วันเสาร์ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2561

ครั้งแรก!!! กับการทำ HIFU Gen 5 Plus ที่ Sinota clinic หน้าเรียว หน้าเด็ก แบบไม่ศัลยกรรม | MG-Review

HIFU
SINOTA CLINIC


สวัสดีค่าทุกคน รีวิวนี้ก็จะดูแปลกตาไปสักเล็กน้อยเพราะมิ้วไม่ได้มารีวิว เครื่องสำอาง สกินแคร์ หรือพาไปเที่ยวแต่อย่างใด แต่มิ้วจะพาทุกคนไปรู้จักกับ การทำ "HIFU" ที่ช่วยให้ใบหน้าของเราเล็กและดูเด็กลงโดยที่เราไม่ต้องศัลกรรมเลยด้วย ความพีคก็คือนี่เป็นการทำสวยครั้งแรกของมิ้วด้วยเพราะมิ้วไม่เคยไปทำหน้ามาก่อน ไม่เคยศัลกรรม หรือลงเข็มใดๆทั้งสิ้น!!! แค่คิดก็ตื่นเต้นละ >___<  มิ้วจะทำออกมาแล้วเป็นอย่างไรบ้างนั้น ไปชมกันเลยจร้า


เรื่องก็มีอยู่ว่า มิ้วได้มีโอกาสไปทำ HIFU มาที่ SINOTA Clinic ตั้งอยู่ที่ ชั้น 5 ของ Gateway เอกมัย ซึ่งหลายคนอาจจะสงสัยว่า HIFU นี่มันคืออะไร HIFU ก็คือคำที่ย่อมาจาก High Intensity Focus Ultrasound ความหมายคร่าวๆ ก็คือเป็นการใช้คลื่น อัลตร้าซาวน์ ที่มีควมเข้มข้นสูง ส่งเข้ามาในใต้ชั้นผิวของเรา มีผลทำให้โครงสร้างของผิวเรา มีความกระชับขึ้น พร้อมกับไปกระตุ้น ให้สร้าง คอลลาเจน และอิลาสตินใต้ชึ้นผิวทำให้เราหน้าดูเด็กลงอีกด้วยค่ะ

สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มได้ที https://www.sinotaclinic.com/28/




วิธีการเดินทาง
มิ้วเดินทางจากลพบุรี มาที่ กทม. แล้วก็นั่ง BTS มาลงที่สถานี เอกมัย แล้วก็เดินเข้ามาใน Get way เอกมัย จากนั้นขึ้นลิฟไปที่ ชั้น 5 พอเปิดลิฟออกมาก็ถึงเลยค่ะ เดินทางสะดวกมากๆ ไม่หลง จะหลงก็แต่คนนี่แหละที่ไม่ค่อยชินทาง เพราะไม่เคยมาที่นี่เลย ฮ่าๆ ถ้างง ก็ถามเจ้าหน้าที่ได้เลยค่ะ

มาตอนเขามีตลาดพอดีค่ะ ถ่ายจากมุมบนสวยมากๆ

วิธีการทำ
พอมาถึงที่คลินิค ทุกคนก็ต้อนรับเป็นอย่างดีค่ะ เปิดประตูเข้ามาก็จะเจอโซฟาที่รับแขก มีความสวยหรูดูแพงมาก (แม้แต่ที่นั่งพักก็ยังจะรีวิว ฮ่าๆ) มีเก้าอี้รีบรองลูกค้า และห้องต่างๆแยกกันไป ซึ่งมิ้วอาจไม่ได้ถ่ายมาให้ดูค่ะ ต้องขอสงวนไว้เป็นพื้นที่ส้วนตัว



