสมที่ใช้ และคุณภาพที่เราจะได้รับมันก็คุ้มค่าที่จะลงทุนมากๆค่ะ 

เห็นแบบนี้แล้วใครที่อยากมี แบรนด์ เคย์ ไว้ในครอบครองก็ง่ายๆมากๆ เพราะมีขายที่ร้านตำหรับไทยและช่องทางออนไลน์ต่างๆได้เลยจร้า


IG: kay_exoticlanna
line@: @kayexotic


วันเสาร์ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2561

ครั้งแรก!!! กับการทำ HIFU Gen 5 Plus ที่ Sinota clinic หน้าเรียว หน้าเด็ก แบบไม่ศัลยกรรม | MG-Review

HIFU
SINOTA CLINIC


สวัสดีค่าทุกคน รีวิวนี้ก็จะดูแปลกตาไปสักเล็กน้อยเพราะมิ้วไม่ได้มารีวิว เครื่องสำอาง สกินแคร์ หรือพาไปเที่ยวแต่อย่างใด แต่มิ้วจะพาทุกคนไปรู้จักกับ การทำ "HIFU" ที่ช่วยให้ใบหน้าของเราเล็กและดูเด็กลงโดยที่เราไม่ต้องศัลกรรมเลยด้วย ความพีคก็คือนี่เป็นการทำสวยครั้งแรกของมิ้วด้วยเพราะมิ้วไม่เคยไปทำหน้ามาก่อน ไม่เคยศัลกรรม หรือลงเข็มใดๆทั้งสิ้น!!! แค่คิดก็ตื่นเต้นละ >___<  มิ้วจะทำออกมาแล้วเป็นอย่างไรบ้างนั้น ไปชมกันเลยจร้า


เรื่องก็มีอยู่ว่า มิ้วได้มีโอกาสไปทำ HIFU มาที่ SINOTA Clinic ตั้งอยู่ที่ ชั้น 5 ของ Gateway เอกมัย ซึ่งหลายคนอาจจะสงสัยว่า HIFU นี่มันคืออะไร HIFU ก็คือคำที่ย่อมาจาก High Intensity Focus Ultrasound ความหมายคร่าวๆ ก็คือเป็นการใช้คลื่น อัลตร้าซาวน์ ที่มีควมเข้มข้นสูง ส่งเข้ามาในใต้ชั้นผิวของเรา มีผลทำให้โครงสร้างของผิวเรา มีความกระชับขึ้น พร้อมกับไปกระตุ้น ให้สร้าง คอลลาเจน และอิลาสตินใต้ชึ้นผิวทำให้เราหน้าดูเด็กลงอีกด้วยค่ะ

สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มได้ที https://www.sinotaclinic.com/28/




วิธีการเดินทาง
มิ้วเดินทางจากลพบุรี มาที่ กทม. แล้วก็นั่ง BTS มาลงที่สถานี เอกมัย แล้วก็เดินเข้ามาใน Get way เอกมัย จากนั้นขึ้นลิฟไปที่ ชั้น 5 พอเปิดลิฟออกมาก็ถึงเลยค่ะ เดินทางสะดวกมากๆ ไม่หลง จะหลงก็แต่คนนี่แหละที่ไม่ค่อยชินทาง เพราะไม่เคยมาที่นี่เลย ฮ่าๆ ถ้างง ก็ถามเจ้าหน้าที่ได้เลยค่ะ

มาตอนเขามีตลาดพอดีค่ะ ถ่ายจากมุมบนสวยมากๆ

วิธีการทำ
พอมาถึงที่คลินิค ทุกคนก็ต้อนรับเป็นอย่างดีค่ะ เปิดประตูเข้ามาก็จะเจอโซฟาที่รับแขก มีความสวยหรูดูแพงมาก (แม้แต่ที่นั่งพักก็ยังจะรีวิว ฮ่าๆ) มีเก้าอี้รีบรองลูกค้า และห้องต่างๆแยกกันไป ซึ่งมิ้วอาจไม่ได้ถ่ายมาให้ดูค่ะ ต้องขอสงวนไว้เป็นพื้นที่ส้วนตัว



