วันอาทิตย์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2561

หอมสนุก ซุกซน เย้ายวนใจ ไปกับ Endless Allure น้ำหอมจาก ORIENTAL PRINCESS-Secret of Charm Eau De Perfume | MG-Review

ORIENTAL PRINCESS 
Secret of Charm Eau De Perfume
Endless Allure

สวัสดีจร้าทุกคน รีวิวนี้ ใครที่ชอบน้ำหอม หรืออยากลองซื้อน้ำหอมเอาไปเป็นของขวัญให้เพื่อน ให้แฟน แต่ยังไม่รู้จะเลือกกลิ่นไหนดี วันนี้มิ้วก็มีมาแนะนำ ด้วยความว่าแพคเกจก็น่ารัก ราคาก็น่าซื้อ อย่างนี้ไม่ลองไม่ได้ละ รายละเอียดจะเป็นอย่างไรบ้างนั้นเราไปดูกันเลยจร้า





น้ำหอมที่มิ้วพูดถึงนั่นก็คือ น้ำหอมจาก Oriental Princess Secret Of Charm ความหอมเสน่ห์เงียบทรงพลัง ที่จะทำให้คนเมื่อได้กลิ่นต้องมีความหวั่นไหว หรือหลงใหลกันบ้างแหละ โดยเป็นน้ำหอมเข้มข้น มีน้ำสกัดจากกลีบกุหลาบ ที่ให้ความหอมเฉพาะตัว และยังมีส่วนผสมจากดอกไม้และพรรณไม้ธรรมชาติ พร้อมด้วย Essential Oil ที่ให้ความติดทนยาวนานถึง 8 ชั่วโมง รุ่นนี้เขาแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม มาด้วยกัน 5 กลิ่นเลย นั่นก็คือ

1. กลุ่ม Fresh ได้แก่กลิ่น
-Endless Allure      หอมเย้ายวน สดชื่น ตรึงใจ
-Bright Floral          หอมหวาน อ่อน ละมุน บริสุทธิ์

2. กลุ่ม Floral - Fruity ได้แก่กลิ่น
-Sweet Pleasant      หอมสดชื่น อ่อนโยน โรแมนติก

3. กลุ่ม Fruity ได้แก่กลิ่น
-Lovely Peach         หอมละมุน ชวนหลงใหล
-Be Joyful               หอมหวาน สดใส





แต่กลิ่นที่มิ้วได้มานั้น ก็คือ กลิ่น Endless Allure นั่นเอง มาดูที่ตัวกล่องกันเลยจร้าว่าจะน่ารักน่าซื้อขนาดไหน







ตัวกล่อง





ตัวกล่องมาในลักษณะกล่องของขวัญ เปิดด้วยการดึงฝาออกจากทางด้านบน พอเปิดออกมาก็จะเจอน้ำหอม มองจากด้านบนแล้วเหมือนน้ำหอมอยู่ในดอกไม้เลย เก๋มากๆ 
ด้านหน้า เป็นชื่อของแบรนด์ และชื่อน้ำหอม
ด้านซ้าย เมื่อมองเข้ามาจากด้านหน้าจะเป็น ชื่อและสรรพคุณเป็นภาษาไทย และวิธีใช้ 

มาในปริมาณ 30 มิลลิลิตร ราคา 755 บาท

ด้านขวา เป็นเว็บไซต์ที่ติดต่อ 
ด้านหลัง จะเป็นชื่อ สรรพคุณ และส่วนประกอบ ที่เป็นภาษาอังกฤษ




ตัวขวด



ตัวขวดมาในลักษณะขวดกลมๆสีใส เห็นปริมาณน้ำหอมข้างใน มีฝาสีเงิน เรียบง่าย แต่ดูหรูหรา และยังมี สร้อยเล็กๆ น่ารักๆที่มีลายต่างกันไปในแต่ละกลิ่น ซึ่งเราจะเอาไปใส่เป็นสร้อยข้อมือ หรือคล้องไว้ที่คอขวดน้ำหอมแบบเก๋ๆได้อีกด้วย น่ารักมากๆค่ะ