 และพอถึงเวลา ก็เริ่มทำได้เลยค่ะ ไม่ต้องอดข้าว อดน้ำแต่อย่างใด

- อันดับแรกก็ต้องไปถ่ายรูปกันก่อนเพื่อเอาไว้เปรียบเทียบดูความเปลี่ยนแปลง
- ต่อมา ก็คือต้องลบเครื่องสำอาง ตรงบริเวณแก้ม 2 ข้าง และคาง เหลือไว้แค่ตากับปาก (ลบตรงที่เราจะทำนั่นเองจร้า บางคนอาจจะลบทั้งหน้าเพราะทำทั้ง ยกคิ้ว ร่องแก้มด้วยอะไรแบบนี้) แล้วก็เพื่อความสะดวกในการเดิน ที่นี่ก็จะให้เปลี่ยนรองเท้าด้วยค่ะ


- จากนั้นก็เริ่มการทำ HIFU ได้เลยจร้า

โปรแกรมที่มิ้วทำมีชื่อว่า HIFU Gen 5 Plus ซึ่งจะมีความเจ็บน้อยกว่าการทำ HIFU แบบธรรมดาค่ะ

          ก็คือเราจะเข้าไปอีกห้องนึง พอคุณหมอมาถึง ก็จะวิเคราะห์โครงหน้าเราก่อนค่ะ จากนั้น ก็นอนบนเก้าอี้ แล้วเริ่มทำโดยการทาเจลใสๆ คล้ายๆกับเจลที่เราทาตอนตรวจครรภ์นั่นเองค่ะ จากนั้นก็เอา อุปกรณ์มานาบที่กรามของเรา แล้วก็ยิงคลื่นออกมาแล้วก็ค่อยๆยกขึ้นมาตามสันกราม โดยมิ้วเริ่มจากกรามด้านซ้ายก่อน ซึ่งคุณหมอบอกว่า กรามแต่ละข้างก็อาจจะใช้ความเข้มข้นของคลื่นไม่เท่ากัน เพราะโครงหน้าเราสองด้านไม่เท่ากันนั่นเองค่ะ จากนั้นก็ไปที่กรามด้านขวาโดยด้านนี้จะต้องใช้คลื่นที่มีความเข้มข้นมากกว่าด้านซ้ายค่ะ เพราะด้านซ้ายแก้มค่อนข้างจะตกกว่าด้านขวา จากนั้นก็มาที่ใต้คางนั่นก็คือตรง เหนียงของเรานั่นเอง (ตรงนี้มิ้วอยากกำจัดมันทิ้งไปมาก ฮ่าๆ)


ระยะเวลาในการทำ
แต่ละข้างก็จะไม่เท่ากัน  แต่รวมๆเวลาทั้งหมดแล้วถ้าจำไม่ผิดมิ้วคิดว่า ไม่เกิน 1 ชั่วโมงค่ะ พอทำเสร็จแล้ว ก็ไม่ต้องพักฟื้นแต่อย่างใด สามารถทำกิจกรรมอย่างอื่น หรือแต่งหน้าต่อได้เลย

ข้อควรปฏิบัติหลังทำ HIFU
หลังทำ HIFU ก็หลีกเลี่ยงแสงแดดจัดๆ หรือถ้าจะต้องเจอแดดจริงๆก็ควรทาครีมกันแดด (จริงๆก็ควรทาตอนออกแดดทุกครั้งค่ะ เพื่อกันฝ้า กระต่างๆ)

ความรู้สึกตอนทำ HIFU
ตอนที่คุณหมอยิงคลื่นก็จะรู้สึกอุ่นๆบริเวณที่ยิงคลื่น แล้วถ้าคนไหนที่มีการอุดฟัน หรือดัดฟันมา ก็จะมีอาการเสียวๆฟันนิดหน่อย เหมือนตอนเรา กรอฟัน ตอนขูดหินปูนอ่ะค่ะ แต่ไม่เจ็บ เป็นความรู้สึกที่มิ้วทนได้นะคะ (ซึ่งการทนความเจ็บของแต่ละคนก็จะไม่เท่ากันเด้อ) แต่ถ้าใครที่กลัวเจ็บก็จะมียาชาทาที่ใบหน้าก่อนทำค่ะไม่ต้องกลัว แล้วขณะทำก็สามารถพูดคุยกับหมอได้ปกติเลยค่ะ