 และพอถึงเวลา ก็เริ่มทำได้เลยค่ะ ไม่ต้องอดข้าว อดน้ำแต่อย่างใด

- อันดับแรกก็ต้องไปถ่ายรูปกันก่อนเพื่อเอาไว้เปรียบเทียบดูความเปลี่ยนแปลง
- ต่อมา ก็คือต้องลบเครื่องสำอาง ตรงบริเวณแก้ม 2 ข้าง และคาง เหลือไว้แค่ตากับปาก (ลบตรงที่เราจะทำนั่นเองจร้า บางคนอาจจะลบทั้งหน้าเพราะทำทั้ง ยกคิ้ว ร่องแก้มด้วยอะไรแบบนี้) แล้วก็เพื่อความสะดวกในการเดิน ที่นี่ก็จะให้เปลี่ยนรองเท้าด้วยค่ะ


- จากนั้นก็เริ่มการทำ HIFU ได้เลยจร้า

โปรแกรมที่มิ้วทำมีชื่อว่า HIFU Gen 5 Plus ซึ่งจะมีความเจ็บน้อยกว่าการทำ HIFU แบบธรรมดาค่ะ

          ก็คือเราจะเข้าไปอีกห้องนึง พอคุณหมอมาถึง ก็จะวิเคราะห์โครงหน้าเราก่อนค่ะ จากนั้น ก็นอนบนเก้าอี้ แล้วเริ่มทำโดยการทาเจลใสๆ คล้ายๆกับเจลที่เราทาตอนตรวจครรภ์นั่นเองค่ะ จากนั้นก็เอา อุปกรณ์มานาบที่กรามของเรา แล้วก็ยิงคลื่นออกมาแล้วก็ค่อยๆยกขึ้นมาตามสันกราม โดยมิ้วเริ่มจากกรามด้านซ้ายก่อน ซึ่งคุณหมอบอกว่า กรามแต่ละข้างก็อาจจะใช้ความเข้มข้นของคลื่นไม่เท่ากัน เพราะโครงหน้าเราสองด้านไม่เท่ากันนั่นเองค่ะ จากนั้นก็ไปที่กรามด้านขวาโดยด้านนี้จะต้องใช้คลื่นที่มีความเข้มข้นมากกว่าด้านซ้ายค่ะ เพราะด้านซ้ายแก้มค่อนข้างจะตกกว่าด้านขวา จากนั้นก็มาที่ใต้คางนั่นก็คือตรง เหนียงของเรานั่นเอง (ตรงนี้มิ้วอยากกำจัดมันทิ้งไปมาก ฮ่าๆ)


ระยะเวลาในการทำ
แต่ละข้างก็จะไม่เท่ากัน  แต่รวมๆเวลาทั้งหมดแล้วถ้าจำไม่ผิดมิ้วคิดว่า ไม่เกิน 1 ชั่วโมงค่ะ พอทำเสร็จแล้ว ก็ไม่ต้องพักฟื้นแต่อย่างใด สามารถทำกิจกรรมอย่างอื่น หรือแต่งหน้าต่อได้เลย

ข้อควรปฏิบัติหลังทำ HIFU
หลังทำ HIFU ก็หลีกเลี่ยงแสงแดดจัดๆ หรือถ้าจะต้องเจอแดดจริงๆก็ควรทาครีมกันแดด (จริงๆก็ควรทาตอนออกแดดทุกครั้งค่ะ เพื่อกันฝ้า กระต่างๆ)

ความรู้สึกตอนทำ HIFU
ตอนที่คุณหมอยิงคลื่นก็จะรู้สึกอุ่นๆบริเวณที่ยิงคลื่น แล้วถ้าคนไหนที่มีการอุดฟัน หรือดัดฟันมา ก็จะมีอาการเสียวๆฟันนิดหน่อย เหมือนตอนเรา กรอฟัน ตอนขูดหินปูนอ่ะค่ะ แต่ไม่เจ็บ เป็นความรู้สึกที่มิ้วทนได้นะคะ (ซึ่งการทนความเจ็บของแต่ละคนก็จะไม่เท่ากันเด้อ) แต่ถ้าใครที่กลัวเจ็บก็จะมียาชาทาที่ใบหน้าก่อนทำค่ะไม่ต้องกลัว แล้วขณะทำก็สามารถพูดคุยกับหมอได้ปกติเลยค่ะ

