แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ลพบุรี แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ลพบุรี แสดงบทความทั้งหมด

วันอังคารที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2564

รีวิว Mars de cafe (มาร์ดิคาเฟ่) คาเฟ่เปิดใหม่ ใจกลางเมืองลพบุรี สีชมพูสุดสวยน่ารัก นึกว่าอยู่เกาหลี!!! | MG-Review

 MARS DE CAFE

LOPBURI 

THAILAND


สวัสดีค่าทุกคน รีวิวนี้มิ้วจะพาทุกคนไปดูคาเฟ่เปิดใหม่ ใจกลางเมืองลพบุรี ด้วยความที่เป็นคนลพบุรีด้วย และคาเฟ่อยู่ใกล้ๆกับที่บ้านด้วย แบบขับรถมาไม่นานก็ถึง อยู่ใกล้ วังนารายณ์ อยู่ ใกล้โรงเรียนวินิต1 ทำเลดีนะบอกเลย แถมร้านเขาก็ยังสวยสะดุดตาแบบชนิดที่ว่า ขับรถผ่านต้องหันกลับมามอง เพราะงั้นไม่พาไปชมก็กะไรอยู่ค่า รายละเอียดจะเป็นอย่างไร ร้านสวยขนาดไหน ราคาสมกับขนมหรือไม่ ไปดูรายละเอียดกันได้เลยค่ะ



Mars de cafe (มาร์ดิ คาเฟ่) เป็นคาเฟ่สองชั้น ที่อยู่ใจกลางเมืองลพบุรี ตัวร้านจะอยู่ทางมุมของแยกตรงข้ามกับวังนารายณ์เลยค่ะ 

ร้านจะเปิดทุกวัน จันทร์ - อาทิตย์ เวลา 09:00- 18:00

ตัวร้านด้านนอกจะเป็นตึก แถว 2 ชั้น ที่ทาสีชมพูอ่อนทั้งตึก แถมมีป้ายตัวอักษรอยู่หน้าร้านสังเกตได้ง่ายมากเลยค่ะ


โทนสีของร้านจะเป็นสี ชมพู โรสโกล์ว สีขาว สีเทา พอเปิดประตูเข้ามา ก็จะต้อง สแกนอุณหภูมิก่อน แต่ที่พิเศษคือ เครื่องนี้จะหยดเจลแอลกอฮอล์ได้ในครั้งเดียวกันค่ะ มีความเก๋มาก


ร้านด้านล่าง จะมีเค้าเตอร์ให้สั่งขนม และเครื่องดื่ม มีโต๊ะ แบบเป็นริมหน้าต่าง และโต๊ะกลางห้อง ที่เป็นสีขาว ซึ่งมิ้วนั่งตรงนี้ค่ะ แล้วก็มีอีกด้านหนึ่งที่บุผนังให้ความรู้สึกอยู่เกาหลีมาก (อุ้ว ร้านสวยตั้งแต่ข้างล่างเลยค่ะ)

เนื่องจากมิ้วมาวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นวันที่คนเยอะมากๆ อาจจะไม่ได้ถ่ายบางมุมนะคะ เพราะกลัวติดคนอื่นมาด้วย


ด้านนี้จะเป็นเมนูแนะนำต่างๆของที่ร้านค่ะ แปะแนะนำแบบเห็นภาพชัดเจน


ส่วนด้านนี้จะเป็นขนมของที่ร้าน มีทั้งเค้ก คุกกี้ ครัวซอง และอื่นๆค่ะ ตามภาพ น่าทานทั้งนั้นเลย


ที่ร้านตกแต่งได้สวย ไปหมด ถ่ายรูปได้ทุกมุมเลยค่ะ

พอเดินเข้ามาในร้านมิ้วก็ไปสั่ง น้ำกับขนมที่เค้าเตอร์ค่ะ สักพักเขาจะให้ ป้ายรอคิวมา คือจะเป็นป้ายที่พอถึงคิวของเราแล้วก็จะส่งเสียงเตือนเรานั่นเองค่ะ จะได้ไม่ลืมว่าถึงคิวเราแล้ว