ความรู้สึกหลังทำ HIFU
รูปหน้า หลังทำ HIFU ที่กรามด้านซ้ายเสร็จ เมื่อเปรียบเทียบกับอีกข้างก็จะเห็นว่า ใบหน้าด้านซ้ายนั้นดูยกกระชับขึ้นมาอย่างชัดเจนค่ะ ชัดจนคนอื่นตกใจ ฮ่าๆ


หลังทำเสร็จทั้งสองข้าง ก็รู้สึกว่าใบหน้าดูเรียวขึ้นนะคะ เหนียงก็ดูลดลง (ชอบตรงนี้ ฮ่าๆ) แต่คุณหมอบอกว่า คนที่มีแก้มแบบมิ้ว ก็จะเห็นไม่ชัดเท่าคนที่เนื้อแก้มน้อยๆค่ะ (ก็คือคนที่มีเนื้อแก้มน้อย จะเห็นผลได้ชัดกว่านั่นเอง) ยิ่งคนที่เริ่มมีอายุ เริ่มมีริ้วรอย ก็จะเห็นได้ชัดเลยค่ะ

หลังทำ HIFU มา มิ้วมีความรู้สึกเหมือนมีอาการเมื่อยๆตรงช่วงกรามค่ะ แต่ก็พูดได้ปกติ พอเวลาผ่านไปประมาณ 1 อาทิตย์ ความรู้สึกก็ค่อยๆหายไปค่ะ

หลังจากทำ HIFU ไป 1 เดือนมิ้วรู้สึกว่าใบหน้าดูเล็กลงกว่าเมื่อก่อน โดยเฉพาะตรงเหนียงค่ะ มันลดลงจนรูสึกได้ ฮ่าๆ ดูมีกรอบหน้ามากขึ้นด้วย


แต่ถ้าเราอยากจะเห็นผลที่ชัดเจนจริงๆ ที่คลินิคแนะนำว่า ให้ดูต่อไปอีก 3 เดือนค่ะ รอให้คอลลาเจนและอิลาสตินผลิตขึ้นมาใหม่ ก็จะเห็นผลได้ชัดเจนกว่านี้

คำแนะนำ
หลังทำ HIFU นอกจากจะทาครีมกันแดดแล้ว ก็ทาบำรุงด้วยเซรั่ม วิตามินC ก็จะช่วยในการการสร้างคอลลาเจนมากยิ่งขึ้นค่ะ เลือกสูตร และแบรนด์ที่เราชอบได้เลย

HIFU เหมาะกับคนที่มีใบหน้าหย่อนคล้อยและต้องการให้หน้าดูกระชับขึ้น และเรียวขึ้น จึงเหมาะกับคนที่มีอายุประมาณ 25 - 35 ปี ค่ะ

HIFU สามารถทำได้ 2-3 ครั้ง ต่อปี คนที่พอมีงบหน่อยและอยากหน้าใสหน้าเรียวก็จัดไปค่ะ ควรทิ้งระยะเวลาในการทำสัก 5 เดือนครั้้งกำลังดีค่ะ อันนี้คุณหมอบอกมา



เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับรีวิวการทำ HIFU ที่มิ้วเอามาเม้ามอยในครั้งนี้ หวังว่าจะมีประโยชน์ เอาไปเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างในการตัดสินใจทำนะคะ ถ้าใครพอมีงบ และอยากยกกระชับหน้าให้เด็ก เล็กเรียวแบบ 14 อีกครั้งก็ลองไปทำ HIFU  ที่ SINOTA Clinic ได้เลย ของดีต้องบอกต่อค่ะ

สอบถามเพิ่มได้ที่
https://www.facebook.com/sinotaclinic/
https://www.sinotaclinic.com/


แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การดูแลตัวเองในส่วนอื่นๆก็สำคัญค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย การเลือกกิน การนอน หรือความเครียดก็ตาม ถ้าเราทำตรงนี้ควบคู่กันไปด้วย นอกจากหน้าเราจะเล็กดูเด็กแล้ว ร่างกายก็ยังแข็งแรงสุขภาพดี ทั้งกายและใจเลยค่ะ




