แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ผิวเนียน แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ผิวเนียน แสดงบทความทั้งหมด

วันพฤหัสบดีที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2563

[ลองของ] sasi MOUSSE MELLOW แป้งเบลอผิว คุมมันได้ จริงดิ??? | MG-Review

 SASI

MOUSSE MELLOW 

Foundation Powder

สวัสดีค่ะทุกคน รีวิวนี้มิ้วจะมาท้าพิสูจน์ แป้งตัวใหม่ของ sasi ที่มีชื่อว่า MOUSSE MELLOW Foundation Powder ที่เขาร่ำลือกันว่า เป็นแป้งที่ช่วยเบลอผิวรูขุมขน ทั้งยังช่วยคุมมันได้ยาวนานถึง 12 ชั่วโมงอีกด้วย เครมแรงขนาดนี้ต้องมาลองดูกันแล้วค่ะว่าจะจริงอย่างที่ว่ามาหรือไม่ มิ้วใช้แล้วจะเป็นอย่างไร รายละเอียดจะเป็นอย่างไรบ้างนั้น ไปชมกันเลยค่า


แป้ง sasi MOUSSE MELLOW Foundation Powder เป็นทั้งแป้งพัฟคุมมัน แป้งเบลอผิว แป้งเบลอรูขุมขน ตัวใหม่ล่าสุดจาก sasi ที่มีคุณสมบัติ Magic Blur Powder ช่วยเบลอรูขุมขน และผิวหน้าให้ดูเรียบเนียน สวย รวมไปถึงมีเทคโนโลยี Oil Catcher Technology ที่ช่วยควบคุมความมันได้ยาวนานถึง 12 ชั่วโมง อีกด้วยค่ะ นอกจากนี้ยังมี วิตามัน E ที่ไม่ทำให้หน้าแห้ง และ SPF30 PA+++ ช่วยให้หน้าเนียนสวยตลอดวันด้วยค่ะ

แล้วแป้งตัวนี้เขาก็ยังบอกอีกว่าไม่มี แอลกอฮอล์ และพาราเบนด้วย คนผิวแพ้ง่ายใช้ได้เลยค่ะ


ตัวกล่อง


ตัวกล่อง มาในกล่องกระดาษสีชมพูขาว ลายน่ารักมากๆค่ะ 


ด้านหน้าเป็นชื่อแบรนด์ ด้านหลังจะมีสรรพคุณ วิธีใช้ สถานที่ผลิต ช่องทางการติดต่อ
และมาในปริมาณ 8.5 กรัม ราคา 159 บาท


ด้านฝากล่องจะเป็นชื่อสี ซึ่งสีที่มิ้วได้มาก็คือ 03 Honey ค่ะ ส่วนด้านข้างของกล่องอีกด้านหนึ่งก็จะบอกเอาไว้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่ทดลองในสัตว์ด้วย ดีงามมากๆเลย


ตัวตลับและสีแป้ง


ตัวตลับก็จะเป็นสีชมพูเนื้อด้านค่ะน่ารักมาก ขนาดเท่าฝ่ามือมิ้ว ไม่เล็ก ไม่ใหญ่เกินไปพกพาใส่กระเป๋าไปได้สบายๆ 


สีที่มิ้วได้มาก็จะเป็นเบอร์เข้มสุดของรุ่นนี้ก็คือเบอร์ 03 Honey ซึ่งเหมาะกับคนผิวสีน้ำผึ้ง ผิวเข้ม
เบอร์ 01 Vanilla วานิลลา เหมาะสำหรับสาวผิวขาว
เบอร์ 02 Late ลาเต้ สำหรับสาวผิวสองสีไปจนถึง ผิวกลาง


ตัวตลับด้านล่างจะมีรูระบายอากาศช่วยให้พัฟไม่อับชื้นอีกด้วยค่ะ


โดยตัวตลับจะแบ่งเป็น 2 ชั้น เปิดมาชั้นแรกจะเป็นเนื้อแป้ง มาพร้อมกระจก ที่ส่องได้พอดีหน้าค่ะ ไม่เล็กไม่ใหญ่ไป พอเปิดออกมาอีกชั้นก็จะเห็นพัฟสีขาวน่ารักนอนอยู่ในนั้นค่ะ