ที่มิ้วสั่งก็จะเป็น ชากุหลาบเมนูแนะนำของทางร้าน(70.-) กับชาเขียวเย็น(60.-) และเค้ก(95.-)ค่ะ


เห็นหน้าตาดีแบบนี้แล้ว รสชาติขอบอกเลยว่า ดีงามไม่แพ้กันค่ะ ชากุหลาบได้กลิ่นหอมของกุหลาบรสชาติเปรี้ยวๆหวานๆ ส่วนชาเขียวก็ไม่หวานไป กลิ่นหอมชาเขียวกำลังดีค่ะ ส่วนเค้กก็หอมช้อคโกแลต หวานนิดหน่อย แต่เสียดาย มาก้อนเล็กไปนิดนึงค่ะ ฮ่าๆ


บอกเลยว่าร้านี้ถ่ายมุมไหนก็สวย


วันที่ไปตอนนั้นคือ จริงๆไม่ได้ตั้งใจจะมา แต่ไหนๆมาในเมืองแล้ว ก็เลยแวะสักหน่อย เสื้อผ้า หน้าที่ไม่ได้แต่งมากนัก ผมที่ยังไม่สระสภาพก็อย่างที่เห็นค่ะ ฮ่าๆ


มุมเด็ดที่ชั้นล่าง ก็จะเป็นเก้าอี้กำมะหยี่สีชมพูที่มีพื้นหลังเป็นชื่อร้านนี่แหละค่ะ ดูสวยแพง ลูกคุณมาก


แถมยังมีห้องน้ำไว้ให้บริการด้วยค่ะที่ชั้นล่าง 


และร้านนี้เขาก็มีชั้น 2 ด้วยจ้า ตอนแรกคิดว่ามีชั้นเดียว ซึ่ง ถ้ามีชั้นเดียวคือเล็กมากเลยนะ เสียดายการตกแต่งของร้าน ถัดจากห้องน้ำมาจะมีบันไดทางขึ้นไปชั้น 2 ค่ะ แต่ขึ้นระวังๆหน่อยนะคะเพราะบันไดค่อนข้างจะชัน


พอขึ้นมาชั้นสองบอกเลยว่า สวยกว่าชั้นแรกอีกค่ะ แล้วคนก็เยอะเช่นกัน ฮ่าๆ มีหลายมุมให้ถ่ายรูปมาก ไม่ว่าจะเป็นบ่อบอล(แต่ห้ามลงไปนะคะ หยิบบอลมาเป็นพร็อบ ถ่ายเล่นๆได้) มุมเก้าอี้เล็กๆ ผนังที่มีข้อความเรืองแสงต่างๆ


บอกเลยว่าแต่ละมุมนั้น สวยไม่แพ้กันเลยค่ะ แต่ก็อย่างที่บอกว่ามิ้วไปวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นวันที่มีตลาดนัดในเมืองลพบุรีด้วย เป็นวันหยุดด้วย คนเลยเยอะเป็นพิเศษ แต่ก็พยายามบิดตัว หามุมหลบคน และเหล่านักรีวิวต่างๆด้วย เท่าที่มิ้วเห็นก็คือ เขาแต่งตัวมาพร้อม ชุดพร้อม กล้องพร้อมมาแบบจัดเต็มมากเลย ตัดภาพมาที่มิ้ว ฮ่าๆๆ


มุมนี้ช่วงบ่ายแสงกำลังเข้าเลยค่ะสวยมาก


มุมนี้ใช้เลนส์วาย ตัวเลยดูยาวๆหน่อย



มุมนี้ก็น่ารักค่ะ ใส่สีเทามาก็ดูเข้าอยู่น้าาาาาา ไม่รู้คิดไปเองรึเปล่า ฮ่าๆ


ส่วนบ่อบอลก็ถ่ายได้ขอบๆน้าอย่าลงไปเด้อ (ดูหน้าเหมือนยัง งงอะไรสักอย่าง ฮ่าๆ)