ลักษณะ เนื้อ สี กลิ่น


เมื่อฉีดน้ำหอมออกมาลักษณะของละอองมีความละเอียดมากเนื้อมีความใสไม่มีสี พอฉีดแล้วกลิ่นก็จะติดตรงที่เราฉีดทั้นทีค่ะ 



วิธีใช้




จริงๆเราสามารถฉีดได้ทุกที่ ที่เราอยากจะเพิ่มความหอมได้เลย แต่วิธีฉีดของมิ้วก็คือ มิ้วชอบฉีดที่ใต้วงแขน ข้อมือ ฝ่ามือ แล้วถูๆ ให้เข้าไปในผิว 
ทริคอีกอย่างนึงก็คือ มิ้วจะฉีดน้ำหอมออกมาแล้วเดินผ่านละอองนั้น มันช่วยให้กลิ่นทั่วถึงกันทั้งตัวค่ะ







ความรู้สึกหลังใช้
มิ้วคิดว่ากลิ่น Endless Allure นี้เมื่อฉีดแล้วดมครั้งแรกคิดว่ามันฉุนนะ แต่มันหยุดดมไม่ได้ ฮ่าๆๆ จริงๆ แบบลองดมห่างๆมันเป็นกลิ่นที่หอมแบบเย้ายวนอย่างที่เขาบอกจริงๆ อารมณ์ประมาณ ผู้หญิง หวานหน่อยๆ ขี้เล่น ซนๆหน่อย อยู่ใกล้ก็อาจจะดูน่ารำคาญ แต่พออยู่ไกลก็คิดถึง อยากเจออีก อยากอยู่ใกล้ อยากดมอยากได้กลิ่นอีก อะไรแบบนั้น นั่นแหละเสน่ห์เย้ายวนที่เราตีความอะนะ 


ส่วนในเรื่องของความติดทน มิ้วว่ามันก็ติดทน 8 ชั่วโมง อย่างที่เขาบอกนะคะ เพียงแต่ว่า กลิ่นมันก็จะค่อยๆลดลงตามกาลเวลา ตอนฉีดแรกๆกลิ่นก็ชัดหน่อย พอเวลาผ่านไปกลิ่นก็จะหอมแบบอ่อนลง จะมีความละมุนขึ้นมาค่ะ



ใครที่เริ่มสนใจในน้ำหอมรุ่นนี้ หรืออยากจะหาของขวัญให้แฟน หรือเพื่อนที่มีลักษณะ หวานนิดๆ ดูซุกซนๆ แต่มีเสน่ห์แล้วละก็ กลิ่นนี้มิ้วแนะนำเลยจร้า หรือใคร อยากลองกลิ่นอื่น ก็ไปดูรีวิวของคนอื่นเพิ่มเติมได้เลย 




ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่
http://www.orientalprincess.com/



วันศุกร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2561

กันแดดแบรนด์ไทย Wendy Complete UV sunscreen : MG-Review

Wendy Complete UV sunscreen



สวัสดีจร้าทุกคน รีวิวนี้มิ้วมาแนะนำกันแดดแบรนด์ไทยอีกแล้ว อ๊ะ!!! แต่อย่าเพิ่งกดหนี หรือเห็นว่ามันก็แค่กันแดดเหมือนๆกัน รับรองว่า แต่ละตัวที่มิ้วเอามารีวิวนั้น ก็มีจุดเด่นแตกต่างกันออกไป ซึ่ง Wendy Complete UV sunscreen ตัวนี้ก็เป็นอีกหนึ่งตัวที่มิ้วคิดว่าเมื่อทุกคนอ่านรีวิวแล้วต้องไปโดนกันซักกระปุก ^^ รายละเอียดจะเป็นอย่างไรบ้างนั้น ต้องไปชมกันเลยจร้า


กันแดด Wendy Complete UV sunscreen มี SPF 50 PA+++  เนื้อบางเบาดุจใยไหม ปราศจากน้ำหอมและผสานคุณค่าของใบบัวบกที่ช่วยลดอาการอักเสบของผิวเมื่อเผชิญแดดและมลภาวะในชีวิตประจำวันต่างๆได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีชะเอมเทศ และวิตามินB3 ที่ช่วยให้ผิวหน้ากระจ่างใส ลดการระคายเคืองอีกด้วย  คนที่มีผิวแพ้ง่ายก็ใช้ได้ด้วยนะเออ