พัฟก็จะมีความแน่นแต่นุ่มน่ารัก เหมือนเนื้อมัชเมลโล่ ขนมที่เราคุ้นชื่อกันเลย มีความยืดหยุ่นดี แต่ไม่ได้หนามากค่ะ

ลักษณะ เนื้อ สี กลิ่น


เนื้อแป้งมีความละเอียดมาก สีไปในโทนเหลืองผิวคนไทย แถมมีกลิ่นหอมขนมนิดๆด้วยค่ะ ตอนแตะเนื้อแป้งออกมาก็ไม่ค่อยมีฝุ่นแป้งร่วงให้เป็นเลยทางแบรนด์น่าจะอัดแป้งมาค่อนข้างแน่นค่ะ ถือเป็นอะไรที่ดีมาก


หลังจากที่มิ้วลองใช้พัฟกดๆลงไปที่หลังมือก็พบว่าผิวด้านที่ทาดูละเอียดขึ้น และกระจ่างใสมากขึ้นกว่าด้านที่ยังไม่ได้ทาค่ะ สีออกแนวโทนเหลืองๆไม่ทำให้ผิวของมิ้วเทาแต่อย่างใด แถมยังกลบสีเส้นเลือดของมิ้วได้ดีเลยทีเดียว

ยิ่งลองทาที่หลังมือความแตกต่างก็จะชัดเจนยิ่งขึ้นค่ะ  มิ้วลองแบ่งฝั่งด้วยการเขียนอายไลน์เนอร์สีดำ จะเห็นได้ว่า ฝั่งที่ทาผิวดูกระจ่างใสขึ้นมาเลย ดูเรียบเนียนกว่าด้านที่ไม่ได้ทา แต่ความปกปิดนั้นจะบางเบา หรือสีของอายไลน์เนอร์อาจจะเข้มเกินกว่าที่แป้งจะปกปิดได้ค่ะ


ลองทาดูบนใบหน้า

ลักษณะผิว : ผิวผสมค่อนไปทางมันบริเวณ คาง จมูก หน้าผาก ผิวไม่แพ้ง่าย

บริเวณที่มีปัญหา : รอยคล้ำใต้ตา รอยกระ จุดด่างดำ


เวลาที่มิ้วใช้ ก็จะใช้หลังจากที่ทาสกินแคร์แล้วค่ะ โดยในรูปมิ้วจะแบ่งฝั่งก็คือจะมีด้านที่ ทาคอลซิลเลอร์(ที่ตาซ้ายก็คือด้านที่มิ้วถือแป้ง) แล้วก็ด้านที่ไม่ทาอะไรเลยค่ะ เปรียบเทียบกัน  


มิ้วก็จะกดแป้งออกมาจากตลับ แล้วกดซับไปที่ใต้ตาก่อนอันดับแรก เกลี่ยออกไปด้านข้างค่ะ เพราะการกดซับจะทำให้เนื้อแป้งติดผิวของเรามากกว่าการปาดๆไปนั่นเอง 
จากนั้นก็มาทาที่หน้าแก้ม คาง และหน้าผาก แล้วก็มาทาที่คอค่ะ สีผิวจะได้เท่ากันทั้งใบหน้าและคอนั่นเอง




หลังทาเสร็จแล้วก็จะเห็นได้ชัดเลยค่ะว่าฝั่งที่ทาแล้วหน้าดูแมทมากแต่ก็ดูไม่แห้งจนเป็นขุย เมื่อเทียบกับด้านที่ไม่ได้ทา ผิวดูเรียบเนียนขึ้นผิวดูสม่ำเสมอมากขึ้น กระจ่างใสมากขึ้น และที่สำคัญหน้าก็ไม่เป็นคราบด้วยค่ะ


เมื่อแต่งหน้าเสร็จแล้วก็จะได้เป็นประมาณนี้เลยค่ะ แต่งหน้าง่ายขึ้น ไม่เป็นคราบไม่เป็นขุยอีกด้วย