ยังมีมุมอีกหลายมุมเลยที่มิ้วไม่ได้ถ่าย แต่เพราะคนเยอะมากเลยขอไปวันธรรมดา ครั้งหน้าดีกว่า เวลาไปก็หามุมหาเวลาดีๆก็แล้วกันค่า


ส่วนมุมนี้จะเป็นทางลงบันไดไปชั้นล่าง ให้อารมณ์เหมือนอยู่เกาหลี หรือ ทางลงไปชั้นใต้ดิน ที่ต่างประเทศเลยค่ะ


โดยรวมแล้วมิ้วถือว่า Mars de cafe (มาร์ดิคาเฟ่) เป็นคาเฟ่ แนวใหม่มากสำหรับเมืองลพบุรี คือฉีกทุกโทนสี และแนวในตอนนี้ เพราะคาเฟ่ ในเมืองลพบุรีส่วนใหญ่ จะให้อารมณ์เหมือนอยู่ในญี่ปุ่น จะเป็นโทนไม้ๆ สีขาว สีดำ ต่างๆ แต่นี่คือมาสีชมพูเลยจ้า แถมร้านก็อยู่ตรงมุมวังพอดี เห็นแล้วสะดุดตามาก

ส่วนการตกแต่ง ก็เน้นไปทาง สวยแพง ลูกคุณ และแนวๆเกาหลีค่ะ
ส่วนราคา มิ้วถือว่า อยู่ในระดับกลาง ไม่แพงไป ไม่ถูกไป คุ้มค่ากับการได้รูปและมุมสวยๆ และรสชาติก็ดีขนมก็อร่อยเลยค่ะ

ถ่ายที่หน้าร้านช่วงเวลา 16:00 ค่ะ

ส่วนคำแนะนำของมิ้วก็อยากจะบอกว่า มาวันธรรมดาคนจะน้อยกว่า ส่วนการแต่งตัว ก็เป็นแนวเกาหลีก็ได้ หวานๆก็เข้า สวยแพงก็เริ่ด หรือใครจะมาเท่ๆก็ได้เช่นกันค่ะ โทนสีก็เช่น เทา ขาว นู้ด ดำ ชมพู ชมพูเข้ม ก็จะดูเข้ากับทางร้านค่ะ

ส่วนใครที่อยากเข้าไปดู บรรยากาศร้านเพิ่มเติม หรือรีวิว ขนมเครื่องดื่มต่างๆ
ก็สามารถเข้าไปติดตามและดูเพิ่มเติมได้ที่นี่เลยจ้า

ทั้งหมดก็มีประมาณนี้นะคะที่มิ้วมารีวิว แต่เดี๋ยวจะไปบ่อยๆ แล้วเอารูปมุมต่างๆมาเพิ่มอีกแน่นอนค่ะ เหมือนยังไม่เต็มอิ่ม ฮ่าๆ ไว้เจอกันใหม่รีวิวหน้าค่ะ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านกันนะคะ <3



















วันอาทิตย์ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2563

ส่องของกิน ร้านน่าช้อป น่าชิม ที่ งานฤดูหนาว ลพบุรี ปี 2563 | MG-Review

 ร้านน่าซื้อ น่าช้อป น่าชิม
งานฤดูหนาว ลพบุรี 
ประจำปี 2020



สวัสดีค่าทุกคน รีวิวนี้ไม่ได้มารีวิวเครื่องสำอางแต่อย่างใดนะคะ แต่จะมารีวิวร้านสวยๆ น่าช้อป น่าทาน ในงานฤดูหนาวจังหวัดลพบุรี ที่มิ้วอยู่นั่นเองค่ะ จะมีร้านไหนน่าช้อป น่ากินบ้างนั้น ไปชมกันเลยจ้า