วันจันทร์ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2561

โกงความสวย ผิวใส ด้วย Beauty Hacker Extra Bright Repair | MG-Review

 Beauty Hacker

EXTRA BRIGHT REPAIR



มิ้วเชื่อว่า ทุกคนต้องมีความคิดอยู่ในหัวกันบ้างล่ะว่า ทำไมเราต้องมาบำรุงหน้าอะไรเยอะแยะ ทำไมต้องหลายขั้นตอน ทำให้มันยุ่งยาก ไปทำไม ทำไมไม่มีแบบตัวเดียวจบ นอนตื่นมาแล้วสวยเลยบ้าง ฮ่าๆ 
แต่ว่าจะสวยทั้งทีก็ต้องอดทนนะคะสาวๆ แต่ถ้าไม่อยากมีขั้นตอนอะไรให้วุ่นวาย วันนี้มิ้วมีตัวช่วยแบบโกงความสวยมาฝาก หูยยยย แค่ชื่อว่า โกงก็น่าตื่นเต้นละ นั่นก็คือ  Beauty Hacker Extra Bright Repair Ultimate Rejuvenating Overnight Mask นั่นเอง (ชื่ออาจจะยาวหน่อย แต่รู้ไว้ว่าเป็น BH Mask ก็แล้วกัน)  มีรายละเอียดเป็นอย่างไรบ้างนั้น ไปชมกันจร้า







Beauty Hacker Extra Bright Repair Ultimate Rejuvenating Overnight Mask หรือเรียกง่ายๆว่า BH Mask นั้น เป็นแบรนด์ของ

คุณหลิน วีรินท์ เชยอรุณ
Wiki : https://th.m.wikipedia.org/wiki/วีรินท์_เชยอรุณ

Facebookhttps://www.facebook.com/VeelinCheyaroon/ (Veelin Cheyaroon)

และส่งต่อผิวใสสู่รุ่นลูก นั่นก็คือ
คุณบอล พล เชยอรุณ นั่นเอง 
Instagram : phoncheyaroon
Facebook : https://www.facebook.com/phoncheyaroon (Phon Cheyaroon)

เป็นครีมมาร์คบำรุงผิวหน้าสูตรเข้มข้น เพื่อการฟื้นฟูล้ำลึก ช่วยให้ผิวดูยกกระชับ ฟื้นฟูให้ผิวดูกระจ่างใส อ่อนเยาว์ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในผิว และช่วยลดเลือนฝ้า กระ จุดด่างดำ รวมทั้งริ้วรอยบนใบหน้า มีส่วนผสมหลักๆ ได้แก่

สารสกัดแอปเปิ้ลสวิสเซอร์แลนด์ (Malus Domestica Fruit Extract)
ช่วยกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อ คอลลาเจน และอีลาสตินในเซลล์ผิว ทำให้ผิวแลดูอ่อนเยาว์ มีวิตามินซีและแทนนินซึ่งมีฤทธิ์ในการต่อต้านอนุมูลอิสระสูง

สารสกัดดอกซากุระ (Prunus Yedoensis Flower Extract)
ช่วยให้ผิวเรียบเนียน ลดการระคายเคือง เผยผิวขาวกระจ่างใส ป้องกันผิวที่ถูกทำลายจากอนุมูลอิสระ และแก้ปัญหาผิวแห้ง ขาดความชุ่มชื้น

สารสกัดสาหร่ายทะเลขนาดเล็ก (Algae Extract)
ทำให้ผิวพรรณแลดูเปล่งปลั่ง กระจ่างใส แลดูสุขภาพดี

สารสกัดรากมันเทศป่า Dioscorea Villosa (Wild Yam) Root Extract
ช่วยฟื้นฟูและเสริมสร้างเซลล์ผิวทำให้ผิวสดชื่น เต่งตึงขึ้น เผยผิวเปล่งปลั่ง ลดอาการอักเสบ กระชับและเรียบเนียนขึ้น

โปรตีนสกัดจากรำข้าว (Hydrolyzed Rice Protein)
ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ช่าวยให้ผิวชุ่มชื้น