ความรู้สึกหลังทำ HIFU
รูปหน้า หลังทำ HIFU ที่กรามด้านซ้ายเสร็จ เมื่อเปรียบเทียบกับอีกข้างก็จะเห็นว่า ใบหน้าด้านซ้ายนั้นดูยกกระชับขึ้นมาอย่างชัดเจนค่ะ ชัดจนคนอื่นตกใจ ฮ่าๆ


หลังทำเสร็จทั้งสองข้าง ก็รู้สึกว่าใบหน้าดูเรียวขึ้นนะคะ เหนียงก็ดูลดลง (ชอบตรงนี้ ฮ่าๆ) แต่คุณหมอบอกว่า คนที่มีแก้มแบบมิ้ว ก็จะเห็นไม่ชัดเท่าคนที่เนื้อแก้มน้อยๆค่ะ (ก็คือคนที่มีเนื้อแก้มน้อย จะเห็นผลได้ชัดกว่านั่นเอง) ยิ่งคนที่เริ่มมีอายุ เริ่มมีริ้วรอย ก็จะเห็นได้ชัดเลยค่ะ

หลังทำ HIFU มา มิ้วมีความรู้สึกเหมือนมีอาการเมื่อยๆตรงช่วงกรามค่ะ แต่ก็พูดได้ปกติ พอเวลาผ่านไปประมาณ 1 อาทิตย์ ความรู้สึกก็ค่อยๆหายไปค่ะ

หลังจากทำ HIFU ไป 1 เดือนมิ้วรู้สึกว่าใบหน้าดูเล็กลงกว่าเมื่อก่อน โดยเฉพาะตรงเหนียงค่ะ มันลดลงจนรูสึกได้ ฮ่าๆ ดูมีกรอบหน้ามากขึ้นด้วย


แต่ถ้าเราอยากจะเห็นผลที่ชัดเจนจริงๆ ที่คลินิคแนะนำว่า ให้ดูต่อไปอีก 3 เดือนค่ะ รอให้คอลลาเจนและอิลาสตินผลิตขึ้นมาใหม่ ก็จะเห็นผลได้ชัดเจนกว่านี้

คำแนะนำ
หลังทำ HIFU นอกจากจะทาครีมกันแดดแล้ว ก็ทาบำรุงด้วยเซรั่ม วิตามินC ก็จะช่วยในการการสร้างคอลลาเจนมากยิ่งขึ้นค่ะ เลือกสูตร และแบรนด์ที่เราชอบได้เลย

HIFU เหมาะกับคนที่มีใบหน้าหย่อนคล้อยและต้องการให้หน้าดูกระชับขึ้น และเรียวขึ้น จึงเหมาะกับคนที่มีอายุประมาณ 25 - 35 ปี ค่ะ

HIFU สามารถทำได้ 2-3 ครั้ง ต่อปี คนที่พอมีงบหน่อยและอยากหน้าใสหน้าเรียวก็จัดไปค่ะ ควรทิ้งระยะเวลาในการทำสัก 5 เดือนครั้้งกำลังดีค่ะ อันนี้คุณหมอบอกมา



เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับรีวิวการทำ HIFU ที่มิ้วเอามาเม้ามอยในครั้งนี้ หวังว่าจะมีประโยชน์ เอาไปเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างในการตัดสินใจทำนะคะ ถ้าใครพอมีงบ และอยากยกกระชับหน้าให้เด็ก เล็กเรียวแบบ 14 อีกครั้งก็ลองไปทำ HIFU  ที่ SINOTA Clinic ได้เลย ของดีต้องบอกต่อค่ะ

สอบถามเพิ่มได้ที่
https://www.facebook.com/sinotaclinic/
https://www.sinotaclinic.com/


แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การดูแลตัวเองในส่วนอื่นๆก็สำคัญค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย การเลือกกิน การนอน หรือความเครียดก็ตาม ถ้าเราทำตรงนี้ควบคู่กันไปด้วย นอกจากหน้าเราจะเล็กดูเด็กแล้ว ร่างกายก็ยังแข็งแรงสุขภาพดี ทั้งกายและใจเลยค่ะ