งานฤดูหนาวลพบุรี เป็นงานเทศกาลประจำปีของจังหวัดลพบุรีที่รวมร้านขายของต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นของกิน ของใช้ ร้านอาหาร เครื่องเล่น เสื้อผ้า คอนเสิร์ต ไว้ในที่เดียวค่ะ 

ทุกปี งานจะจัดช่วง ปลายเดือน พฤศจิกายน ถึงต้นเดือน ธันวาคม จัดที่ โรงเรียนพิบูลวิทยาลัย ใจกลางเมืองลพบุรีเลยค่ะ ที่จอดรถก็สามารถจอดได้ใกล้ๆโรงเรียนพิบูลเลย แต่รถจะแน่นหน่อยนะคะ มีร้านเปิดขายของทั้งกลางวันและกลางคืน 

เสียบัตรค่าเข้า ผู้ใหญ่ 20 เด็ก 10 บาทค่ะ


บัตรปีนี้ (2563) ก็จะหน้าตาประมาณนี้ค่ะ พอเดินเข้ามาในงานคนก็จะเยอะพอสมควร เพราะมิ้วไปช่วงวันที่ 5 ธันวาคม คนจะเยอะเป็นพิเศษ เพราะจะมีการจุดพลุให้ชมกันด้วยค่ะ 


ทางเข้าก็จะมีอยู่ด้วยกันหลายทางค่ะ มิ้วเลือกเข้าทางด้านข้างเพราะคนจะไม่เยอะมาก ทางฝั่งปรางค์สามยอดค่ะ เดินเข้ามาก็มีซอกซอยให้เดินหลายทางเลย 


มิ้วเลือกเดินทางริมก่อน ก็จะมีทั้ง เครื่องเล่นเด็กต่างๆ รถบั๊ม ยิงปืน ลิเก โชว์รูมรถ(ใช่ค่ะมีแทบทุกค่ายมาออกงาน) และร้านอาหารค่ะ


บ้านผีสิงก็มา คนต่อคิวกันเพียบ



ร้านอาหารคาวต่างๆ



บอกเลยค่ะว่า เลือกกินกันไม่ไหว เพราะมีหลายร้านมากมายจริงๆ อยากรู้ว่าร้านไหนอร่อยก็ดูจากคนที่เข้าร้านนะคะ เพราะอาจจะชิมได้ไม่หมดทุกร้าน ฮ่าๆ แต่คิดว่าอร่อยทุกร้านเลยค่ะ ถ้ามาออกงานขนาดนี้แล้ว


ก๋วยเตี๋ยวเอย หอยทอด ยำ มีหมดค่ะ


เดินเข้ามาอีกหน่อย โซนนี้จะรวมร้านข้าวต่างๆไว้ ด้วยกันค่ะ เลือกทานได้เลย


ร้านเคบับก็มาหั่นเนื้อกันสดๆ


หอยทอดกับ นกกระทาหมุนก็มา


ร้านหมูกะทะ ก็มีให้นั่งทานกันตรงนี้เลยค่ะ ราคาเริ่มต้น 89 บาท


ผัดไทย ผัดหมี่จากโคราชก็ส่งตรงถึงงานนฤดูหนาวลพบุรีค่ะ


ร้านไก่ทอดก็มา ร้านนี้มิ้วซื้อกินจริงค่ะ อร่อยมาก ราคาอยู่ที่ 10-25 บาท มีหลายรสให้เลือก ทอดกรอบอร่อยจริงๆค่ะ คือมิ้วซื้อแล้วเอามาทานที่บ้าน ยังกรอบอยู่เลย


ปิดท้ายร้านอาหารคาวด้วยเนื้อย่างโคขุนค่ะ แถมเข้าโครงการคลละครึ่งด้วย ลดไปอีกครึ่งนึงเลยค่ะ ใครชอบทานเนื้อต้องลอง