ส่วนความปกปิดก็อยู่ในระดับปานกลาง สามารถกดแป้งทาซ้ำได้ในบริเวณที่ต้องการปกปิดเป็นพิเศษโดยที่ไม่ดูหนาเกินไปค่ะ


นอกจากนี้มิ้วก็ได้ลองใช้ sasi MOUSSE MELLOW Foundation Powder ในแต่ละวันแต่งออกมาได้หลายลุคเลย แถมยังออกไปทำกิจกรรมทดสอบประสิทธิภาพของแป้งกันอีกด้วย ไปดูดีกว่าว่ามิ้วไปไหนมาบ้าง




วันที่1 มิ้วทาแป้ง sasi MOUSSE MELLOW แล้วพาทุกคนไปทำบุญที่ศาลพระกาฬ และทำบุญโลงศพให้ศพไร้ญาติ ที่มูลนิธิ ในตัวเมืองลพบุรีค่ะ อากาศมวันนั้นก็คือร้อนสมใจอยากเลยจะได้ทำสอบได้ดี หลังจากทำบุญเสร็จก็กลับบ้านมาแล้วพบว่าหน้าก็ยังอยู่เหมือนเดิม แต่มีความมันขึ้นมานิดนึงค่ะ


วันที่ 2 มิ้วใช้แป้ง sasi MOUSSE MELLOW แล้วไปตลาดนัดค่ะ ไปช่วงเย็น แต่ว่าทาแป้งตั้งแต่เช้าแล้ว ดูสิขนาดตอนเย็นแล้วแดดยังร้อนอยู่เลย ฮ่าๆ แต่หน้าก็ยังสวยสู้แสงแดดอยู่นะคะ



วันที่ 3 มิ้วใช้แป้ง sasi MOUSSE MELLOW ไปตลาดอีกเช่นเคย แต่ครั้งนี้ไปตอนกลางวันค่ะ แดดเปรี้งเลยนี่แหละ หน้าก็สวยสู้แสงตอดทั้งวัน


จากนั้นก็ไปทำกิจกรรมตลอดทั้งวันค่ะ หลังจากผ่านไป 12 ชั่วโมง แบบไม่ซับหน้าเลย ผลที่ได้ก็จะออกมาเป็นประมาณนี้ค่ะ สีปากเริ่มหายไปแล้ว แต่ผิวหน้ายังมีแป้งติดอยู่(แต่ตรงช่วงจมูก คางหน้าผากแป้งจะเริ่มหายไปแล้ว) ความมันมีขึ้นมาแต่ยังอยู่ในระดับที่ไม่ได้มันเยิ้ม กำลังฉ่ำๆผิวค่ะ (อากาศตอนเย็นครึ้มฟ้าครึ้มฝนด้วยเลยไม่ร้อนเท่าไหร่) ผิวหน้ายังดูเรียบเนียนอยู่ด้วย




สรุปได้ว่า สิ่งที่มิ้วชอบใน แป้ง sasi MOUSSE MELLOW ตัวนี้ก็คือ

1. แพคเกจเป็นเนื้อด้าน ทำให้ไม่เกิดรอยนิ้วมือได้ง่าย เริ่ด!

2. เนื้อแป้งทาง่าย เกลี่ยง่าย ไม่เป็นคราบ

3.หลังทาทำให้ผิวเรียบเนียน และเบลอผิวได้จริง

4. ความคุมความมันได้จริง (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศของวันนั้นๆด้วย)