สารสกัดเข้มข้นจากถั่วเหลือง Glycine Soja (Soybean) Protein
ลดจุดด่างดำ ฝ้า กระ เสริมสร้างความแข็งแรงให้กับผิว ทำให้สีผิวเนียนเรียบเปล่งปลั่งเป็นประกาย ช่วยให้ผิวหนังกักเก็บความชุ่มชื้นได้มากยิ่งขึ้น



ได้มาตรฐานจาก 

1. GMP

2. ISO 9001:2008

3. ISO 9001:2015

4. FDA

5. Switzerland Quality Formula





ตัวกล่อง



มาในกล่องกระดาษ สีดำ ตัวหนังสือสีทองกุหลาบ สวยหรูดูแพงมาก ตัวชื่อแบรนด์ปั๊มเป็นรูปนูนนิดๆ เพื่อความเป็นเอกลักษณ์



ด้านหน้า เป็นชื่อแบรนด์ ชื่อผลิตภัณฑ์
ด้านหลัง เป็นวิธีเก็บรักษา คำเตือน ผู้ผลิต จัดจำหน่าย และข้อมูลทางออนไลน์



มาในปริมาณ 15 กรัม ราคา 890 บาท


ตัวกระปุก




ตัวฝา เป็นสีทองกุหลาบสวยมาก ด้านบนมีชื่อแบรนด์ ประทับไว้ ลักษณะฝามีความเป็นเอกลักษณ์ ทำให้หมุนเปิดได้สะดวก


ด้านหน้า เป็นชื่อแบรนด์ 
ด้านหลัง เป็นชื่อผลิตภัณฑ์ 
ตัวกระปุก เป็นสีใส แต่มีสีขาวมุกอยู่ด้านใน คือหยิบมาเมื่อไหร่ก็ดูสวยแพงเมื่อนั้นค่ะ




ลักษณะเนื้อ สี กลิ่น


พอเปิดฝาออกมา จะมีสติ้กเกอร์สีเงินปิดกั้นเนื้อครีมอยู่ พอดึงสติ้กเกอร์ออกมาก็จะเป็นเนื้อครีมสีเขียว ลักษณะเนื้อค่อนข้างข้นเลยทีเดียว ส่วนกลิ่นนั้นไม่มีค่ะ... ใช่ค่ะมิ้วไม่ได้กลิ่นน้ำหอมเลย มันเป็นกลิ่นของครีมเฉยๆค่ะ



วิธีใช้


หลังจากที่ทาสกินแคร์ที่ใช้เป็นประจำเสร็จ ก็ทาต่อด้วย BH Mask โดยแต้ม 5 จุดที่ แก้ม หน้าฝาก สันจมูก คาง หรือทาไปยันอกเลยก็ได้ ค่ะ จริงๆแล้วก็สามารถทาได้ทุกส่วนของร่างกายเลยถ้าอยากให้มีความกระชับมากขึ้น


ความรู้สึกหลังใช้



สภาพผิวก่อนใช้ หลังล้างหน้าเสร็จหน้ามิ้วจะตึงๆหน่อยค่ะ มีปัญหาจุดด่างดำ และสิวเสี้ยน มีเส้นที่ใต้ตา และร่องแก้มค่ะ



หลังใช้ทันที รู้สึกว่า หน้ามีความชุ่มชื้นขึ้น แต่ไม่มันเยิ้ม หน้าไม่มัน ไม่แห้งจนเกินไปด้วย เนื้อมีความเกลี่ยง่าย ไม่เป็นขุยหลังทาเสร็จด้วยค่ะ




สรุปและคำแนะนำ




BH Mask ตัวนี้เหมาะกับทุกสภาพผิว ใช้ได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิงเลยค่ะ เหมาะอย่างยิ่งกับคนที่ไม่มีเวลาดูแลผิวหรือมีชีวิตที่เร่งรีบ ไม่ต้องการการดูแลหลายขั้นตอนมากนัก แต่ต้องการให้ผิวกลับมาสดใส แข็งแรง กระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติค่ะ