ตัวกล่อง


ตัวกล่องมาใน รูปแบบสวย โดนเด่น สะดุดตาสีฟ้าขาวดูเย็นตา
ด้านหน้า เป็นชื่อแบรนด์ มาในปริมาณ 10 กรัม 
ด้านซ้าย เป็นส่วนผสม และการรับรองจากมาตรฐานต่างๆ
ด้านหลัง เป็นสรรพคุณ วิธีใช้ เลขที่จดแจ้ง ผู้ผลิต  และผู้จัดจำหน่าย
ด้านบนกล่อง เป็นรูปเพชร ซึ่งเป็นจุดเด่น ของกันแดดตัวนี้เลยก็ว่าได้


ตัวกระปุก


ตัวกระปุกก็มีลักษณะโดดเด่นไม่แพ้ใครตรงที่ด้านบนมีลักษณะที่เป็นเพชร ทำมาจากพลาสติก แต่ดูมีความเล่นแสงสวยมาก ด้านหน้าเป็นชื่อผลิตภัณ์ ด้านหลังเป็นสรรพคุณ และวิธีใช้


ลักษณะเนื้อ สี กลิ่น



เมื่อเปิดฝามาแล้วดึงฝากั้นออก จะเห็นเนื้อครีมลักษณะเนื้อเป็นเนื้อมูสนุ่มนิ่มแบบข้นๆ สีครีม มีกลิ่นหอมอ่อนๆ มิ้วลองเกลี่ยบนหลังมือดูก็พบว่าเนื้อมันลื่น และเกลี่ยง่ายมากๆ จากนั้นก็จะแห้งเป็นแป้งไปทันที พร้อมเกิดความกระจ่างใสขึ้นบนหลังมือ นั่นเอง


วิธีใช้


มิ้วจะแต้ม 5 จุด ก็คือที่ หน้าผาก แก้ม2ข้าง จมูก และคาง จากนั้นเกลี่ยให้ทั่วค่ะ 
สภาพผิว: มันบริเวณ T โซน(หน้าผาก คาง จมูก) มีจุดด่างดำประปราย ไม่ค่อยเป็นสิว ผิวไม่แพ้ง่ายค่ะ 


ความรู้สึกหลังใช้
ชอบตรงที่ พอเกลี่ยเสร็จแล้วหน้าจะลื่นๆและแห้งเป็นแป้งไปเลยค่ะ ดูได้จากภาพด้านก่อนทามีความมันๆเงาๆ หลังทาจะแมท แถมหน้ากระจ่างใสขึ้นมานิดนึง แล้วก็ไม่เป็นคราบด้วย หน้านุ่มลื่นพร้อมรับการแต่งหน้าต่อได้เลยจร้า



จากนั้นมิ้วก็ไปแต่งหน้าต่อค่ะ อาจจะทารองพื้น หรือทาแป้งผสมรองพื้นไปได้เลย แต่ถ้าใครที่มีสีหน้า ขาวกว่าแขนอย่างมิ้วแล้วล่ะก็ ต้องใช้รองพื้น หรือแป้งที่มีสีเข้มกว่าหน้าสักหน่อย สีถึงจะพอดีกับแขน ดูไม่โดดลอยมากจนเกินไปค่ะ

ตอนลงรองพื้นไปก็ไม่รู้สึกว่าเป็นคราบอะไรแถมแต่งหน้าติดดีด้วย พอแต่งหน้าเสร็จ มาเช็คหน้าดูอีกที ก็ไม่เกิดคราบแต่อย่างใดจร้า 


สรุปว่ามันเหมาะกับใครบ้าง???
กันแดด  Wendy Complete UV sunscreen นี้เหมาะมากๆกับคนที่มีผิวหน้าผสม ผิวมัน เพราะหน้าเราจะแมทไปในทันที ส่วนคนหน้าแห้ง อาจจะต้องทาครีมบำรุงให้หน้าชุ่มชื้นก่อนแล้วจึงค่อยทาครีมตัวนี้จร้า
เหมาะกับคนแพ้ง่ายด้วยเพราะมีใบบัวบกที่ลดการอักเสบของผิว หรือคนที่ไปแพ้ครีมตัวอื่นมา แล้วหาครีมกันแดดอยู่ก็ลองตัวนี้ได้เลยจร้า