5. หลังทาแป้งหน้าดูแมทแต่ผิวไม่แห้งจริงค่ะ

6. คนที่แพ้แอลกอฮอล์  หรือ พาราเบนก็ใช้ได้

คำแนะนำ

1. ก่อนทาแป้งควรฉีดสเปรย์น้ไแร่เพื่อทำให้หน้าชุ่มชื้นก่อน จะทาแป้งติดผิวดีค่ะ

2. ถ้าอยากปกปิดมากกว่านี้ควรใช้คอลซิลเลอร์ทาไปก่อนแล้วค่อยกดซับด้วยแป้งค่ะ


แป้ง sasi MOUSSE MELLOW Foundation Powder เหมาะกับใคร

1. นักเรียนนักศึกษา มือใหม่ที่อยากลองแต่งหน้า เพราะมาในราคาเพียง 159 บาทเท่านั้น

2. คนที่แพ้แอลกอฮอล์ พาราเบน

3. คนที่มีผิวหน้ามัน

4. คนที่แต่งหน้าบ่อยๆ แต่ไม่อยากใช้ของแพง 

5.คนที่ต้องออกจากบ้านไปเจอแสงแดด เพราะแป้งตัวนี้ก็มีกันแดด SPF30 PA+++ เลยค่ะ


เนี่ยยยยยย เป็นยังไงกันบ้างคะ กับการ  รีวิว แป้งพัฟศศิ MOUSSE MELLOW Foundation Powder ตัวนี้ หวังว่าจะชอบและหลงรักแบบมิ้วนะคะ ควรมีมากๆเพราะมาในราคาที่ไม่แพงเลย แค่ 159 บาทเท่านั้น เป็นเริ่ด!! ถ้าใครสนใจอยากได้รีวิว หรือข้อมูลเพิ่มเติมก็สามารถสอบถามได้ที่ 

Website : https://www.sasicosmetics.com/th
Facebook : https://www.facebook.com/sasidiary/

สามารถหาซื้อได้ที่ EVEANDBOY, Watsons, Beautrium และร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศ
SHOPEE: https://invol.co/cl29j29
หรือช้อปออนไลน์ได้ที่ https://www.sasicosmetics.com/th



วันศุกร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2562

เพิ่มประสิทธภาพครีมขั้นสูงสุดด้วย Kuron Skin Enhancer | MG-Review

Kuron
Skin Enhancer


มิ้วเชื่อว่าทุกคนจะต้องทาครีมบำรุงเป็นประจำอยู่แล้วไม่ว่าจะเป็น ไม่ว่าจะเป็นครีมที่ช่วยทำให้หน้ากระจ่างใส ครีมที่ช่วยยกกระชับ หรทอแม้กระทั่งครีมกันแดดก็ตาม แต่จะดีขนาดไหนถ้ามีตัวช่วยที่ช่วยให้ครีมที่เราใช้อยู่นั้น มีประสิทธิภาพดีมากยิ่งขึ้น วันนี้มิ้วเลยมีตัวช่วยดีๆมาแนะนำค่ะ นั่นก็คือ Kuron Skin Enhancer นั่นเอง รายละเอียดจะเป็นอย่างไร มิ้วใช้แล้วเป็นอย่างไรบ้างนั้น ไปชมกันเลยค่ะ






Kuron Skin Enhancer เป็นเครื่องที่ช่วยผลักครีมให้ซึมเข้าสู่ผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ มากกว่าการทาครีมเพียงอย่างเดียว เป็นไอเท็มจิ๋วที่มีคุณสมบัติ

- คลื่นโซนิคความถี่ 158ครั้ง ต่อ วินาที 
ช่วยให้ครีมแตกตัวเป็นอณูเล็กๆซึมเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว

- ระบบสั่นสะเทือน
ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนทำให้ผิวมีความแข็งแรง

- ระบบเปิด/ปิดอัตโนมัติ ที่มีแถบสีเงินเป็นแถบสัญญาณอัจฉริยะ เมื่อถูกสัมผัส

- ผ่านมาตรฐานรับรองคุณภาพ มอก.