มิ้วอยากแนะนำเรื่องการเก็บรักษา ก็ควรเก็บให้พ้นแดดจัดๆ มิ้วแนะนำให้เก็บไว้ในลิ้นชักก็ได้ค่ะ แต่ถึงอย่างไร นอกจากเราจะมีผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าที่ดีแล้ว เราก็ต้องหมั่นออกกำลังกาย ดูแลเรื่องอาหาร และความคิด ไม่เครียดมาก หน้าเราจะได้ใสตั้งแต่ภายในสู่ภายนอกเลยค่ะ



ใครที่สนใจอยากให้ผิวสวย แต่ไม่ต้องการขั้นตอนเยอะก็ไปลองกันได้เลยนะคะ สามารถสอบถาม และสั่งซื้อได้ทาง




วันอาทิตย์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

สวยใสไปกับ SABAINANG สกินแคร์แบรนด์ไทย ที่ใครๆก็ต้องหลงรัก | MG-Review

SABAINANG



พูดถึงสกินแคร์แบรนด์ไทยช่วงนี้ มิ้วก็ลองมาหลายแบรนด์นะคะ ไม่ว่าจะเป็น ครีมกันแดด เซรั่ม มาส์กหน้า หลายๆแบรนด์ก็มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง มีส่วนผสม สมุนไพร ที่เป็นของไทยชัดเจน แต่ล่าสุดหลังจากที่มิ้วได้ลอง สกินแคร์ของ สไบนาง (Sabainang) มิ้วกลับรู้สึกถึงความเป็นไทยได้ลึกซึ้งมากขึ้น มากจนมองสกินแคร์แบรนด์ไทยเปลี่ยนไปอีกมิตินึงเลยทีเดียว มิ้วใช้แล้วจะเป็นอย่างไร สไบนาง มีอะไรน่าสนใจบ้างนั้น ไปดูรายละเอียดกันค่ะ







สไบนาง (Sabainang) เป็นสกินแคร์ แบรนด์ไทยแท้ๆ ที่มีเอกลักษณ์ไทยแบบชัดเจน เป็นผลิตภัณฑ์สมุนไพร คุณภาพอ่อนโยน ปลอดภัยกับผิว 100%  เป็นผลิตภัณฑ์ OTOP 5 ดาว และได้รับรางวัล OTOP TOP10 ระดับประเทศ มาการันตีคุณภาพของแบรนด์ด้วย โดยเซทที่มิ้วได้มาลองนี้ เป็นเซทที่ช่วยให้ผิวหน้าดูกระจ่างใสขึ้น ลดฝ้า จุดด่างดำ ช่วยให้รูขุมขนกระชับ ใบหน้าเรียบเนียน มีด้วยกันทั้งหมด 3 ตัวนั่นก็คือ

1. Sabainang Bright & Smooth Serum
2. Sabainang Brightening Day Cream
3. Sabainang Brightening Night Cream

มาดูกันดีกว่าจร้า ว่าแต่ละตัวเป็นอย่างไรบ้าง



Sabainang Bright & Smooth Serum


Sabainang Bright & Smooth Serum เป็นเซรั่มที่ ปราศจากน้ำมัน ไม่ทำให้ผิวอุดตัน มีส่วนสารสกัดจากเห็ดธรรมชาติ และวิตามินซีเข้มข้น ช่วยให้รูขุมขนกระชับ ลดจุดด่างดำ และฝ้า

มาในปริมาณ 15 ml.


เซรั่มเนื้อใสเนื้อบางเบา มีกลิ่นหอมดอกไม้ไทยซึ่งมิ้วชอบมากๆ เนื้อเกลี่ยง่ายซึมไว ไม่เหนียวเหนอะหนะ พร้อมรับการบำรุงต่อได้เลยค่ะ




มิ้วใช้หลังอาบน้ำเสร็จทั้งเช้าและก่อนนอน โดยแล้วกดเซรั่มมา 1-2 ปั๊มแล้วแต่คนค่ะ จากนั้นก็แต้มที่ 5 จุด (แก้ม หน้าผาก สันจมูก คาง) แล้วเกลี่ย วน ออก จากใบหน้า แล้วก็ลากมาทาถึงบริเวณลำคอค่ะ