ใครที่อ่านรีวิวของมิ้วแล้วเริ่มสนใจกันแดดตัวนี้ก็ไปจัดกันได้เลยค่ะ เข้าไปที่ Facebook Fanpage ได้เลย
ตัวนี้มาในราคา 279 บาท หรือสั่งซื้อได้ที่ตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศค่ะ



 สุดท้ายก่อนจะจากกันมิ้วก็ต้องขอขอบคุณมากๆที่เข้ามาอ่านรีวิวของมิ้วนะคะ อย่าลืมว่า นี่ก็เป็นแค่ความคิดเห็นส่วนตัวของมิ้วเท่านั้น ลองดูรีวิวของคนอื่นเพิ่มเติม เพื่อประกอบการตัดสินใจซื้อเด้อ














วันจันทร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2561

แป้งน้ำหอม ทาผิว+หน้า Twelve Plus 2 สูตร ต่างกันยังไง??? | MG-Review


Twelve Plus Perfume Fresh Powder


สวัสดีจร้าทุกคน อากาศประเทศไทยเนี่ยนะ มีแค่ร้อนกับร้อนมากเท่านั้นแหละ เราก็จะสรรหาวิธีคลายร้อนกันมากมาย แต่วิธีที่ง่ายและถูกที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้นการทาแป้ง แล้ววันนี้มิ้วก็จะมารีวิวแป้งเย็นที่หอมที่สุดเท่าที่มิ้วเคยใช้มาเลยก็ว่าได้ ทั้งเย็นทั้งหอมในประป๋องเดียว แถมคุ้มค่ากับราคามากๆ รายละเอียดจะเป็นยังไงนั้นไปชมกันเลยจร้า





แป้งที่มิ้วพูดถึงนั่นก็คือ Twelve Plus Perfume Fresh Powder เป็นแป้งเย็น แป้งน้ำหอม และแป้งสี จากแบรนด์ ทเวลฟ์ พลัส มีส่วนผสมของ essence จาก ดอกไม้ 12 ชนิดและวิตามิน ซี พร้อมบำรุงให้ผิวดูเนียนนุ่ม จึงสามารถทาได้ทั้งตัวและใบหน้า เพราะแป้งมีเนื้อสีที่เข้ากับผิวหน้าของทุกคน ทั้งโทนผิวขาว และโทนสีเหลือง แถมยังมีกลิ่นดอกไม้หอมสดชื่นมากๆ มาด้วยกัน ถึง 2 สูตรคือ


Twelve Plus CC Pink Aura Perfume Fresh Powder 
แป้งน้ำหอมทเวลฟ์ พลัส ซีซี พิงค์ ออร่า
-เนื้อแป้งสีขมพู เนื้อเนียนละเอียด มีกลิ่นหอมของดอก พีโอนี




 Twelve Plus BB Perfect Smooth Perfume Fresh Powder 
 แป้งน้ำหอมทเวลฟ์ พลัส บีบี เพอร์เฟค สมูธ
-เนื้อแป้งสีเนื้อ เนียนละเอียด มีกลิ่นหอมของดอกเดซี่

   








ลักษณะ เนื้อ สี กลิ่นของแป้ง




ลักษณะเนื้อ เป็นแป้งที่มีเนื้อเนียนละเอียดมากๆๆๆๆๆๆๆแก อนุมันเล็กมาก มันเนียนนุ่มไปกับผิวเลยตอนถูๆไปบนตัวอ้ะ 
สี จะสังเกตได้ว่า สีของแป้งนั้นแตกต่างกันอย่างชัดเจน โดยสีจะเป็นไปตามกระป๋องแป้งเลยก็คือ สูตร CC จะเป็นสีชมพู สูตร BB จะเป็นสีเนื้ออ่อนๆ
ซึ่งสีชมพูนี้ จะช่วยให้ผิวดูสว่างใสขึ้น ดูมีออร่า 
ส่วนสีเนื้อ จะทำให้ผิวดูเนียนและเบลอจุดด่างดำต่างๆ
กลิ่น ทั้งสองสูตรก็มีความแตกต่างกัน โดยที่สูตร CC จะเป็นกลิ่นดอกพีโอนี่ หอมหวานๆ ส่วนสูตร BB จะเป็น กลิ่นดอกเดซี่ ดูหอมสดชื่น
เรามากันต่อค่ะว่าพอลองเอามาทาแล้วจะแต่กต่างกันขนาดไหน????