- รับประกันสินค้า 6 เดือน




ตัวกล่องมีสีขาวมุก สวยมากๆถึงจะเป็นกระดาษ ก็มีความแข็งแรง มาเป็นแบบมีฝาปิด ตอนเปิดก็ทำการดึงฝาขึ้นมา ก็จะเจอตัวเครื่องเลยค่ะ  ด้านหลังกล่องก็จะเป็น ชื่อผลิตภัณฑ์ วิธีใช้ สถานที่ผลิต วันที่ผลิต


ตัวเครื่องก็มีขนาดกระทัดรัด พกพาสะดวก น้ำหนัก 32 กรัม ส่วนประกอบก็มีดังต่อไปนี้ค่ะ


เวลาที่มิ้วใช้อันดับแรก ก็ทำการใส่ถ่าน AAA 1 ก้อนที่ด้านท้ายเครื่องก่อนค่ะ (ใช้ติดต่อกันได้นาน 4 ชั่วโมง) แล้วก็ศึกษา ข้อมูล อ่านคู่มือถ่อนการใช้งาน เพื่อที่เราจะได้ใช้คเรื่องได้อย่างถูกวิธีมากที่สุด


จากนั้น มิ้วก็ทาครีมไปที่ผิวหน้าค่ะ ในที่นี่ มิ้วจะเน้นไปที่รอบดวงตาเป็นหลัก มิ้วก็จะทาครีมบำรุงใต้ตาไปที่บริวเณใต้ตา เทคนิคของมิ้วก็คือ ใช้นิ้วนางในการทาค่ะ เพราะนิ้วนางจะเป็นนิ้วที่มีน้ำหนักน้อยที่สุด ดวงตาเราบอบบาง ต้องดูแลรักษาเอาไว้มากๆค่ะ ทาในลักษณะ ดึงขึ้นไปด้านบนเป็นรูปตัว U ค่ะ


จากนั้นก็เปิดฝาที่ครอบตัวหัวนวดอยู่ แล้วจับไปที่แถบสีเงินตรงตัวเครื่อง แล้วก็นวดไปบริเวณใต้ตาได้เลยค่ะ ไม่มีสวิตเปิดปิด แต่เราต้องจับโดนแถบสีเงินไว้ตลอดเวลาที่เรานวดนั่นเอง

 เวลานวด ก็นวดให้มีลักษณะ ดึงขึ้นเช่นเดียวกัน ตามลูกศรเลย 

จะสังเกตว่า จะมีแสงไฟสีน้ำเงิน ที่แสดงสถานะว่าเครื่องทำงานอยู่นั่นเอง

มิ้วจะนวดฝั่งละ 3 ครั้งค่ะ แล้วก็อย่าให้เครื่องเข้าใกล้ตาตามากเกินไปค่ะ

พอใช้เสร็จแล้ว ก็ใช้กระดาษทิชชู่ เช็ดไปที่หัวนวดเพื่อทำความสะอาดค่ะแล้วก็ปิดฝาให้เรียบร้อยเป็นอันเสร็จ 


นอกจากนี้ยังสามารถนวดไปที่บริเวณอื่นได้ด้วยค่ะไม่ว่าจะเป็น ที่สันกราม ที่หน้าผาก หรือตรงหน้าแก้ม โดยนวดในลักษณะเดียวกันนั่นเองค่ะ



ตอนนวดมิ้วรู้สึกว่าผ่อนคลายมากๆ ยิ่งตรงหัวนวดเมื่อโดนอากาศเย็นๆ ตอนนวดไปที่ผิวของเราก็จะให้ความรู้สึกเย็นๆด้วย การสั่นก็ไม่ถึงกับแรงมากค่ะ เป็นความสั่น และความถี่ที่พอดีไม่แรงจนเกินไป

 หลังจากที่นวดไปทันทีเลยมิ้วรูสึกว่า ตรงบริเวณที่เรานวดนั้นได้รับการกระตุ้น อย่างชัดเจนจนค่ะ

มิ้วจะใช้เครื่องนวด เป็นประจำทุกวันหลังทาครีมบำรุง เช้า-ก่อนนอนค่ะ 


หลังใช้มาอย่างต่อเนื่อง 7 วัน มิ้วสังเกตได้ว่า ผิวหน้าดูกระชับขึ้น เมื่อสั่งเกตที่ใต้ตาก็พบว่า จากที่เคยมีถุงใต้ตาพอสมควร ก็ดูลดลง รอยคล้ำดูลดลงค่ะ (แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติครีมที่เราใช้ด้วยนะคะ)