ร้านของหวาน อาหารทานเล่นต่างๆ



เริ่มต้นด้วยร้านของหวานแบบไทยๆก็มีมาให้ได้ลองกันค่ะ


เค้กบ้านสวนก็มาให้ทุกคนได้ซื้อกันถึงที่ ไม่ต้องไปถึงแถวอยุธยาเลยฮ่าๆ


ร้านขนมถังแตกก็มีอยู่หลายร้านให้ได้เลือกซื้อกันค่ะ มีหลายรสด้วย


ร้านขนมไทยก็มีมาหลายร้านค่ะ 


แต่ที่ ครอบครัวมิ้วต้องซื้อกลับบ้านทุกทีก็จะเป็นสาลี่ของร้าน ทรงนิมิตรค่ะ ไม่รู้ทำไม ร้านอื่นมีเยอะแยะแถมคิวน้อยด้วย แต่คนที่มาส่วนใหญ่จะมารอซื้อร้านนี้กันค่ะ แต่มิ้วคิดว่า เพราะเขาทำสดใหม่ แถมเนื้อสาลี่นุ่ม หอม เนื้อไม่ร่วนด้วยค่ะ ราคากล่องละ 35 บาท 3 กล่อง 100 ต่อคิวซื้อทุกปีที่ไปค่ะฮ่าๆ


อีกร้านนึงที่มิ้วแนะนำ และชอบมากๆเลยคือ บราวน์นี่ร้านนี้ค่ะ หอม หวาน(นิดนึง) และมีให้เลือกหลลายรสชาติ เช่นผสมไวท์ช้อคเอย ผสมนูเทล่าเอย โอวัลตินเอย แผ่นละ 10 บาทค่ะ แต่จะได้ แผ่นไม่หนามาก ขายพอให้ชิมได้กรุบกริบ เป็นซิกเนเจอร์ของทางร้านค่ะมิ้วว่านะ แถมร้านี้ยังเข้าโครงการคนละครึ่งด้วย ดีงามมาก มิ้วเลยจัดไป 10 แผ่นเลยค่ะ 


หน้าตาของกล่อง และบราวน์นี่ที่เหลืออยู่ก็จะเป็นประมาณนี้ค่ะ ฮ่าๆ แแอบกินไปแล้วบางส่วน


มันฝรั่งทอด ใส่ซอสต่างๆก็มีอยู่หลายร้านค่ะ มีให้เลือกหลายรสชาติด้วย มีหลายขนาดด้วย ทั้งใส่ถ้วย ใส่ถุง ใส่ในกรวย เลือกร้านได้ตามสะดวกเลยค่ะ


กับร้านไข่นกกระทาทอด (หรือใครจะเรียกไข่เต่าก็แล้วแต่คนค่ะ) ถุงละ 20 บาท อร่อยมาก แต่!! ลืมถ่ายชื่อร้านไว้ งื่อ เพราะตอนนั้นไปเจอคอนเสิร์ตพอดีค่ะ แต่มิ้วไม่ได้เข้าไปข้างในยืนดูอยู่ข้างนอกเท่านั่น ซึ่งวันนั้นมี ทิลลี่เบิร์ดมาด้วยค่ะ





ส่วนร้านนี้เป็นร้านอาหารญี่ปุ่น ที่ขึ้นชื่อของลพบุรีค่ะ (ถ้าจำไม่ผิด) ทาโกะยากิก็มาให้เราได้ทานกันถึงที่


ร้านขนมพ่นควันก็มีอยู่หลายร้านค่ะ แต่ร้านนี้ดูคนเยอะ แถมตกแต่งร้านได้น่ารักอีกด้วย