เมื่อลองทาที่ผิว


มิ้วลองทา สูตร BB ที่แขนด้านขวา แล้วเปรียบเทียบกับก่อนทาจะเห็นว่าแขนดูเนียนขึ้นกระจ่างใสขึ้นมานิดหน่อย ไม่ได้ขาวโดดลอยโอเวอร์ แถมเนื้อแป้งก็ทาง่าย เกลี่ยง่ายด้วย ที่ชอบก็คือมีความเย็นนิดๆและความหอมอ่อนๆ สดชื่นมากๆ


พอทาสูตร CC ที่แขนซ้าย แล้วเอามาลองเปียบเทียบกัน จะเห็นว่า ด้านที่ทาด้วย สูตร CC มีความขาวกว่าด้าน BB แต่เมื่อเปรียบเทียบกับความรู้สึกมิ้วแล้ว มิ้วชอบด้าน BB มากกว่าค่ะ เพราะดูเป็นผิวมิ้วมากกว่า (มิ้วไม่ชอบความขาวอ้ะ) ดูเนียนกว่าด้าน CC ผิวโทนดหลืองแบบมิ้วดูเหมาะกับเนื้อแป้งสูตร BB มากกว่า


เมื่อทาลงบนหน้า

โดยอุปกรณ์ที่มิ้วใช้ก็จะมี 2 อย่างก็คือ แปรงกับ พัฟ ที่เพิ่มพัฟเข้ามาก็เพราะมิ้วอยากดูว่าถ้าใช้พัฟแล้วเนื้อแป้งจะเป็นอย่างไรตอนอยู่บนหน้าของเราค่ะ เผื่อวันไหนลืมเอาแปรงแต่งหน้ามาจะได้แทนกันได้

สูตร BB

มิ้วเทแป้งลงบนฝ่ามือแล้วจุ่มๆแปรงลงที่แป้ง แล้วเอาแตะลงที่ หน้าผาก แก้ม คาง และคอ จากนั้นเกลี่ยให้ทั่วๆค่ะ ความรู้สึกตอนที่แป้งโดนหน้าคือ มีความเย็นแบบเบาๆ ไม่ได้เย็นวาบเหมือนแป้งยี่ห้ออื่น แล้วกลิ่นหอมก็ติดจมูกมากๆด้วย เกลี่ยง่ายอีกต่างหาก ไม่เป็นคราบหลังทาเสร็จค่ะ แล้วหน้าก็มีความแมทขึ้นซึ่งก่อนทาจะเห็นว่าหน้ามิ้วนั้นมันเงาสะท้อนแสงมาเลย

สูตร CC

หลังทา สูตร CC เสร็จ มิ้วสังเกตว่า สีหน้าฝั่ง CC จะดูขาวกว่าเล็กน้อย แต่ถ้ามองผ่านๆก็แทบไม่ต่างกันเลยค่ะ สรุปว่าถ้าใช้แปรงลงแป้งสีหน้าแบบมิ้วก็ใช้ สูตรใดก็ได้แล้วแต่ความชอบเลย


เมื่อใช้พัฟ


มิ้วเทแป้งลงบนมือแล้วใช้พัฟจุ่มไปที่แป้ง แล้วลงไปบริวเณ ใต้ตาก่อน จากนั้นค่อยแตะไปที่แก้ม หน้าผากและคอ มิ้วเกลี่ยโดยการกดพัฟให้ทั่วๆใบหน้า  แต่ลำคอมิ้วใช้การลากค่ะเพราะพื้นที่มันมากกว่าส่วนอื่นๆ 
หลังจากทาเสร็จก็พบว่า มันดูขาวขึ้นกว่าตอนลงด้วยแปรงนิดนึงค่ะ อันนี้มิ้วสังเกตจากความรู้สึกหลังทาเสร็จจริงๆ ในภาพอาจจะเห็นไม่ค่อยชัด และก็ยังไม่เป็นคราบเหมือนเดิม