เรียกได้ว่าดีงามมากๆเลยนะคะสำหรับไอเท็มจิ๋วที่ช่วยให้ครีมที่เราใช้อยู่นั้นทำงานได้ดียิ่งขึ้นมากกว่าที่เคย ตอนนี้ก็คือขาดไม่ได้เลยค่ะ ต้องใช้ทุกวันเป็นกิจวัตรไปแล้ว 555  สิ่งที่มิ้วชอบใน Kuron Skin Enhancer ตัวนี้คือ

- ตัวเครื่องมีความพกพาสะดวก ง่าย ไม่ใหญ่เทอะทะ
- หัวนวดมีขนาดไม่ใหญ่มากเกินไป จึงทำให้นวดได้อย่างตรงจุดมากขึ้น
- เครื่องมีความใช้งานง่ายมากๆ ชอบตรงที่แตะที่ผิวเมื่อไหร่เครื่องก็ทำงานทันที ไม่ต้องกด เปิด ปิดให้เสียเวลา
- ชอบแถบสีเงินที่มีความอัจฉริยะจริงเพราะมันจะทำงานเฉพาะเวลาที่ถูกผิวของเราเท่านั้น ถึงเราจะจับแถบสีเงิน แต่พอเราเอาหัวนวดไปแตะกับสิ่งต่างๆที่ไม่ใช่ผิวเนื้อของคน มันก็จะไม่ทำงานนั่นเองค่ะ
- ความถี่อยู่ในระดับที่พอดี ไม่มมากไปไม่น้อยไปค่ะ



  เรียกได้ว่าควรมีมากๆเลยนะคะสำหรับ  Kuron Skin Enhancer ตัวนี้ เพราะนอกจากจะเป็นเหมือนเครื่องนวดหน้าแบบพกพาแล้ว ก็ยังช่วยให้ครีมบำรุงที่เราใช้อยู่นั้นซึมเข้าสู่ผิวหน้าและทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดอีกด้วยค่ะ 



 Kuron Skin Enhancer ก็เหมาะมากๆสำหรับคนที่มีริ้วรอยต่างๆไม่ว่าจะเป็น ถุงใต้ตา รอยเหี่ยวย่น หรือคนที่เริ่มอยากจะให้ใบหน้าของเรายกกระชับมากขึ้นค่ะ แต่อย่างที่เน้นย้ำกันตลอดนะคะว่า ยิ่งใช้คู่กับครีมที่ช่วย ในเรื่องของการยกกระชับ ก็จะเป็นการส่งเสริมได้ดียิ่งขึ้นค่ะ



วันอังคารที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2561

ผิวหน้าและตัวเนียนสวย ด้วย Brightening Scrub Set จาก HERB GARDEN | MG-Review

 Brightening Scrub Set 
HERB GARDEN


ผิวสวยเรียบเนียนไม่ใช่แค่การทาครีมบำรุงผิวค่ะ จริงๆมันเริ่มต้นตั้งแต่การอาบน้ำแล้ว และยิ่งเรามีตัวช่วยที่ดีก็จะส่งผลให้ผิวเราสวยขึ้นไปอีก วันนี้มิ้วเลยมี เซทผิวสวยมาแนะนำ ซึ่งจะมีอะไรดีไปกว่าของดีในบ้านเราอย่างมะขามล่ะคะ  นอกจากจะเป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติแล้ว ราคาก็ยังจับต้องได้อีกด้วย ตัวนี้มีชื่อว่า  Brightening Scrub Set จากแบรนด์ HERB GARDEN นั่นเอง จะมีรายละเอียดอย่างไร มิ้วใช้แล้วจะเป็นอย่างไรนั้น ไปชมกันเลยจร้า