วันจันทร์ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2561

โกงความสวย ผิวใส ด้วย Beauty Hacker Extra Bright Repair | MG-Review

 Beauty Hacker

EXTRA BRIGHT REPAIR



มิ้วเชื่อว่า ทุกคนต้องมีความคิดอยู่ในหัวกันบ้างล่ะว่า ทำไมเราต้องมาบำรุงหน้าอะไรเยอะแยะ ทำไมต้องหลายขั้นตอน ทำให้มันยุ่งยาก ไปทำไม ทำไมไม่มีแบบตัวเดียวจบ นอนตื่นมาแล้วสวยเลยบ้าง ฮ่าๆ 
แต่ว่าจะสวยทั้งทีก็ต้องอดทนนะคะสาวๆ แต่ถ้าไม่อยากมีขั้นตอนอะไรให้วุ่นวาย วันนี้มิ้วมีตัวช่วยแบบโกงความสวยมาฝาก หูยยยย แค่ชื่อว่า โกงก็น่าตื่นเต้นละ นั่นก็คือ  Beauty Hacker Extra Bright Repair Ultimate Rejuvenating Overnight Mask นั่นเอง (ชื่ออาจจะยาวหน่อย แต่รู้ไว้ว่าเป็น BH Mask ก็แล้วกัน)  มีรายละเอียดเป็นอย่างไรบ้างนั้น ไปชมกันจร้า







Beauty Hacker Extra Bright Repair Ultimate Rejuvenating Overnight Mask หรือเรียกง่ายๆว่า BH Mask นั้น เป็นแบรนด์ของ

คุณหลิน วีรินท์ เชยอรุณ
Wiki : https://th.m.wikipedia.org/wiki/วีรินท์_เชยอรุณ

Facebookhttps://www.facebook.com/VeelinCheyaroon/ (Veelin Cheyaroon)

และส่งต่อผิวใสสู่รุ่นลูก นั่นก็คือ
คุณบอล พล เชยอรุณ นั่นเอง 
Instagram : phoncheyaroon
Facebook : https://www.facebook.com/phoncheyaroon (Phon Cheyaroon)

เป็นครีมมาร์คบำรุงผิวหน้าสูตรเข้มข้น เพื่อการฟื้นฟูล้ำลึก ช่วยให้ผิวดูยกกระชับ ฟื้นฟูให้ผิวดูกระจ่างใส อ่อนเยาว์ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในผิว และช่วยลดเลือนฝ้า กระ จุดด่างดำ รวมทั้งริ้วรอยบนใบหน้า มีส่วนผสมหลักๆ ได้แก่

สารสกัดแอปเปิ้ลสวิสเซอร์แลนด์ (Malus Domestica Fruit Extract)
ช่วยกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อ คอลลาเจน และอีลาสตินในเซลล์ผิว ทำให้ผิวแลดูอ่อนเยาว์ มีวิตามินซีและแทนนินซึ่งมีฤทธิ์ในการต่อต้านอนุมูลอิสระสูง

สารสกัดดอกซากุระ (Prunus Yedoensis Flower Extract)
ช่วยให้ผิวเรียบเนียน ลดการระคายเคือง เผยผิวขาวกระจ่างใส ป้องกันผิวที่ถูกทำลายจากอนุมูลอิสระ และแก้ปัญหาผิวแห้ง ขาดความชุ่มชื้น

สารสกัดสาหร่ายทะเลขนาดเล็ก (Algae Extract)
ทำให้ผิวพรรณแลดูเปล่งปลั่ง กระจ่างใส แลดูสุขภาพดี

สารสกัดรากมันเทศป่า Dioscorea Villosa (Wild Yam) Root Extract
ช่วยฟื้นฟูและเสริมสร้างเซลล์ผิวทำให้ผิวสดชื่น เต่งตึงขึ้น เผยผิวเปล่งปลั่ง ลดอาการอักเสบ กระชับและเรียบเนียนขึ้น

โปรตีนสกัดจากรำข้าว (Hydrolyzed Rice Protein)
ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ช่าวยให้ผิวชุ่มชื้น

สารสกัดเข้มข้นจากถั่วเหลือง Glycine Soja (Soybean) Protein
ลดจุดด่างดำ ฝ้า กระ เสริมสร้างความแข็งแรงให้กับผิว ทำให้สีผิวเนียนเรียบเปล่งปลั่งเป็นประกาย ช่วยให้ผิวหนังกักเก็บความชุ่มชื้นได้มากยิ่งขึ้น