ร้านข้าวหลามจากสุโขทัยก็มาผ่ากระบอกไม้ไผ่ให้ได้ดูกันสดๆค่ะ



ร้านน้ำต่างๆ



เริ่มกันด้วยโค้กวุ้นค่ะ เหมือนปีนี้เจอหลายร้านมาก ก็คือการเอาโค้กมาแช่ในน้ำแข็ง พอผ่านไปสักพักนึง เคาะขวด ใส่น้ำลงในแก้ว ก็จะได้โค้กที่เหมือนสเลิ้ปปี้ในเซเว่นเลยค่ะ เป็นเกล็ดน้ำแข็งแบบน่าทานมากๆ


ส่วนมิ้วก็เลือกซื้อร้านนี้ค่ะ เพราะแสงไฟเลย ฮ่าๆ แถมคนดูน้อย เพราะรสชาติและราคาน้ำก็เหมือนกันหมดค่ะ 



ใครชอบน้ำอ้อยก็ลองกันได้


ชาแบบกระป๋องก็มีค่ะ ดูสะดวกพร้อมทาน พร้อมขายในคราวเดียว


ร้านน้ำอ้อยอีกร้านที่คั้นอ้อยกันแบบสดๆเลยค่ะ


ส่วนร้านนี้เป็นร้านที่รวมชาเอาไว้เยอะแยะมากมายเลยค่ะ ดูจากเมนู แถมราคาเริ่มต้นที่ 19 บาทเท่านั้น มิ้วเลยลองซื้อขาเขียวนเอามาลองชิม ที่ร้านเขาชงสดๆเลยค่ะ ไม่ได้ทำเผื่อไว้(ซึ่งตอนแรกมิ้วคิดว่าแบบนั้น) แต่พอลองชิมดู คือเกินคาดค่ะ หอมชาเขียวมาก แต่อาจจะหวานไปหน่อยสำหรับคนไม่ทานหวานมาก แต่คือคิดไม่ผิดจริงๆที่เลือกร้านนี้ และแก้วที่ได้ก็ใหญ่คุ้มราคา 19 บาทเลยค่ะ เริ่ด!!


ร้านของใช้ เสื้อผ้าต่างๆ



แหล่งรวมแฟชั่น ของกระจุ๊กกระจิ๊ก และของใช้ต่างๆก็มารวมไว้ที่นี่ที่เดียวเลยค่ะ เริ่มต้นที่ 5 บาทเลย


ร้านนี้ก็มีแฟชั่นหน้าหนาวมาในราคาถูกมากค่ะ แต่ก็จะป็นพวก เสื้อผ้ามือสองด้วย นอกจากนี้ก็มี ร้านเคสมือถือ เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า สร้อย แหวน คือทุกอย่างจริงๆค่ะที่นี้ มีหมดเลย แต่มิ้วไม่ได้ถ่ายมาเพราะมันเยอะมากมายจริงๆ ฮ่าๆ


ปิดท้ายกันด้วยพลุสวยๆในปีนี้ค่ะ ของจริงสวยกว่านี้มากกกกกอจะมีช่วง 21:30 ค่ะ หรือแล้วแต่ทางงานจะกำหนด (พลุชุดใหญ่เลยจะมีวันที่ 5 ธ.ค. ของทุกปีค่ะ แต่วันอื่นๆอาจจะมีจุดบ้างแต่ไม่เยอะเท่า)


สำหรับบทความนี้อาจจะมาช้าไปสำหรับ งานฤดูหนาวในปีนี้ เพราะ มีจัดถึงแค่วันที่ 7 ธ.ค. นี้เท่านั้น แต่ถ้าใครหลงมาอ่าน ก็อย่าลืมมาเที่ยวกันได้ค่ะ ช่วงสิ้นเดือน พ.ย. ถึงต้นเดือน ธ.ค. เท่านั้นค่ะ มาเที่ยวกันเยอะๆนะคะ ไว้เจอกันใหม่รีวิวหน้าค่า สวัสดีค่ะ ^^