แบรนด์ HERB GARDEN เป็นแบรนด์ที่มีผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติมากมาย ซึ่งเกิดมาจากเจ้าของแบรนด์นั้นแพ้สารเคมีจากผลิตภัณฑ์ที่ใช้อยู่ เลยเปลี่ยนมาลองใช้สมุนไพร ผลไม้ ที่มีอยู่ในบ้านของเราเอามาผสมกัน แล้วปรับรูปลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ให้มีความน่าซื้อ น่าสนใจมากขึ้น (อันนี้จากที่มิ้วเข้าไปดูในเพจ เขามานะคะ) จะเกิดเป็นเซท ผลิตภัณฑ์ต่างๆขึ้นมา ซึ่งเซทที่มิ้วได้มาก็มีชื่อว่า  Brightening Scrub Set เป็นเซทที่รวมเรื่องเกี่ยวกับการช่วยให้ผิวนวลเนียนกระจ่างใส (มิ้วจะไม่พูดว่าขาวแล้วกันนะคะ ประมาณว่าผิวเราจะสว่างขึ้นไม่ขาวจนโอเวอร์) ในเซทนี้มีทั้ง ครีมมะขามขัดผิว กับสบู่มะขาม แถมยังมีถุงตาข่ายตีฟองมาให้ด้วย ไปดูกันว่าเป็นอย่างไรบ้าง



ตัวกล่อง


มาในกล่องกระดาษเคลือบลายหินอ่อนเป็นแบบมีฝาปิด เห็นแค่กล่องก็คือสวยงามมากๆแล้วค่ะ เพราะมิ้วเป็นคนนึงที่ชอบลายหินอ่อนมากฮ่าๆ สวยหรูดูแพง แต่มาในราคาไม่แพง แค่เซทละ 199 บาท 


ด้านบน จะเป็นชื่อแบรนด์ ประทับตราเอาไว้ ตัวกล่องถูกดีไซน์ให้เป็นเหมือนกล่องของขวัญ ที่สามารถนำไปเป็นของขวัญในวันสำคัญๆต่างๆได้เลยค่ะ


พอเปิดออกมาก็จะเห็นตัวครีมมะขาม และก็สบู่มะขามค่ะ 


ลักษณะเนื้อ สี กลิ่น

ครีมมะขาม


ครีมมะขามมาในกระปุกพลาตติกใส ขนาด 135 กรัม มีความกระทัดรัด เอาไปใช้ตอนไปเที่ยวได้ค่ะ


เมื่อเปิดมาก็จะเจอ เนื้อครีมมะขามที่มีความเนียนละเอียด สีออกน้ำตาลเข้มๆ มีความเข้มข้นมากๆ
กลิ่น ก็จะเป็นมะขาม แต่ไม่ฉุน ออกแนวหอมๆละมุนๆค่ะ


ซึ่งในครีมมะขามนี้จะมีส่วนผสมของ 
- มะขาม ที่เป็นมะขามเปรี้ยว จะมีกรด AHA ธรรมชาติที่ช่วยในเรื่องการผลัดเซลล์ผิว นอกจากนี้ยังมีวิตามินซี กรดซิตริก (citric acid) กรดมาลิก และกรดทาร์ทาริก (tartaric acid) ในมะขาม ยังช่วยลบรอยด่างดำบนใบหน้า กำจัดรอยเหี่ยวย่น ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ทำให้ผิวขาวนวลเนียน ทำให้ผิวอ่อนเยาว์ขึ้น
- นม และน้ำผึ้ง ช่วยให้ผิวนุ่มลื่น นวลเนียนและแข็งแรง


สบู่มะขาม


สบู่มะขามมาในขนาดใหญ่สะใจ 150 กรัม มีปุ่มนวดช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด 


ตัวสบู่มีสี น้ำตาลเข้มๆและมีกากกาแฟผสมอยู่ด้านใน จะสังเกตเห็นเม็ดเล็กๆอยู่ด้านในสบู่ค่ะ
กลิ่นจะหอมมะขามผสมกาแฟนิดๆ เนื้อสบู่ มีความแน่นกดแล้วไม่ยุบตัว


ลืมบอกไปว่าในสบู่มะขามนี้มี กากกาแฟ และขมิ้นผสมอยู่ด้วยค่ะ เรียกได้ว่ารวมสูตรผิวใสเลยทีเดียวจร้า