หลังจากทาเซรั่ม ใบหน้ารู้สึกชุ่มชื้นขึ้น ไม่เหนียวเหนอะหนะ เนื้อเซรั่มซึมไว เกลี่ยง่ายมากๆค่ะ



Sabainang Brightening Day Cream

Sabainang Brightening Day Cream เป็นครีมที่ช่วยเรื่องการกันแดด ด้วย SPF 15 ช่วยฟื้นบำรุงผิวให้กระจ่างใส ปรับผิวให้เรียบเนียนก่อนแต่งหน้าให้ผิวดูสุขภาพดีอย่างเป็นธรรมชาติ ด้วยส่วนผสมของน้ำกุหลาบ ใบบัวบก ชะเอมเทศ และวิตามินบี 3, 5

เนื้อออกมูสๆ สีขาวขุ่น เนื้อเข้มข้น แต่เป็นสูตรคุมมัน ไม่ทำให้หน้ามันเยิ้มค่ะ กลิ่นก็หอมกุหลาบอ่อนๆ เหมาะแก่การเป็นกันแดด ทาก่อนแต่งหน้ามากๆ

มาในปริมาณ 30 กรัม

หลังจากทาเซรั่มเสร็จแล้ว ทิ้งไว้สัก 1 นาที ให้เซรั่มซึมเข้าผิว จากนั้นก็ทาด้วย  Sabainang Brightening Day Cream โดยแต้มที่ 5 จุดเหมือนเดิม แล้วเกลี่ย โดยการวนออกเช่นเคย แล้วก็ทาที่คออีกเช่นเคยค่ะ บำรุงหน้าแล้วก็อย่าลืมบำรุงคอด้วยเด้อ


หลังจากที่ทาครีมเสร็จแล้ว ก็รู้สึกว่า เนื้อครีมมีความเกลี่ยง่าย แต่อาจจะต้องพยายามเกลี่ยให้ทั่วหน้านะคะ เพราะเมื่อทาแล้วใบหน้าของเราจะมีความกระจ่างใสขึ้นมานิดนึงค่ะ พอทาเสร็จก็คือ ไม่เหนียวเหนอะหนะ ไม่มันไม่เยิ้ม และพร้อมรับการแต่งหน้าต่อ แถมช่วยให้แต่งหน้าติดดีขึ้นด้วยค่ะ




Sabainang Brightening Night Cream


Sabainang Brightening Night Cream เป็นครีมทาสำหรับกลางคืน เนื้อสีขาวขุ่น มีความเข้มข้นมากกว่า ครีมที่ทากลางวัน เพื่อให้การบำรุงได้อย่างสูงสุด ช่วยฟื้นบำรุงผิวให้กระจ่างใส ลดฝ้าแดด จุดจ่างดำ ปรับผิวให้เรียบเนียน ชุ่มชื่น สุขภาพดี 

มาในปริมาณ 30 กรัม



ตัวกล่องมาในกล่องกระดาษสีขาวสะอาดตา มีรูปภาพวาดของดอกไม่สีม่วงให้ความเป็นธรรมชาติมากๆค่ะ




เนื้อครีมจะออกเป็นเนื้อครีมเข้มข้น กลิ่นอ่อนๆแบบแตงกวา ผสมโสม นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมของใบหม่อน และวิตามินซี อีกด้วยค่ะ



ในตอนกลางคืน หลังจากที่มิ้วทาเซรั่มเหมือนตอนเช้า มิ้วก็ทา Sabainang Brightening Night Cream โดยแต้มที่ 5 จุดแล้วเกลี่ยเช่นเคยค่ะ อย่าลืมทาที่คอด้วย หลังจากนั้น เราอาจจะมาส์กหน้าต่อได้เลยค่ะ ถ้าวันไหนใช้หน้าหนักๆ หรือตอนเช้าเราต้องแต่งหน้าไปงานสำคัญต่างๆ