หลังจากทาสูตร CC เสร็จ เมื่อเปรียบเทียบกับฝั่ง BB จะเห็นว่า ด้านที่ทาด้วยสูตร CC จะดูขาวกว่า BB เพราะสีแป้งที่เป็น สีชมพูนั่นเองค่ะ

ความปกปิด บางเบา พอเซทหน้าไม่ให้มันมากกว่าค่ะ ทำหน้าทีเหมือนแป้งฝุ่นที่เราเอาไว้เซทรองพื้นนั่นเอง 

ความุมมัน หลังเซทแแป้งเสร็จผิวหน้าเราจะดูแมททันทีเลย แต่ผ่านไปสัก 1-2 ชั่วโมง ก็จะเริ่มมีความมันขึ้นมาแล้ว (จริงๆแล้วแต่สภาพอากาศด้วยค่ะ มิ้วทดสอบในที่ๆอาหาศไม่ร้อนมากและอู่ในร่มเกือบทั้งวัน ออกแดดบ้างนิดหน่อย)


เปรียบเทียบก่อนและหลังทาแป้งเห็นกันชัดๆเลยว่า หน้าดูแมทขึ้นมาก และดูสว่างขึ้น ประมาณ 2 เฉดเลยค่ะ 


ภาพนี้เปรียบเทียบก่อนทาแป้งกับหลังทาแป้งและแต่งหน้าแบบเบาๆโดยการใช้แป้งผสมรองพื้นปกปิดที่ใต้ตา เขียนคิ้ว ปัดแก้ม ทาตา ทาปาก โทนสีชมพูอมส้มใสๆค่ะ ลุคนี้แต่งง่ายๆ สำหรับมือใหม่ เป็น everyday look ได้เลย


รูปนี้มื่อเทียบกันทั้งหน้าและตัว สีผิวดูสม่ำเสมอแถมนวลเนียนอีกด้วย แต่ถ้าใครที่มีหน้าขาวกว่าแขนแบบมิ้ว ก็อาจจะต้องเพิ่มเฉดดิ้งที่ ร่องแก้มด้วยเพื่อให้สีหน้าดูไม่โดดลอยเกินกว่าแขนค่ะ


สรุป
เนื้อแป้งมีความเกลี่ยง่าย ปกปิดบางเบา ไม่เป็นคราบหลังทาเสร็จ กลิ่นหอมมากๆ มิ้วชอบแป้งเนื้อ สูตร BB มากกว่าค่ะ อันนี้โดยส่วนตัวนะ เพราะด้วยเนื้อแป้งเป็นสีเนื้อออกโทนเหลืองด้วยแหละ แต่ชอบกลิ่นของทั้งสองสูตรเลย ทาหน้าได้ไม่แสบหน้าค่ะ ออกแนวเย็นนิดๆพอสดชื่น ส่วนสูตร CC จะเหมาะกับ คนที่มีผิวโทนชมพู ผิวขาว อะไรแบบนั้นมากกว่า แต่เมื่อเอามาทาที่หน้าแบบใช้แปรงแล้วก็สามารถใช้ได้ทั้ง 2 สูตรค่ะ สีไม่ต่างกันมากนัก

ใครที่สนใจอยากได้แป้งน้ำหอมไปลองใช้ดูบ้างก็ หาซื้อได้ง่ายๆเลยที่
7-11 และร้านค้าชั้นนำทั่วไป มาเป็นกระป๋องเล็ก ที่มิ้วถืออยู่นี่ ปริมาณ 50 กรัม ราคา 20 บาท
ห้างสรรพสินค้า เช่น โลตัส บิ๊กซี วัตสัน กูร์เม่ ท็อปส์ จะเป็นกระป๋องใหญ่ ปริมาณ 280 กรัม ราคา 59 บาท

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่
https://www.facebook.com/TwelvePlusOfficial/