เมื่อเอามาใส่ในตาข่ายตีฟองเนื้อฟองสบู่จะมีความแน่นและนุ่มมากๆ


วิธีใช้

ครีมมะขาม


มิ้วจะใช้ตอนอาบน้ำ สัปดาห์ละ 1-2 ครั้งค่ะ โดยการทำหน้าให้เปียกก่อน แล้วเอาครีมมะขามมาผสมกับน้ำเพียงเล็กน้อยแล้วผสมให้เข้ากันพอให้ครีมมะขามละลายเป็นของเหลว แล้วทาวนๆให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ 5 - 10 นาที แล้วไปล้างออก
ตอนถูครีมมะขามไปก็ไม่รู้สึกแสบหน้า หรือเจ็บหน้าแต่อย่างใด เนื้อครีมนุ่มลื่นไปกับผิวหน้าได้ดีค่ะ จากนั้นก็อาบน้ำล้างหน้าปกติเลยจร้า




สบู่มะขาม


จริงๆระหว่างรอการพอกหน้าของครีมมะขาม เราก็สามารถฟอกสบู่มะขามไปได้เลยค่ะ ก็เอาสบู่มะขามมาใส่ถุงตาข่ายตีฟอง แล้วก็มาถูๆที่ตัว พอฟอกทั่วตัวแล้ว ก็เอาฝั่งที่มีปุ่มมาถูๆนวดๆให้ทั่วตัวได้เลยค่ะ จากนั้นก็ไปล้างออกแล้วอาบน้ำตามปกติเลย






ความรู้สึกหลังใช้

ครีมมะขาม


ผิวก่อนล้างหน้า ก็จะมีความมัน รูขุมขนกว้างบริเวณหน้าแก้ม มีสิวเสี้ยนที่จมูก 
หลังล้างหน้า เสร็จพบว่า หน้ามีความชุ่มชื้น นุ่มลื่น รูขุมขนกระชับขึ้น ผิวหน้าเลยดูเรียบเนียน พร้อมรับการบำรุงผิวต่อเลยจร้า





สบู่มะขาม


ผิวก่อนใช้ มีความแห้งกร้าน และสากเล็กน้อย
หลังใช้ ผิวมีความนุ่มลื่น ชุ่มชื้น ดูเรียบเนียนขึ้น มีความกระจ่างใสขึ้นมาเล็กน้อยจร้า



บทสรูป และคำแนะนำ
ในส่วนของครีมมะขามนอกจากน้ำเปล่าแล้ว เราสามารถผสมได้ทั้งนมจืด โยเกิร์ต น้ำผึ้ง ผงขมิ้น เพื่อให้ได้การบำรุงที่มากกว่าเดิมค่ะ และอย่างที่บอกก็คือ ไม่ควรใช้ทุกวัน เพราะผิวหน้าเราอาจจะโดนขัดมากไปจนระคายเคืองได้ แล้วก็อย่าลืมหลัง สครับผิวและอาบน้ำเสร็จแล้วก็อย่าลืมทาครีมบำรุงผิวเพื่อทำให้ผิวได้รับการบำรุงอย่างต่อเนื่องค่ะ

แล้วนอกจากจะดูแลผิวจากภายนอกแล้ว ก็อย่าลืมดูแลภายในด้วย นั่นก็คือการเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกาย พักผ่อนและดื่มน้ำให้เพียงพอจร้า


เป็นอย่างไรบ้างคะสำหรับ  Brightening Scrub Set จาก HERB GARDEN ที่มิ้วเอามารีวิวในวันนี้ หวังว่าจะชอบกันนะคะ แล้วสำหรับใครที่อยากได้เซทนี้ไว้ในครอบครองก็ไปจัดกันหรือสอบถามเพิ่มเติม ได้เลยจร้าที่


เซทนี้ราคาเพียง 199 บาทเท่านั้น ใครอยากมีผิวสวยนวลเนียนแต่ราคาไม่แพงก็แนะนำให้ไปซื้อหามาใช้กันได้เลยนะคะ