เนื้อครีมมีความเกลี่ยง่ายมากค่ะ ถึงจะมีความเข้มข้น แต่ไม่มีความมันเยิ้มหรือเนียวเหนอะหนะเลย งง มาก  ฮ่าๆ แบบทาไปแล้วคือ อ้าวนี่ทาครีมแล้วหรอ เพราะปกติ ครีมที่ทาตอนกลางคืนส่วนใหญ่จะมีความชุ่มชื้นค่อนข้างมาก แต่ตัวนี้คือทาไปแล้วชุ่มชื้นจริง แต่ไม่มันค่ะ มิ้วชอบเอามาส์กแบบครีมมาทาต่อบำรุงไปอีกขั้นนึงได้เลย






สรุปและคำแนะนำ


สรุปโดยรวมนะคะ เซรั่มและครีม เซทนี้ มีเนื้อที่เหมาะกับคนที่มีผิวผสม และผิวมัน มากกว่าคนผิวแห้งค่ะ เพราะหลังใช้ทุกตัวแล้วมิ้วรู้สึกว่า ผิวไม่มัน ไม่เหนียวเหนอะหนะเลย แต่คนผิวแห้ง มิ้วคิดว่าถ้าซื้อมาใช้แล้วก็อาจจะ ทาเซรั่มหรือครีมที่ให้ความชุ่มชื้นลงไปก่อนเพื่อกันไม่ให้ผิวหน้า แห้งมากไปกว่าเดิมค่ะ ส่วนคนผิวมัน นี่เหมาะมากๆเลย แล้วก็เหมาะกับสภาพอากาศเมืองไทยมากๆด้วย


ที่ชอบอีกอย่างหนึ่งก็คือกลิ่น ค่ะ แต่ละตัวตอนแตะเนื้อออกมา  กลิ่นหอมแบบไทยๆก็จะออกมาแบบชัดเจน โดยเฉพาะกลิ่นของเซรั่มที่หอมดอกไม้อ่อนๆ มิ้วชอบมาก รู้สึกถึงความเป็นไทยมากๆค่ะ :)


ขนาดของ ครีมและเซรั่มนั้น ให้มาได้จุใจ ใช้ได้เป็นเดือนเลยค่ะ แต่ก็อาจจะพกพาไปต่างจังหวัดลำบากหน่อย อาจจะเปลืองพื้นที่ แนะนำว่าให้ แบ่งใส่ กระปุกเล็กๆไปแทนค่ะ


ส่วนผลของความกระจ่างใส การลดของ ฝ้าและกระ ก็อาจจะต้องดูกันยาวๆค่ะ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าเราดูแลใบหน้าในด้านอื่นได้ดีหรือเปล่า เช่นการ โดนแดด โดนนานแค่ไหน ทาครีมกันแดดทุกวันหรือเปล่า ไม่ได้แปลว่าใช้ครีมเซทนี้แล้ว ก็ปล่อยหน้าเราไปเจอแดดโดยที่ไม่ป้องกันอะไรเลยนะคะ



วิธีเก็บรักษา
มิ้วแนะนำว่า ให้เก็บ ครีมให้พ้นแสงแดดค่ะ เช่น มิ้วจะเก็บเข้าตู้ที่อยู่ห่างจากหน้าต่างพอสมควร เพื่อยืดให้ครีมได้มีประสิทธิภาพการใช้งานได้สูงที่สุดค่ะ


ยังไงก็ฝากไว้ด้วยนะคะกับสกินแคร์แบรนด์ไทย ที่มีเอกลักษณ์ไม่ธรรมดาอย่าง "สไบนาง" นี้ มิ้วรู้สึกภูมิใจที่เห็นคนไทยพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อคนไทย แต่ก็ยังส่งออกไปต่างประเทศได้อีกด้วย และก็รู้สึกดีใจมากๆ เป็นโอกาสดีมากๆที่ให้มิ้วได้ลองใช้ค่ะ



ใครที่สนใจก็ไปอุดหนุนของไทย ใช้ของไทยได้เลยนะคะที่

line@:       @creamsabainang