ได้มาตรฐานจาก 

1. GMP

2. ISO 9001:2008

3. ISO 9001:2015

4. FDA

5. Switzerland Quality Formula





ตัวกล่อง



มาในกล่องกระดาษ สีดำ ตัวหนังสือสีทองกุหลาบ สวยหรูดูแพงมาก ตัวชื่อแบรนด์ปั๊มเป็นรูปนูนนิดๆ เพื่อความเป็นเอกลักษณ์



ด้านหน้า เป็นชื่อแบรนด์ ชื่อผลิตภัณฑ์
ด้านหลัง เป็นวิธีเก็บรักษา คำเตือน ผู้ผลิต จัดจำหน่าย และข้อมูลทางออนไลน์



มาในปริมาณ 15 กรัม ราคา 890 บาท


ตัวกระปุก




ตัวฝา เป็นสีทองกุหลาบสวยมาก ด้านบนมีชื่อแบรนด์ ประทับไว้ ลักษณะฝามีความเป็นเอกลักษณ์ ทำให้หมุนเปิดได้สะดวก


ด้านหน้า เป็นชื่อแบรนด์ 
ด้านหลัง เป็นชื่อผลิตภัณฑ์ 
ตัวกระปุก เป็นสีใส แต่มีสีขาวมุกอยู่ด้านใน คือหยิบมาเมื่อไหร่ก็ดูสวยแพงเมื่อนั้นค่ะ




ลักษณะเนื้อ สี กลิ่น


พอเปิดฝาออกมา จะมีสติ้กเกอร์สีเงินปิดกั้นเนื้อครีมอยู่ พอดึงสติ้กเกอร์ออกมาก็จะเป็นเนื้อครีมสีเขียว ลักษณะเนื้อค่อนข้างข้นเลยทีเดียว ส่วนกลิ่นนั้นไม่มีค่ะ... ใช่ค่ะมิ้วไม่ได้กลิ่นน้ำหอมเลย มันเป็นกลิ่นของครีมเฉยๆค่ะ



วิธีใช้


หลังจากที่ทาสกินแคร์ที่ใช้เป็นประจำเสร็จ ก็ทาต่อด้วย BH Mask โดยแต้ม 5 จุดที่ แก้ม หน้าฝาก สันจมูก คาง หรือทาไปยันอกเลยก็ได้ ค่ะ จริงๆแล้วก็สามารถทาได้ทุกส่วนของร่างกายเลยถ้าอยากให้มีความกระชับมากขึ้น


ความรู้สึกหลังใช้



สภาพผิวก่อนใช้ หลังล้างหน้าเสร็จหน้ามิ้วจะตึงๆหน่อยค่ะ มีปัญหาจุดด่างดำ และสิวเสี้ยน มีเส้นที่ใต้ตา และร่องแก้มค่ะ



หลังใช้ทันที รู้สึกว่า หน้ามีความชุ่มชื้นขึ้น แต่ไม่มันเยิ้ม หน้าไม่มัน ไม่แห้งจนเกินไปด้วย เนื้อมีความเกลี่ยง่าย ไม่เป็นขุยหลังทาเสร็จด้วยค่ะ




สรุปและคำแนะนำ




BH Mask ตัวนี้เหมาะกับทุกสภาพผิว ใช้ได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิงเลยค่ะ เหมาะอย่างยิ่งกับคนที่ไม่มีเวลาดูแลผิวหรือมีชีวิตที่เร่งรีบ ไม่ต้องการการดูแลหลายขั้นตอนมากนัก แต่ต้องการให้ผิวกลับมาสดใส แข็งแรง กระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติค่ะ




มิ้วอยากแนะนำเรื่องการเก็บรักษา ก็ควรเก็บให้พ้นแดดจัดๆ มิ้วแนะนำให้เก็บไว้ในลิ้นชักก็ได้ค่ะ แต่ถึงอย่างไร นอกจากเราจะมีผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าที่ดีแล้ว เราก็ต้องหมั่นออกกำลังกาย ดูแลเรื่องอาหาร และความคิด ไม่เครียดมาก หน้าเราจะได้ใสตั้งแต่ภายในสู่ภายนอกเลยค่ะ



ใครที่สนใจอยากให้ผิวสวย แต่ไม่ต้องการขั้นตอนเยอะก็ไปลองกันได้เลยนะคะ สามารถสอบถาม และสั่งซื้อได้ทาง